ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำมาฝากนะคะ

ขอแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ Meesook เคยได้รับ forwarded mail เรื่องนี้มานานสองสามปีแล้วค่ะ แต่ตอนนั้นไม่มีบอกว่ามาจากโรงพยาบาล และก็ได้รับเมล์แจ้งว่าเป็น smap ก็เลยไม่ได้สนใจ

แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้รับ forwarded mail อันเดียวกับที่เจ้าของกระทู้มาโพสเลยค่ะ แต่คราวนี้มีการระบุว่าออกมาจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เหมือนกัน เลยโทรไปสอบถามทางโรงพยาบาลค่ะ จะได้รู้ให้แน่ชัด ถ้าจริง จะได้เลิกใช้ของเหล่านั้น

โทรไปสอบถามที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ชื่อคุณอุดมพร รัตนวงศ์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า forward mail นี้ ไม่ได้ออกมาจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ค่ะ คนที่ forward ได้ตัดต่อสัญญลักษณ์ และรายละเอียดของโรงพยาบาลมาติดไว้ที่ mail เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งตอนนี้ทางผู้บริหารโรงพยาบาลกำลังดำเนินการอยู่ค่ะ เพราะถือว่าเป็นการกล่าวอ้างถึงโรงพยาบาลโดยไม่ถูกต้องค่ะ

ส่วนเรื่อง triclosan นี่เป็นที่พูดถึงในโลกอินเตอร์เนตมานานแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่มีรายงานที่รับรองได้ว่า tricolsan ในยาสีฟัน สบู่ หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะสามารถทำให้เกิดมะเร็งได้ค่ะ รายละเอียดตามที่คุณ Keroro ให้มานะคะ

เพราะงั้นยังไม่ต้องตกอกตกใจกันไปนะคะ...



Quote Originally Posted by KeRoRo View Post
หุหุ ขออ้างอิงคำตอบ จาก ภก . ชัญญา นะคับ

ความปลอดภัยของการใช้สาร Triclosan ในเครื่องสำอาง
จากการที่มีข่าวลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ว่าสารไตรโคลซานในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สามารถทำ
ปฏิกิริยากับคลอรีนในน้ำประปา เกิดเป็นคลอโรฟอร์ม ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้ นั้น
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้สืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. มีการเผยแพร่ผลการศึกษาวิจัยของ Peter Vikesland จาก Virginia Polytechnic Institute and State University ใน Environmental Science & Technology Online News
ระบุว่าสารไตรโคลซาน
(Triclosan) ซึ่งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ล้างจาน (dishwashing soaps) สามารถทำปฏิกิริยากับคลอรีนใน
น้ำประปา (chlorinated water) เกิดเป็นคลอโรฟอร์ม (Chloroform) ซึ่งอาจถูกดูดซึมผ่านผิวหนัง หรือเมื่อสูดดม
เข้าสู่ร่างกาย อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้
2. เนื่องจากการศึกษาวิจัยดังกล่าวเป็นการทดลองในห้องปฏิบัติการ ปฏิกิริยาที่ก่อให้เกิดเป็น
คลอโรฟอร์มนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความเข้มข้นของไตรโคลซานในผลิตภัณฑ์ ความเข้มข้นของ
คลอรีนในน้ำ ความเป็นกรด-ด่าง รวมทั้งอุณหภูมิของน้ำด้วย ขณะนี้จึงไม่อาจสรุปได้ว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
เช่น ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของไตรโคลซาน จะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคหรือไม่อย่างไร ดังนั้น ผู้บริโภคยังไม่
ควรตื่นตระหนกเกี่ยวกับอันตรายของไตรโคลซานในเครื่องสำอางตามที่เป็นข่าว
3 . ไตรโคลซาน(Triclosan) เป็นสารที่มีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรีย (Antibacteria) จึงนิยมใช้เป็น
ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อความสะอาดหลายชนิด เช่น สบู่ ครีมอาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ยาสีฟัน
น้ำยาบ้วนปาก ตลอดจนน้ำยาล้างจานด้วย โดยพบว่ามีการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น เป็นสารกันเสีย และเป็น
สารยับยั้งแบคทีเรีย เป็นต้น
4 ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น รวมทั้งสหภาพยุโรป ยังคงอนุญาต
ให้ใช้สาร Triclosan เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้ ส่วนในประเทศไทยอยู่ระหว่างปรับกฎระเบียบให้สอดคล้อง
กับบทบัญญัติเครื่องสำอางอาเซียน โดยจะใช้ข้อกำหนดในทำนองเดียวกับสหภาพยุโรป ซึ่งอนุญาตให้ใช้สารนี้
เป็นสารกันเสียได้ในอัตราส่วนสูงสุดไม่เกิน 0.3 %
5. สหภาพยุโรปได้มีการติดตามความปลอดภัยของการใช้สาร Triclosan อย่างใกล้ชิด โดย
The Scientific Committee of Consumer Products [SCCP] ในการประชุมเมื่อ 10 ตุลาคม 2549 ได้
พิจารณาข้อมูลความปลอดภัยของการใช้สาร Triclosan ในเครื่องสำอาง โดยเฉพาะประเด็นของการดื้อยา
(development of bacterial resistance) และขณะนี้ที่ประชุมมีความเห็นสรุปได้ว่า สารนี้ยังคงมีความปลอดภัย
เมื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง
6. เมื่อติดตามข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้สารไตรโคลซาน พบว่าปัจจุบันสารนี้ยังคง
มีความปลอดภัย ในหลายประเทศอนุญาตให้ใช้สารนี้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการ
อาหารและยาจะได้ติดตามความปลอดภัยของการใช้สารนี้ อย่างใกล้ชิดต่อไป


ยังหารายงานที่ มีผลอย่างนัยสำคัญไม่เจอนะคับ ว่าทำให้เกิด Cancer จริง

ใจเย็นๆๆนะจ้ะ ใช้สอยได้ตามเหมาะสมนะจ้ะ