ในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวล้ำอย่างรวดเร็ว "การรักษาด้วยสเต็มเซลล์" ได้กลายเป็นนวัตกรรมที่น่าจับตามองมากที่สุด สเต็มเซลล์มีความสามารถพิเศษในการฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และปรับสมดุลภายในร่างกายได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งคำถามยอดฮิตที่หลายคนมักสงสัยคือ "สเต็มเซลล์รักษาโรคอะไรได้บ้าง?" คำตอบคือหลากหลายมาก ตั้งแต่โรคเรื้อรังไปจนถึงการฟื้นฟูความงาม

หนึ่งในโรคยอดนิยมที่นำสเต็มเซลล์มาใช้ในการรักษาคือ โรคข้อเข่าเสื่อม โดยการฉีดสเต็มเซลล์เข้าไปที่ข้อต่อ สามารถช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของกระดูกอ่อน ลดการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการใช้สเต็มเซลล์ในการฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เบาหวาน ตับเสื่อม และแม้กระทั่งโรคทางระบบประสาทบางชนิด เช่น พาร์กินสัน

ในด้านความงาม สเต็มเซลล์ก็มีบทบาทไม่แพ้กัน หนึ่งในนวัตกรรมยอดนิยมคือ PRP (Platelet-Rich Plasma) หรือที่หลายคนค้นหาว่า “prp หน้าใส คือ” โดย PRP คือการนำเลือดของผู้ป่วยมาสกัดแยกเอาเกล็ดเลือดที่อุดมไปด้วยโปรตีนและสารกระตุ้นการเจริญเติบโต แล้วฉีดกลับเข้าสู่ผิวหน้า เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

แม้ว่า PRP จะไม่ใช่สเต็มเซลล์โดยตรง แต่การรักษาทั้งสองแนวทางมีจุดร่วมสำคัญคือการกระตุ้นระบบฟื้นฟูตามธรรมชาติของร่างกาย ทั้งยังปลอดภัยเพราะใช้สารจากร่างกายของผู้ป่วยเอง ทำให้ลดความเสี่ยงในการแพ้หรือเกิดผลข้างเคียง

เมื่อพิจารณาถึงประสิทธิภาพของสเต็มเซลล์ในหลายด้าน คงไม่เกินจริงนักหากจะกล่าวว่านี่คือ "นวัตกรรมแห่งอนาคต" ที่เปลี่ยนแปลงโลกแห่งการรักษาและความงามให้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง