การ เก็บสเต็มเซลล์ เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคในอนาคต โดยแหล่งที่นิยมเก็บสเต็มเซลล์มีหลายแหล่ง เช่น Placenta (รก), สายสะดือ, ไขกระดูก และไขมันของผู้ใหญ่ แต่ละแหล่งมีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าการเก็บจาก Placenta หรือแหล่งอื่น แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน
การเก็บสเต็มเซลล์จาก Placenta
Placenta หรือรกเป็นแหล่งสเต็มเซลล์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว เพราะมีทั้ง Mesenchymal Stem Cells (MSCs) และ Hematopoietic Stem Cells (HSCs) ซึ่งช่วยซ่อมแซมเซลล์ร่างกายและสร้างเซลล์เม็ดเลือดใหม่
ข้อดีของการเก็บสเต็มเซลล์จาก Placenta
ปริมาณเซลล์สูงกว่าการเก็บจากสายสะดือเพียงอย่างเดียว
สเต็มเซลล์จาก Placenta มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบและช่วยซ่อมแซมอวัยวะได้ดี
ไม่ต้องเจ็บตัว เพราะสามารถเก็บจากรกที่คลอดออกมาแล้ว
ข้อเสีย
ต้องดำเนินการทันทีหลังคลอด ไม่สามารถเก็บย้อนหลังได้
มีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บระยะยาว
การเก็บสเต็มเซลล์จากแหล่งอื่น
สายสะดือ (Cord Blood & Cord Tissue) – มี HSCs สูง เหมาะกับการรักษาโรคเลือด
ไขกระดูก (Bone Marrow) – ใช้รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือด แต่ต้องเจาะเก็บจากผู้ให้
ไขมัน (Adipose Tissue) – สะสม MSCs ปริมาณมาก แต่ใช้ได้เฉพาะในผู้ใหญ่
เปรียบเทียบความคุ้มค่า
✔ Placenta คุ้มค่าที่สุดในแง่ของปริมาณสเต็มเซลล์และความสามารถในการซ่อมแซมร่างกาย
✔ สายสะดือ เหมาะสำหรับการรักษาโรคเลือด แต่ปริมาณเซลล์อาจน้อยกว่า
✔ ไขกระดูกและไขมัน อาจไม่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด และการเก็บมีความเจ็บปวด
สรุป
หากต้องการ เก็บสเต็มเซลล์ ไว้ใช้ในอนาคต การเก็บจาก Placenta เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะให้ปริมาณเซลล์สูง ใช้รักษาได้หลายโรค และไม่มีผลข้างเคียงจากการเก็บข้อมูล อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกแหล่งเก็บที่เหมาะกับสุขภาพและงบประมาณของคุณมากที่สุด