ความอิจฉา หมั่นไส้ หึงหวง น้อยใจ ล้วนมีที่มาจากสาเหตุเดียวกันค่ะ และเรื่องเหล่านั้น มีส่วนทำให้สังคมวุ่นวายได้มากด้วยค่ะ ไม่ว่าสังคมนั้นจะใหญ่ หรือเล็กก็ตาม ลองมาดูนะคะ ว่าเป็นยังไง และจะแก้ไขได้ยังไง
ข้อความนี้คัดลอก และรวบรวมมาจากเวปไซต์อนุรักษ์ธรรม (จากการแนะนำของคุณ hut2211) Meesook เอาเนื้อความมาแปลงให้อ่านง่ายขึ้น แต่คงแก่นเดิมไว้ค่ะ
มาลองดูที่เหตุก่อนนะคะ
คนช่างอิจฉา ขี้หมั่นไส้ ขี้หึง ขี้น้อยใจนั้น มักจะมีเหตุมาจากความต้องการ (กิเลส) ที่มากมายเหลือเกิน แต่เป็นความต้องการที่ไม่ถูกต้อง เช่น อยากเห็นเขารักเรามากกว่าคนอื่น, อยากให้เขาเห็นความสำคัญของเรามากกว่าคนอื่น, อยากให้คนอื่นเห็นตนเป็นคนดีเทียบเท่าคนอื่น, อยากดี อยากรวยเหมือนคนอื่น
พอเจ้าความอยากเหล่านี้มีมากเกินระดับ จนถึงขั้นเริ่มไปเทียบกับคนอื่น ก็เกิดเป็นความอิจฉา หมั่นไส้ หึงหวง และน้อยใจในตัวเอง โดยที่ความอิจฉา และความน้อยใจเหล่านี้ จะไปปิดกันปัญญาไว้ ทำให้เฝ้าแต่อิจฉา แต่ไม่ได้คิด ไม่ได้ทำให้ตัวเองดีขึ้น เช่น
- อยากให้เค้ารักเรามากกว่าคนอื่น แต่มัวแต่ขี้หึง เอาแต่จับผิด ไม่ได้มองว่า การที่เขาจะรักตนหรือไม่รักตน ก็ห้ามไม่ได้ ก็บังคับไม่ได้เลย... ไม่เกิดปัญญา ก็พาลแต่จะทะเลาะกันไปเรื่อยๆ โดยไม่เกิดผลอะไรดีขึ้น
- อยากรวยแต่ มัวแต่อิจฉา นินทาคนรวย และมัวแต่น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง ลืมคิดหาทางทำให้รวย อีกทั้งไฟอิจฉา และความน้อยใจเผาผลาญพลังงานจนหมดแรง ไม่มีพลังงานเหลือไปสร้างความรวย
- อยากมีเพื่อนเยอะๆ แต่ก็มัวแต่อิจฉา หมั่นไส้คนอื่นที่มีเพื่อนเยอะ หมั่นไส้กลุ่มที่ popular เฝ้าแต่นินทา แต่ก็ไม่ได้ทำตัวยิ้มแย้มสร้างมนุษยสัมพันธ์ ก็ไม่ได้มีเพื่อนเยอะอย่างเค้า
- อยากดี ข้อนี้ต้องพิจารณาอย่างระมัดระวังนะคะ เพราะความต้องการเป็นคนดีอย่างนี้ เป็นตัณหา ไม่ใช่ปัญญาค่ะ เพราะเป็นความอยากดีโดยที่อยากให้คนอื่นยกย่องว่าเป็นคนดี แต่ก็มัวแต่หมั่นไส้ หาช่องทางให้ร้ายคนที่ได้รับการยกย่อง (อยากให้เค้าโดนด่าบ้าง สะใจดีประมาณนั้น) แต่ไม่ได้เริ่มทำดี....แล้วจะดีได้ยังไง
เห็นเหตุ แล้วก็มาดูผลของการเป็นคนขี้อิจฉา ขี้หมั่นไส้ ขี้หึง ขี้น้อยใจกันนะคะ
ที่เห็นชัดๆ เลย ก็คือความรู้สึกเหล่านั้น ทำให้จิตใจร้อนรน ร้อนรุ่ม ด้วยกิเลส อยากได้ อยากมีตามเค้า บางคนเป็นมาก จนถึงกับต้องออกอาการกระแนะกระแหนคนที่ได้ดีกว่า ไปๆ มาๆ พาลทะเลาะกันซะงั้น สรุปว่ามีแต่ความรุ่มร้อนค่ะ
ในพุทธศาสนา ส่วนที่สอนเรื่องบาปกรรม และการเวียนว่ายตายเกิด บอกไว้ว่าคนที่อิจฉาคนอื่นๆ อยู่บ่อยๆ จะเกิดเป็นในตระกูลต่ำ เป็นที่รังเกียจของคนอื่น ไปในที่ไหนๆก็มักประสบกับบุคคลที่ไม่พอใจ ชิงชัง เป็นคนแข็งกระด้าง ผิวพรรณทราม ขัดสนเงินทอง พอมีโอกาสจะได้ดี ก็ต้องชวดไป นั่นเป็นเพราะกรรมที่เป็นไปกับความริษยา ไม่ปรารถนาให้ผู้อื่นได้ดี
จากเหตุ และผลที่ได้อ่านมาข้างต้น ก็อาจจะคิดได้ว่าวิธีแก้อาการอิจฉา หมั่นไส้ หึงหวง น้อยใจเนี่ย ก็น่าจะเป็นการใช้ความเมตตานะคะ แต่.... ก็ต้องระวังเมตตาเทียมด้วยเหมือนกันค่ะ
ส่วนใหญ่บุคคลโดยมากไม่อยากให้ใครได้ดีเกินตัวเองค่ะ แต่กับคนที่ต่ำกว่าเรานั้น เราอาจจะรู้สึกว่าเราเมตตาเขาได้ กรุณาเขาได้ เราเลยนึกว่าเราเป็นคนดี - ตรงนี้ก็ต้องพิจารณาดีๆ เหมือนกันค่ะ
บางที ก็ไม่รู้ว่า แม้ความเมตตาของเราก็เป็นเมตตาเทียมที่อยู่ภายใต้การครอบงำของกิเลสทั้งสิ้น.. ที่เรารัก... เราเมตตา... เพราะมีความปรารถนาอื่นแอบแฝงอยู่....
อย่างน้อยก็คืออยากให้คนนั้นยอมรับเรา เราจึงทำดีกับคนที่ด้อยกว่าอย่างนั้น.. แต่ครั้นเมื่อไม่เป็นดั่งใจ เช่น เมื่อเขาไม่ชื่นชมเราอย่างที่เราหวัง ก็โกรธ และน้อยใจ...อะไรอย่างนี้เป็นต้น...
บางกรณีก็ร้ายแรงไปถึงขั้นอิจฉาได้เลย เวลาคนที่ต่ำกว่าเราด้อยกว่าเรานั้น เกิดได้ดิบได้ดีเกินเราไปอีก จากความเมตตาก็อาจจะกลับกลายเป็นความริษยาขึ้นมาทันที... ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเมตตาเทียม ซึ่งนำไปสู่การอิจฉาได้เหมือนกัน
ความเมตตา ก็อาจเป็นเมตตาเทียมได้ ดังนั้นวิธีแก้ความอิจฉา การหมั่นไส้ ความหึงหวง ความน้อยใจ ก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุมากกว่าค่ะ
คือต้องลดความต้องการในมุมที่ผิดๆนั้นลงไป หันกลับเอาความรักความต้องการนั่นแหละ มาเป็นแรงบันดาลใจให้ตนประพฤติชอบทั้งกาย วาจา และใจ บุคคลผู้มีปัญญาจึงหยุดเรียกร้องไขว่คว้า หาความรักจากคนอื่น จากที่อื่นๆ และหันกลับมารักตน มาเมตตาตัวเองจะดีที่สุดค่ะ
ต้องมีปัญญารู้ให้ได้ ว่าขณะที่ตนกำลังดิ้นรนแสวงหา และอิจฉาริษยา หึงหวงนั้น คุณไม่ได้รักตัวเองเลย แต่กำลังทำลายตนโดยแท้ ซึ่งจะทำลายความสุขของตนทั้งในปัจจุบันและอนาคตทีเดียว
รักตนเองให้มากพอ ให้ดีพอแล้ว... ย่อมกำจัดเสียซึ่งความน้อยใจ การเปรียบเทียบ และการอิจฉาริษยาได้ค่ะ
และควรฝึกมุฑิตา คือยินดีในคุณงามความดีและสมบัติของผู้อื่นอย่างเต็มใจ... หมั่นอนุโมทนาในบุญหรือความดีของคนอื่นบ่อยๆก็สามารถช่วยได้ค่ะ
เข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.raksa-dhamma.com/consult_public_main2.php ค่ะ (credit to Hut2211 ผู้แนะนำเวปไซต์ให้ค่ะ)