Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 4 of 4

Thread: ทำไม ไม่รู้จัก คลอเรลล่า ให้เร็วกว่านี้ ?? T T

Threaded View

  1. #3
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    336
    สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายคุณ เมื่อได้รับประทาน คลอเรลล่า

    กำจัดพิษ ที่ค้างอยู่ในตัวคุณ !!!


    - เนื่องจากคลอเรลล่า เป็นพืชเซลล์เดียว ที่มีผนังเซลล์ ที่ร่างกายเรา ย่อยไม่ได้ ผนังเซลล์ นี้ เมื่อลงไปสู่ลำไส้ จึงกลายเป็นเส้นใยขนาดสั้นๆ ที่เปรียบเหมือนแปรงขนาดจิ๋ว ที่จะลงไปขัดถู ลำไส้ได้อย่างทุกซอกทุกมุม และ ที่สำคัญ แปรขนาดจิ๋วนี้ ยังเคลือบไปด้วย "กาว" ชนิดพิเศษ ที่สามารถดักจับสารพิษ ในลำไส้ โดยเฉพาะ ซึ่ง เป็นคุณสมบัติพิเศษมากๆ ที่คลอเรลล่าเท่านั้น ที่มี!!!!


    ขอบคุณรูปจาก http://www.tuberose.com/Chlorella.html
    กำจัดพิษ ที่ค้างอยู่ ลึก ถึง ระดับเซลล์ ของคุณ !!!

    - ช่วยให้เซลล์ สามารถผลิต "กลูต้าไทโอน" ได้มากขึ้น กลูต้าไทโอน เป็นเอนไซม์ ที่ทำหน้าที่ กำจัดของเสีย ออกจากเซลล์ เอนไซม์ตัวนี้ เซลล์ทุกเซลล์มีความสามารถในการผลิตได้ แต่เซลล์ตับ จะสามารถผลิตได้มากกว่าที่อื่น เนื่องจาก ตับเป็นอวัยวะ หลัก ที่ทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกาย

    แต่ การผลิต กลูต้าไทโอน เซลล์ จำเป็นต้องใช้ กรดอะมิโนบางตัว เป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่ง โดยทั่วไปกรดอะมิโนตัวนี้ ร่างกายเรามักมีไม่พอใช้งาน ในแต่ละวัน กลูต้าไทโอน จึงมักมีไม่ค่อยพอใช้งาน (จึงได้เป็นจุดเริ่มต้น ของการมีอาหารเสริม กลูต้าไทโอน เกิดขึ้น ซึ่ง การรับประทานกลูต้าไทโอน จากภายนอก กลูต้าไทโอน ที่ร่างกายรับมา ไม่ได้ผลิตเอง จะไปอยู่ที่ตับ และ จะถูกนำไปใช้งานเกือบทั้งหมดเฉพาะที่ตับ แต่ กลูต้าไทโอน มีผลข้างเคียง ทำให้เม็ดสีของผิว ของคนเอเชียผิวเหลือง จางลง เลยเห็นว่าผิวขาวขึ้น การขายกลูต้าไทโอนที่เรามักได้ยินกันในไทย ถูกนำเสนอแต่ผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวขาว)

    การทาน คลอเรลล่า จะส่งผลให้ ร่างกายได้รับสารอาหาร พอที่จะให้แต่ละเซลล์ เริ่มผลิต กลูต้าไทโอน ของตัวเอง มาใช้งาน ขับของเสีย ของตัวเองได้ นั่นหมายถึง ร่างกายเรา จะเกิดการ "กำจัดสารพิษ (ดีท๊อกซ์) ในระดับเซลล์" ซึ่ง ยังไม่เคยพบ สารอาหารตัวอื่น สามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์แบบนี้ได้


    ขอบคุณรูปภาพจาก https://aquaionizerdeluxe.com/benefits/

    คลอเรลล่า เคยถูกใช้ในการ กู้วิกฤติ สารพิษรั่วไหลมาแล้ว !!!

    - ในยุคของการพัฒนาอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ได้มี ปรากฏการณ์ การรั่วไหล ของสารแคดเมียม ลงไปปนเปื้อนในแหล่งอาหาร จะทำให้มีผู้เสียชีวิต จากการได้รับแคดเมี่ยมเป็นจำนวนมาก (ปรากฏการณ์ โรค อิไต อิไต) ในขณะนั้น ได้มีการทดลองให้ผู้ป่วย รับประทานคลอเรลล่า ซึ่ง พบว่ามีส่วนช่วยในการกำจัดสารพิษประเภทโลหะหนัก และ ผลการทดสอบ ก็ออกมาชัด ว่าพบปริมาณแคดเมี่ยม ออกมาทางปัสสาวะ และ อุจจาระ ของผู้ป่วยที่ได้รับคลอเรลล่า ประกอบกับผู้ป่วย มีการการดีขึ้นชัดเจน ประเทศญี่ปุ่น จึงสามารถแก้วิกฤติ โรคอิไตอิไต โดยการใช้คลอเรลล่า ในการรักษาได้ ในตอนนั้น และเริ่มวิจัยคลอเรลล่าอย่างจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนในปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่บริโภคคลอเรลล่า มากที่สุดในโลก

    งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/166227


    ขอบคุณรูปจาก http://www.slideshare.net/yfd07336/j...nmental-hazard
    กำจัดพิษแล้ว ยัง แถม ต่อ ด้วยการ ฟื้นฟู ระดับเซลล์

    - เนื่องจากคลอเรลล่า มีสารอาหาร ที่เป็นอะไหล่ ที่เซลล์ใช้ในการซ่อมบำรุงตัวเอง อย่างครบถ้วน จึงทำให้เซลล์ ที่เสื่อมอยู่ก่อนแล้ว หรือ ได้รับบาดเจ็บ สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ ตามเวลา ที่กลไกของร่างกายสามารถทำได้ (ไม่ต้องรออะไหล่) ซึ่งหากรับประทานอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ เซลล์ที่เสื่อมอยู่ก่อนแล้ว มีโอกาส จะกลับมาเป็นปกติได้ (แต่ต้องเข้าใจว่า เซลล์ที่เสื่อมอยู่ก่อนแล้ว กลไกในการฟื้นตัว ก็เสื่อมอยู่ด้วย ถึงแม้อะไหล่จะครบ ก็ต้องใช้เวลาครับ)

    ได้รับการยอมรับ จากคุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญด้านการชะลอความเสื่อม ว่าเป็น "อัญมณีแห่งตะวันออกไกล"

    - "เมื่อรับประทานเป็นประจำ คลอเรลล่า จะช่วยซ่อม สารพันธุกรรมที่อยู่ใน เซลล์ของร่างกาย รักษาสุขภาพเรา และ ชะลอกระบวนการแก่ ... เมื่อ RNA และ DNA (RNA และ DNA คือ สารพันธุกรรม ที่ทุกๆเซลล์มีอยู่ และ จะทำหน้าที่เป็นแม่พิมพ์ สำหรับการแบ่งเซลล์ใหม่ -- ผู้แปล) ของเรา ถูกดูแลซ่อมแซมอย่างดี และ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายของเราก็จะสามารถกำจัดสารพิษ และ ป้องกันโรคได้ เซลล์ของเราจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ และ พลังงาน และ พลังชีวิต ของทั้งร่างกาย ก็จะเพิ่มขึ้น

    เคยมีหลักฐาน ว่าคลอเรลล่า สามารถทำให้มีอายุเฉลี่ยยาวนานขึ้นได้ ในหนู จากการทดลองที่ วิทยาลัยแพทย์ ใน คานาซาว่า ประเทศญี่ปุ่น พบว่า หนูที่เป็นเบาหวานตั้งแต่กำเนิด ที่ได้รับ คลอเรลล่า เป็นอาหารเสริม มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 22.6 เดือน เทียบกับหนูที่เป็นเบาหวานแต่กำเนิดอีกลุ่ม ที่มีอายุเฉลี่ยที่ 15 เดือน ที่ได้รับอาหารธรรมดา"

    จากหนังสือ
    Chlorella, Jewel of the Far East (คลอเรลล่า อัญมณีแห่งตะวันออกไกล) โดย Dr. Bernard Jensen, Ph.D., D.O.

    *เพิ่มเติม เกี่ยวกับผู้เขียน คุณหมอ Bernard Jensen เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน โภชนาการ โดยเฉพาะ เกี่ยวกับด้าน ชะลอความเสื่อมของร่างกาย เคยเขียนหนังสือ The No-Aging Diet ก่อน จะมาพบ คลอเรลล่า ที่ไต้หวัน และ ญี่ปุ่น ในช่วง ที่กำลังพัฒนาคลอเรลล่า สู่อุตสาหกรรมอาหารเสริม

    กำจัดพิษแล้ว ฟื้นฟูระดับเซลล์แล้ว แถมท้ายด้วย เสริมภูมิคุ้มกัน

    - เนื่องจากคลอเรลล่า มีสารอาหาร ที่เป็นอะไหล่ ที่ทำให้ ร่างกายสามารถสร้างเม็ดเลือดขาวได้มากขึ้นตามความต้องการใช้จริง รวมถึงเม็ดเลือดขาวที่สร้างขึ้นก็มีความสมบูรณ์มากขึ้น จึงทำให้ ร่างกายของผู้ที่ทานคลอเรลล่า มีระบบภูมิคุ้มกัน ที่แข็งแรงมากขึ้น ส่งผลให้ สามารถต้านทานต่อการติดเชื้อ โดยเฉพาะไวรัส ได้มากขึ้นกว่าในยามที่ไม่ได้ทาน

    ยืนยันซ้ำ ด้วยงานวิจัยสมัยใหม่

    - มีงานวิจัย ที่ให้กลุ่มตัวอย่าง ทานอาหารเสริม คลอเรลล่า จำนวน 5 กรัม (10 เม็ด) ต่อวัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ และตรวจสอบการทำงาน ของภูมิคุ้มกัน พบว่า หลังจากผ่านไป 8 สัปดาห์แล้ว พบว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ของกลุ่มผู้ได้รับ อาหารเสริมคลอเรลล่า ทำงานดีขึ้น ประมาณ 2 เท่า ของค่าเดิม


    อ่านงานวิจัยฉบับเต็ม ได้ที่ลิงค์ http://www.nutritionj.com/content/11/1/53
    ด้านบนนี้ คือ สิ่งที่คลอเรลล่า จะให้แก่ร่างกายเรา เมื่อนำมารับประทาน เป็นอาหารเสริม


    ขอบคุณรูปจาก http://www.globalhealthlab.com/blogs...ich-in-protein
    Last edited by bit; 09-21-2015 at 05:31 PM.

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •