กินแคลเซียมเท่าไหร่ถึงพอ และพอดี ?

คนเราควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงให้ได้ปริมาณแคลเซียมสุทธิที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือวันละ 800-1,200 มิลลิกรัม เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน เนื่องจาก
- ในวัยเด็กจนถึงช่วงหนุ่มสาวกระบวนการสร้างมวลกระดูกจะมากกว่าการทำลาย หรือการสลายของมวลกระดูก ร่างกายจะสะสมโครงสร้างกระดูก ทำให้เนื้อกระดูกมีความหนาแน่นจนกระทั่งถึงอายุ 30 ปี ก็จะเป็นช่วงที่ร่างกายมีโครงสร้างมวลกระดูกหนาแน่นที่สุด โดยผู้ชายจะมีมวลกระดูกมากกว่าผู้หญิง จากนั้นก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงถดถอยของการสร้างมวลกระดูก กระบวนการสร้างมวลกระดูกจะลดลง ทำให้มวลกระดูกค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จากการสลายของมวลกระดูกตั้งแต่อายุเลย 30 ปี เป็นต้นไป
- ในผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน หรือมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป จะเป็นช่วงที่ร่างกายเสียมวลกระดูกเร็วมากกว่าปกติ เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ต่ำลง ผู้หญิงจึงมีภาวะโรคกระดูกพรุนและกระดูกหักได้ง่ายมากว่าผู้ชาย
- เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ จะมีการสลายของมวลกระดูกมากขึ้น จะก่อให้เกิดโรคกระดูกพรุนทุกคน ดังนั้น การป้องกันภาวะโรคกระดูกพรุนให้มีประสิทธิภาพ ควรเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อย หรือก่อนอายุ 40 ปี โดยการรับประทานอาหารบำรุงกระดูกและมีแคลเซียมสุทธิเพียงพอ คือวันละ 800-1,000 มิลลิกรัม


แคลเซียมที่ดีต้องสกัดมาจากธรรมชาติ

ไม่เสมอไป แคลเซียมที่ดีต้องไม่ใช่แค่สกัดมาจากธรรมชาติ แต่ต้องผลิตมาจากธรรมชาติ เพราะ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้เกือบ 100% จึงไม่มีสารตกตะกอนค้างในไต
จะรู้ได้ยังไงว่าควรเลือกทานแคลเซียม ยี่ห้อไหนดี
ก่อนอื่นทุกคนต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ร่างกายของคนเราต้องการแคลเซียมสุทธิวันละ 800-1,000 มิลลิกรัม แต่เราได้รับแคลเซียมจากการทานอาหารในแต่ละวันเพียง 400 มิลลิกรัม เท่านั้นเอง ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของเนื้อเยื่อของร่างกาย เพราะฉะนั้นเราควรมองหาแคลเซียมที่จะมาช่วยเติมเต็มในส่วนที่ร่างกายขาดไป โดยการเลือกทาน แคลเซียมแอลเทรเนต เพราะเป็นแคลเซียมชนิดเดียวที่สามารถละลายน้ำได้ดีมากและถูกดูดซึมเข้าร่างกายได้เกือบ 100% เนื่องจากผลิตมาจากข้าวโพด จึงปลอดภัยและไม่มีสารตกตะกอนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่วในไต ไม่ทำให้ท้องอืดและท้องผูก

ประโยชน์ของ แคลเซียมแอลเทรเนต (แอล – ทรีโอเนต)

1. ลดภาวะความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน แคลเซียมช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก และแอลเทรเนต (แอล – ทรีโอเนต) จะช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจนในกระดูก
2. ลดภาวะความเสี่ยงโรคข้อเสื่อม ช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจนในกระดูก และกระดูกอ่อน รวมทั้งสร้างน้ำไขข้อ ทำให้กระดูกและข้อแข็งแรง
3. ถูกดูดซึมเข้าร่างกายได้เกือบ 100% เป็น Passive Transport ซึมผ่านระหว่างเซลล์ได้โดยไม่ต้องอาศัยวิตามินดี ซึ่งแคลเซียมชนิดอื่น ๆ ต้องใช้วิตามินดี เพื่อช่วยในการดูดซึม
4. ไม่ทำให้แน่นท้อง ท้องอืด และท้องผูก เนื่องจากแตกตัวละลายได้ดีในน้ำ จึงไม่หลงเหลือให้ตกตะกอนในลำไส้
5. แคลเซียมแอลเทรเนต (แอล – ทรีโอเนต) ผลิตมาจากข้าวโพด ทำให้เหมาะกับผู้ที่ทานมังสวิรัติที่ต้องการเสริมแคลเซียมในกระดูก ซึ่งแคลเซียมแอลเทรเนต (แอล – ทรีโอเนต) เพียงชนิดเดียวที่ได้รับสิทธิบัตรรับรองจาก USA ว่าสามารถป้องกัน และลดอาการอันเกิดจากโรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อมได้


สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการเสริมแคลเซียมให้กับร่างกายเพิ่มเติมได้ที่ http://www.cal-t.com/