‘การแต่งงาน’ คงเป็นเรื่องที่คู่รักหลายคู่ฝันถึง เนื่องจากเป็นเหมือนการได้ประกาศความรักให้คนทั่วไปได้รับรู้ อีกทั้งยังมีพิธีการที่น่าจดจำ สามารถสร้างความประทับใจให้ได้ทั้งกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาว รวมถึงคนรอบข้าง แต่งานแต่งงานเป็นงานที่มีค่าใช้จ่ายสูงและมีหลายรายการต้องใช้เงิน ดังนั้นการเก็บเงินแต่งงาน จึงต้องมีการวางแผนการเงิน ค่าใช้จ่ายสำคัญของงานแต่งงานประกอบด้วย ดังนี้


สถานที่จัดงานแต่งงาน: ค่าเช่าสถานที่จัดงานแต่งงานจะเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายสูงสุดของงานแต่งงาน คุณควรคำนวณงบประมาณของค่าเช่าและเลือกสถานที่ตามงบประมาณของคุณ

การจัดหาอาหารและเครื่องดื่ม: การจัดอาหารและเครื่องดื่มในงานแต่งงานเป็นสิ่งที่สำคัญและค่าใช้จ่ายสูง คุณควรเลือกเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ

เสื้อผ้าและอุปกรณ์: เสื้อผ้าและอุปกรณ์สำหรับงานแต่งงานอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง คุณควรเลือกสไตล์และสีที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ รวมถึงการเลือกเครื่องประดับและรองเท้าที่เหมาะสมกับชุดเดียวกัน

บริการพิธีกรและเครื่องเสียง: ค่าใช้จ่ายสำหรับบริการพิธีกรและเครื่องเสียงจะขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณและสถานที่จัดงาน คุณควรตรวจสอบราคาและคุณภาพของบริการพิธีกร

เคล็ดลับการเก็บเงินแต่งงาน
การเก็บเงินแต่งงาน เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคู่รัก แต่มักจะมีหลักการและวิธีการเก็บเงินแต่งงานที่สามารถนำมาใช้ได้โดยทั่วไป ดังนี้

กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม: ก่อนที่จะเริ่มวางแผนการเก็บเงินแต่งงาน คู่รักควรกำหนดงบประมาณที่เหมาะสม โดยพิจารณาตามรายได้และค่าใช้จ่ายของทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม ควรเตรียมตัวสำหรับความเป็นไปได้ที่คุณลูกค้าของคู่รักจะมีความต้องการเพิ่มเติมที่จะเป็นต้นการของม่านประตูพลาสติก การติดตั้งระบบแอร์ หรือการซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ เมื่อมีการวางแผนการเก็บเงินแต่งงาน ควรคิดจุนเจ้าของบ้านเข้าด้วย

จัดการเงินให้มีรายได้สูงขึ้น: หากคู่รักต้องการเพิ่มรายได้เพื่อเตรียมเงินแต่งงาน อาจต้องคิดวิธีการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ เช่น ลดค่าใช้จ่ายในการช้อปปิ้งที่ไม่จำเป็น เพิ่มรายได้โดยการทำงานเสริมหลังเลิกงานหรือใช้สินเชื่อส่วนบุคคล

เปิดบัญชีร่วมกัน: คู่รักควรเปิดบัญชีธนาคารแยกต่างหากสำหรับเก็บเงินแต่งงาน โดยทั้งคู่อาจต้องทำการกำหนดจำนวนเงินเก็บออม โดยมีเป้าหมายเป็นยอดค่าใช้จ่ายสำหรับจัดงานแต่งที่ได้คุยกันไว้ในข้อแรก นำมาเป็นตัวตั้ง แต่ทั้งคู่จะร่วมเก็บในจำนวนเท่า ๆ หรืออาจมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคู่

กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน: โดยกำหนดเวลาว่าต้องเก็บเงินแต่งงานให้ได้ถายในระยะเวลาเท่าไร เช่น ภายในหนึ่งปี โดยอาจทำได้ด้วยการเพิ่มช่องทางการหารายได้ เช่น การหาอาชีพเสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ