สืบเนื่องจากจะมีงานแต่งงานเกิดขึ้น
ทางบ้านฝ่ายจูนเป็นฝ่ายชาย ได้พูดคุยกะฝ่ายญ. เรื่องค่าตัวเรียบร้อยแล้ว
ซื้อแหวนแต่งงานแล้ว เริ่มติดต่อสถานจัดเลี้ยงแล้ว
และที่สำคัญ... เมื่อวันที่ 31 มีนา ไปจองแพคเกตแต่งงานไว้แล้วด้วย
จ่ายค่ามัดจำไปครึ่งนึง ด้วยเงินสด 28,500 ฿
ต่อมาเย็นวันที่ 1 เมษา แม่จูนโทรมาบอกว่า จู่ๆ ฝ่ายญ. จะไม่แต่ง
ขอยกเลิก ทั้งๆ ที่ทราบว่าตรงนี้จัดการไปบ้างแล้ว
จะเรียกว่าพี่ชายจูน กะ ผู้ญ. "เลิกกัน" ก็ใช่ค่ะ
*** เหตุผลอะไรนั้น ไม่ทราบจิงๆ ค่ะ
อันนี้เกริ่นมาพอสมควร ขอเข้าประเด็นเลยนะคะ
ตอนค่ำวันที่ 1 จูนก็ได้รีบโทรติดต่อกลับไปทาง Sale ว่าเกิดปัญหาตรงนี้
โทรไป 2 เบอร์ที่เค้าให้ เค้าบอกที่นี่มีกัน 2 คน ญ. 1 ช. 1
หลายรอบเหมือนกันนะคะ จนฝ่ายช.รับสาย
จูนเลยบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เค้ารับทราบ แล้วต้องการบอกเค้าว่า
ขอคืนเงินได้มั๊ย หักไป 10-15% ค่าเสียเวลาไป ก็ไม่ว่ากัน
เค้าก็บอกว่าเด๋วให้ผู้ญ. อีกคนติดต่อกลับไป ตอนนี้เค้าไม่สะดวก จูนก็ ok รอ..
จนบ่ายวันที่ 3 จูนเลยโทรไปตามอีก ไม่รับซักเบอร์
หยิบเอกสารการซื้อขายกันมาดู เลยโทรตามไปที่บริษัท บอกมีเรื่องจะคุยกะ Sale คนนี้
Sale ญ.ก็โทรกลับมา เค้าบอกว่าเค้าเข้าใจ ขอเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้มั๊ย
เช่น จูนถ่ายรูปครอบครัว หรือ ตัดชุดร้านเค้า
แต่ พี่สาวจูนอยู่ออส พ่อเพิ่งเสียได้ 2 ปี พี่ชายตั้งแต่เกิดเรื่องก็บ้าๆ บอๆ
คุณแม่ก็เครียดไม่ใช่น้อย ไม่มีใครอยากถ่ายรูปครอบครัวหรอกค่ะ
เค้าก็บอกว่า เด๋วจะติดต่อกะทางผู้จัดการดู แล้วจะติดต่อจูนกลับมาว่าผลจะเป็นยังไง
จูนก็ ok รอก็รอ..
จากวันที่ 3 ถึง 19 ไม่มีวี่แววกาารติดต่อกลับมาเลยแม้แต่น้อย
ช่วงปลายๆ วันที่ 17 จูนได้ปรึกษากะผู้ใหญ่ถึงเคสนี้
ว่าจะเอายังไงดี เค้าไม่ติดต่อกลับมาเลย
เพื่อนจูนที่เคยเป็น Sale ก็บอกว่าร้าน wedding ไม่มีวันหยุดนะ
จูนก็เริ่มไม่ไหวละ จะเอายังไงก็ไม่โทรมาบอก ถ้าอยากให้เราเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น
ก็คุยกันหน่อยสิ ปล่อยเรารอๆๆๆๆ มันทำให้จูนไม่มีใจจะรับร้านเค้าได้อีกอ่ะค่ะ
(ขนาดเพื่อนจูนจะแต่งงาน เค้าเหมือนจะสนใจแพคเกตนี้
จูนยังไม่กล้าแนะเลย..
ถึงเวลาจิงๆ จะตามงานรึป่าวก็ไม่รู้ จะบริการดีเหมือนตอนโน้มเราซื้อกะเค้ารึป่าว?)
แม่จูนเองก็ไม่อยากมีปัญหา คือ จะหักค่าเสียเวลาก็หักไป ไม่ว่ากัน
เพราะเรายกเลิกแค่ 1 วันเท่านั้นหลังจ่ายเงินไปแล้ว
แล้วทางจูนเองก็ไม่ตั้งใจให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นด้วย
ผู้ใหญ่เลยแนะทนายให้อ่ะค่ะ ทางทนายก็บอกว่าสัญญาที่จูนทำกะทางร้าน
เป็นสัญญาที่ทางร้านกระทำฝ่ายเดียว คือเค้ามีสิทธิ์ยกเลิกได้ตลอด
อีกอย่างหลังจ่ายเงินไป จูนกะทางร้านยังไม่ได้มีการเริ่มงานบริการกันเลย..
วันที่ 19 จูนเลยบุกค่ะ บุกไปร้าน wedding กะคุณพ่อคุณแม่เพื่อน พร้อมน้องเพื่อน และแม่จูน
**ที่ต้องเอาคนไปเยอะ เพราะ ด้วยค.ที่จูนยังเด็ก และไม่รู้ บางทีการคุยเรื่องสำคัญๆ
อาจไม่บรรลุจุดประสงค์ได้ เลยต้องนำผู้ใหญ่ที่มีค.น่าเชื่อถือไปเจรจาด้วย
พอไปถึงปุ๊บ ป๊ะกะ Sale ช. เค้าก็ตกใจที่เห็นจูน แล้วถามจูนว่า
" มายังไงคะ ไม่เห็นโทรมาบอกก่อนเลย "
( แม่ง.. ถ้าโทร คุณจะอยู่รึ บอกจะโทรกลับมา ก็ไม่โทร )
จูนเลยบอกไปยิ้มๆ พร้อมงัดวิชาการแสดงที่เรียนจบมาใช้วันนี้โดยตรงเลยค่ะ
" ถ้าโทร แล้วจะเจอกันมั๊ยล่ะคะ บอกจะติดต่อกลับมาก็เงียบหาย เลยต้องมาถึงที่แล่ะค่ะ "
...............
ณ. ร้าน wedding ** จำลองเหตุการณ์อย่างย่อ
ทางร้านให้ฝ่ายจูนนั่งรอ พร้อมทั้งปิดห้องซักแป๊บเหมือนคุยอะไรกันซักอย่าง
ก่อนเข้ามากะ Sale ช. พร้อมผู้ญ.คนนึง ซึ่งแนะนำกะฝ่ายจูนว่าเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ
** ขอเรียกชื่อเลยนะคะ ชื่อ หนุ่ย
หนุ่ย : ทางฝ้ายก็ได้ทราบมาว่าคุณจูนเกิดเหตุการณ์แบบนี้
แต่ทางเราไม่สามารถคืนเงินให้คุณได้ เพราะ การที่คุณรูดบัตร มันคงคืนเลยไม่ได้
จูนสวนเลยค่ะ ===> ขอโทษนะคะ จูนจ่ายสดค่ะ ซื้อบ้านก็จ่ายสด ไม่เคยใช้บัตรค่ะ
( ไหนว่าทราบเรื่อง ตอบไรมาหนิ.. ฝ้ายมีชะงักด้วยอ่ะ )
จูนก็ได้บอกไปว่าที่มา เห็นว่าเงียบหายไป ไม่อยากให้ทิ้งไว้นาน อยากให้มันจบๆ
ทางนั้น เค้าก็พยายามที่จะให้เปลี่ยนเป็นแพคเกตอื่น แต่ยังไงก็คืนเงินไม่ได้!!
ซึ่งจูนเองก็ชอบผลงานกะทางร้านเค้านะคะ แต่เรื่องการบริการเนี่ย ไม่เอาอ่ะค่ะ
ถ้าจูนเปลี่ยน ต้องมาร่วมงานกะเค้า จูนเองต้องโทรนัดตามเค้าเองหมดเลยหรอคะ
บอกตรงๆ ไม่มีใจให้กะบุคลากรของทางร้านแล้วจิงๆ
ทาง Sale ช. ก็ได้ตอบกลับมาว่าที่หายไป เพราะ ร้านปิดสงกานต์
จูนเลยแย้งคำพูดเพื่อนจูนไปว่า ทราบมาว่าร้าน wedding ทำงานกันไม่มีวันหยุด
(Sale กะ ผู้ช่วยชะงักไปอีก 1 ดอก.. )
ทีนี้ทางคุณพ่อเพื่อนก็ได้คุยกะฝ้ายเกี่ยวกะการไกล่เกลี่ย
ว่าถ้าทางร้านไม่ยินยอม ทางฝ่ายจูนคงต้องเข้ากระบวนการกฏหมายนะ มีสคบ.เข้ามาด้วย
ก็เลยบอกเค้าว่าขอคำตอบภายในวันพุธว่าตกลงจะเอายังไง
ให้เค้าโทรกลับหาจูน
รุ่งขึ้นหนุ่ยโทรมา บอกว่าเค้ามีทางเลือกให้จูน 1 ทาง คือ
จะลงขายให้ใน weddingsquare แต่ ลงเบอร์จูน ใครสนใจคุยกะจูนเองเลย
(จูนก็แบบ ให้ชั้นขายเองเนี่ยนะ ไม่เอาหรอก)
ก็บอกกะหนุ่ยไปว่า จูนไม่ให้เบอร์ใครพร่ำเพรื่อ แล้วก็ไม่อยากจะนั่งพูดเรื่องการซื้อขายอีก
ซึ่งทางทนายจูนก็ได้แนะนำให้จูนไม่ต้องคุยกะหนุ่ยแล้ว
เค้าจะยื่นเอกสารไปทางบริษัท wedding ซึ่งปัจจุบันยื่นไปแล้ว
กำลังรอว่าถ้าเงียบ คงขึ้นศาลต่ออ่ะค่ะ
ทีนี้อยากจะถามว่า จูนมีโอกาสชนะมั๊ยคะ ควรทำยังไงดี???
เงินก็ไม่ใช่บาท 2 บาท สงสารแม่อ่ะ
***การเล่าเรื่องอาจไม่ราบรื่นเท่าไหร่ก็ขออภัยนะคะ