ปัจจุบันการดูแลผิวพรรณความงามเป็นเรื่องสำคัญของใครหลายคน และถ้าใครที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการดูแลผิวอยู่บ่อยครั้งคงคุ้นหูกับคำว่าสเต็มเซลล์อย่างแน่นอน เพราะมักจะเจอคำนี้อ้างอิงอยู่ในผลิตภัณฑ์จำพวกครีมดูแลผิว เครื่องสำอางอยู่เสมอ แต่สเต็มเซลล์คืออะไรและมีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวได้จริงหรือไม่มาหาคำตอบไปพร้อมกัน
สเต็มเซลล์ (Stem cell) คือเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถขยายเป็นเซลล์ลูกได้ไม่จำกัดจำนวนและยังสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นcellชนิดอื่นได้ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ สเต็มเซลล์จากตัวอ่อนและสเต็มเซลล์จากตัวโตเต็มวัย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองและพบว่าสเต็มเซลล์มีส่วนช่วยใช้รักษาโรคได้และยังช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมโทรมตามวัยให้ฟื้นตัวขึ้นมาได้
Plant Stem Cell คือ สเต็มเซลล์ที่อาศัยอยู่ในส่วนของเนื้อเยื่อหน่ออ่อนหรือรากอ่อน ซึ่งจะเจริญเติบโตแบ่งเซลล์ไปเป็นส่วนของต้นไม้ทั้งต้น
รกพืช คือส่วนของหน่ออ่อน ซึ่งมีเซลล์ต้นกำเนิด ( Stem Cell ) อยู่ มีความสามารถแยกตัวแล้วเจริญเติบโตเป็นเซลล์ใหม่ ดังนั้น คำว่ารกพืช และสเต็มเซลล์พืช ( เซลล์ต้นกำเนิดจากพืช ) จึงมักจะใช้ปะปนกันอันหมายถึงเซลล์ต้นกำเนิดนั่นเองอะไร คือเซลล์ต้นกำเนิด หรือ สเต็มเซลล์ ( Stem Cell ) ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันการทำลายเซลล์ จาก Hydrogen Peroxide ถ้านำสารสกัดทำเป็นครีมสเต็มเซลล์พืช โดยทาวันละ 2 ครั้ง ตามรอยตีนกา พบว่าสามารถทำให้ร่องตื้นขึ้น 8% ภายใน 2 สัปดาห์ หรือ 15% ภายใน 4 สัปดาห์ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ มักจะรวมรกพืชหรือสเต็มเซลล์ กับสารสกัดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องสำอางให้ได้สูงสุด ดังนี้
1. กระตุ้นการสร้าง Collagen
2. ซ่อมแซมเซลล์ผิว
3. ลดรอยย่น ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น
4. ลดจุด ด่าง ดำ
5. ช่วยอุ้มน้ำ เพื่อความชุ่มชื่น
6. ช่วยลดรอยลึกและร่องของผิว
7. เป็นสารเริ่มต้นในการสร้าง Collagen
8. ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
9. ทำให้ผิวตึงกระชับ
10. ลดการสร้างเซลล์เม็ดสี ช่วยทำให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้น
11. ช่วยลดการอักเสบของสิว
 Citizen Member /
 Citizen Member /  Trusted Member
 Trusted Member เพื่ออ่านคู่มือ ของเครื่องมือใดๆ ที่มีเครื่องหมายนี้
 เพื่ออ่านคู่มือ ของเครื่องมือใดๆ ที่มีเครื่องหมายนี้ 
 Previous
		Previous
	 
	 Downtown
Downtown 
		 
						
		 
						
		 
		 
					
					

 
                            
                            
                                  
				
				
				
					 Reply With Quote
  Reply With Quote 
			