สำหรับเรา เราว่าจำเป็นอย่างยิ่งค่ะ ที่คบกันแล้วผู้ชายต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าทานข้าว
ดูหนัง เวลาไปเที่ยวกัน
ไม่ได้เห็นแก่ตัวนะคะ แต่มันเป็นการแสดงความเอาใจใส่อย่างนึงค่ะ
พอเค้าเสนอมาแบบนี้ เราอาจจะเลี้ยงเค้ากลับในมื้อถัดไปก็ได้
คุณผู้ชายเลี้ยงข้าว คุณเองก็อาจจ่ายค่าไอศกรีมก็ได้
คือแนวช่วยๆเหลือกัน ไม่ใช่ว่าทุกครั้งที่ไปต้องมีการตั้งกฎเกณฑ์ไว้ว่าต้องหารครึ่งกันนะ
มันดูอึดอัดเกินไปหน่อยค่ะ เราไม่สนับสนุนให้หารครึ่ง
เราเคยอ่านในเน็ตมีคนมาโพสต์ว่า ผู้ชายชวนเค้าไปทานข้าวเย็นกัน
เป็นร้านอาหารกึ่งๆดูดีนิดนึง พอพนักงานมาคิดเงิน สมมติว่า600บาท
ผู้ชายบอกกับผู้หญิงคนนี้ว่า เอ่อ คนละ300ครับ
เราอ่านแล้วอยากเข้าไปกระโดด"ดร็อปคิก"อีตานั่นจริงๆ
อะไรหว่า ชวนผู้หญิงไปกินข้าวแท้ๆ ดันไปให้เค้าหารครึ่ง
สำหรับเราถ้าไปทานข้าวกันครั้งแรก เราไม่เอ่ยว่าเราช่วยออกนะ
แต่จะเสนอเลี้ยงไอศกรีมแทน
สำหรับแฟนเราคนนี้ ตอนคบกันใหม่ๆเค้าจะไม่ยอมให้เราออกเลยค่ะ
จนเราบอกว่าขอออกเงินมั่งเหอะนะ กินเงินเดือนที่บ้านทั้งคู่เหมือนกัน
บางมื้อเราก็ขอเลี้ยงเค้า สรรหาไปกินโน่นกินนี่ หมดกับค่ากินไปก็เยอะค่ะ
ส่วนเรื่องบ้าน ตอนนี้ที่บ้านแฟนเค้าสร้างบ้านให้อยู่หลังนึงในเนื้อที่บ้านเดิมค่ะ
เป็นที่ต่างหากไม่ใช่ในหมู่บ้านนะคะ พ่อแม่เค้าจะให้อยู่หลังเราแต่งงานค่ะ
แต่ประเด็นสำคัญคือก่อนที่พ่อแม่เค้าจะสร้างบ้านให้ ดันไม่รู้มาก่อน
เลยไปซื้อบ้านในหมู่บ้านแลนด์แอนด์เฮ้าส์ไว้หลังนึง แต่ที่บ้านเค้าอยากให้อยู่ใกล้ๆ
เลยมีสองหลังเฉยเลย
เรื่องบ้านแลนด์ เราบอกว่าจะช่วยนะ
แต่แฟนบอกว่าไม่ต้อง เค้าจัดการเอง เลยกะว่าจะซื้อเฟอร์นิเจอร์มาลงให้แทน
ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับแต่ละคนค่ะ ว่าเค้ามายด์หรือไม่กับเรื่องพวกนี้