Quote Originally Posted by angkana View Post
อยากจะมาปรึกษา ขอความรู้เพื่อนๆ หน่อยค่ะ
บทนำ
ครอบครัวใหญ่ของดิฉัน (1 ครอบครัวใหญ่ = 4 ครอบครัวย่อย) ได้ตกลงกันซื้อบ้านกับโครงการจัดสรร แห่งหนึ่งที่หัวหิน
โดยก่อสร้างบ้านเดี่ยว + สระว่ายน้ำ จำนวน 3 หลัง , บ้านเดี่ยว 1 หลัง กับ บจก. ปัณณทรัพย์ เดอะซิตี้โฮม
แต่ที่ดินที่จัดสรรเป็นชื่อบุคคลซึ่งเป็นกรรมการบริษัทฯ จึงทำเป็นการซื้อที่ดินและเป็นสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้าน
ซึ่งคู่สัญญาเป็นชื่อบุคคล (กรรมการบริษัทฯ)
โดยซื้อพร้อมกันทั้งหมด 4 แปลง โดยมิได้ขอสินเชื่อจากธนาคาร โดยมีการจ่ายเงินสดให้เป็นงวดตามที่ตกลงกันไว้ระหว่างสร้างบ้าน บริษัทฯ ออกใบเสร็จเป็นชื่อบริษัทฯ มาให้ แต่ระบุว่าเป็น บริษัท ปันทรัพย์ กรุ๊ป จำกัด
ซึ่งเข้าใจว่าติดต่อกับบริษัทฯ ดังกล่าวมาตลอด ไม่ได้ตรวจสอบแต่อย่างใดเพราะเห็นว่าทำการซื้อขายเป็นชื่อบุคคล
แต่พอเกิดเหตุขึ้นจึงได้ตรวจสอบไปที่กระทรวงพาณิชย์ฯ จึงทราบชื่อบริษัทฯ ที่แท้จริง
โดยก่อสร้างบ้านเดี่ยว + สระว่ายน้ำ จำนวน 3 หลัง , บ้านเดี่ยว 1 หลัง

เรื่องที่ 1
บ้านเดี่ยว + สระว่ายน้ำ หลังที่ 1 โอนกรรมสิทธิเรียบร้อยแล้ว และมีการรับประกัน 6 เดือน
แต่ขณะที่เทียวไปดูอยู่บ่อยๆ ปรากฎว่ามีปัญหาเรื่องสระว่ายน้ำรั่วซึม โดยมีการแจ้งให้โครงการทราบ และมีเจ้าหน้าที่
(ไม่ทราบว่าเป็นวิศวกรหรือไม่) มาทำการแก้ไขให้ หลายครั้ง ( ปัจจุบันมีการแก้ไขเป็นครั้งที่ 3 ) เนื่องจากบ้านหลังนี้ไม่มีผู้อยู่อาศัย น้าสาวและแม่ อยู่ที่ จ.กาญจนบุรี จะต้องวิ่งไปๆมาๆ เพื่อไปดูเจ้าสระว่ายน้ำเจ้าปัญหานี้อยู่บ่อยๆ
แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้น ซ้ำยังหนักกว่าเดิม ล่าสุด เติมน้ำเต็มสระ ทิ้งไว้ 2 อาทิตย์ ระดับน้ำลดไป 8 แผ่นกระเบื้อง เริ่มจะทนไม่ไหวเริ่มสอบถามถึงสาเหตุ ขอพิมพ์เขียว และขอพบวิศวกร แต่กลับถูกปฏิเสธ ดิฉันไม่มีความรู้ และไม่รู้จักใครที่มีความรู้ด้านนี้เลย ครอบครัวก็มีกันแต่ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ จึงอยากขอความรู้จากพี่ๆ น้องๆ ในนี้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป แล้วจะมีผลกระทบต่อตัวอาคารบ้านไหม (บ้านจะทรุดหรือเปล่าในภายหน้า) เพราะเป็นที่ๆ อยู่ใกล้ทะเล เป็นดินทราย
(ไม่ทราบว่าคิดมากไปไหม) รบกวนด้วยนะคะ

เรื่องที่ 2
บ้านเดี่ยว + สระว่ายน้ำ หลังที่ 2+3 สร้างเสร็จแล้วทางครอบครัวดิฉันเตรียมเงินพร้อมโอน แต่ทางบริษัทฯ กลับเรียกร้องขอเงินเพิ่มโดยให้เหตุผลว่า ของราคาขึ้น และวัสดุฯ ที่ทางดิฉันกำหนดไป ราคาสูงเกินกว่าปกติทั่วไป หากไม่เพิ่มให้ก็จะไม่โอน และจะคืนเงินที่ได้จ่ายล่วงหน้าไปแล้ว ให้ทั้งหมด
งงงงงงง มาก
เราซื้อแต่ที่ดิน แบบก็เป็นของบริษัทนำมาให้เลือก แบบสุขภัณฑ์ และ วัสดุอื่นๆ ได้มีการเลือกสเป็ค ก่อนตีราคาซื้อขาย
แต่ไม่ได้ระบุไว้ในสัญญา (เราผิดเหรอเนี่ย)
แอร์ที่ทางบริษัทจัดหามาให้ ทางเราไม่ชอบขอเปลี่ยนแบบ และได้จ่ายเงินในส่วนต่าง เพิ่มไปให้
ทางเราขอเพิ่มระบบน้ำอุ่นภายในตัวบ้าน ซึ่งไม่มีในข้อตกลง ก็ได้จ่ายในส่วนนี้ไปล่วงหน้าก่อนที่จะติดตั้งเสียอีก และก็ไม่เห็นมีสัญญาอะไรมาให้เซ็นชื่อเลย
แล้วไอ้วัสดุอื่นๆ ที่เราสเป็คไว้ก่อนหน้าทำสัญญา เช่น สุขภัณฑ์ฯ บานประตู หน้าต่าง สีกันคราบ... ไม่มีในสัญญา เราจะต้องจ่ายเพิ่มให้เขาด้วยหรือ มีความรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ
ไม่เคยเอาเปรียบใคร และไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบ
พอสอบถามกับผู้ที่อาศัยอยู่ในระแวกเดียวกัน เค้าบอกว่า มีฝรั่งมาให้ราคาสูงกว่าราคาที่เราตกลงซื้อขายกันมาก
สรุป ปัจจุบันเรื่องอยู่ที่ สคบ. (ยังไม่เคยได้เข้าไปตรวจเช็คสภาพบ้านว่ามีตรงไหนที่ต้องแก้ไขหรือเปล่า เช่น สระว่ายน้ำ)
เสียเงินจ้างทนายไป + ค่าน้ำมันรถ เทียวไป เทียวมาอีก แล้วถ้าสามารถโอนได้ ถ้ามีปัญหากับตัวบ้านหรือสระว่ายน้ำเค้าจะดูแลให้เราไหม

เรื่องที่ 3
บ้านเดี่ยวพร้อมที่ดิน เหมือนเรื่องที่ 2 เลย สร้างเสร็จแล้วทางครอบครัวดิฉันเตรียมเงินพร้อมโอน แต่ทางบริษัทฯ กลับเรียกร้องขอเงินเพิ่มโดยให้เหตุผลว่า ของราคาขึ้น และวัสดุฯ ที่ทางดิฉันกำหนดไป ราคาสูงเกินกว่าปกติทั่วไป
แต่หลังสุดท้ายนี้ ทางโครงการเป็นผู้ยัดเยียดขายให้เราเอง โดยบอกว่าจะแถม มุ้งลวด เหล็กดัด แอร์ ผ้าม่าน ให้
เพราะปกติราคาที่เสนอขายนี้ จะไม่มีของพวกนี้แถมให้ (ไอ้รายการของแถมที่เขาบอกมา มันไม่มีในสัญญาฯ)
ล่าสุดไปหัวหินมาเมื่อวันที่ 9 เม.ย. ยังไปถ่ายรูปเอาไว้ กะว่าจะมาลงใน SBN ว่าให้เช่าเลย
พอกลับมาถึงบ้าน วันรุ่งขึ้น มีจดหมายมาจาก บริษัทฯ ว่าบ้านหลังนี้ได้ทำการสร้างแล้วเสร็จเรียบร้อยและนัดโอนในวันที่ 18 เม.ย. เอ๊ะ เพิ่งจะไปดูบ้านมา บ้านยังไม่เสร็จ ระบบน้ำยังไม่ได้ติดตั้ง (มิเตอร์น้ำยังไม่มีเลย) ปั๊มน้ำก็ยังไม่ติด ส่วนระบบไฟไม่รู้ว่าติดตั้งหรือยัง สวนหน้าบ้านก็ยังไม่ได้ทำ บ้านก็ยังไม่เรียบร้อย เหล็กดัด มุ้งลวด แอร์ ผ้าม่าน ตามที่ตกลงกันไว้ ยังไม่มีอะไรซักอย่าง แต่เบื่อที่จะโทรไปสอบถาม จึงให้ทนายส่งหนังสือพร้อมรูปถ่ายไปทวงถาม กลับได้รับหนังสือตอบกลับว่า รายการดังกล่าวไม่ปรากฎในสัญญา

ตอนนี้โดนญาติๆ (อยู่ ตปท.) รุมด่ากันยกใหญ่ เครียดมาก เพื่อนๆ พอจะมีทางออกบ้างไหมคะ

อ่านแล้วเห็นใจคุณเจ้าของบ้านมากๆเลยอ่ะค่ะ

ทำงานทางด้านนี้ก็จริงนะคะ ยังไงจะลองพยายามช่วยแล้วกันค่ะ

เพราะส่วนตัวเองก็ทำงานภายใน ไม่ค่อยได้คลุกคลีกับงานระบบสระว่ายน้ำเท่าไหร่ด้วย



ก่อนอื่นขอแบ่งออกเป็น 2 เรื่องนะคะ


เรื่องแรกคือปัญหาของสระว่ายน้ำที่รั่วซึม

ตรงนี้ต้องปรึกษาวิศวกรแล้วล่ะค่ะว่าเหตุไฉนจึงเป็นเช่นนี้

เดี๋ยวยังไงจะไปถามให้นะคะ แล้วค่ำๆจะกลับมาอีกรอบนุง

ว่าแต่ 3 รอบที่เค้าเข้ามาแก้ไขนี่เค้าทำยังไงพอจะทราบมั๊ยคะ

ส่วนเรื่องว่าจะมีปัญหากับโครงสร้างรึเปล่านี่

เท่าที่คิดตอนนี้ไม่น่ามีปัญหานะคะ เพราะว่่าโครงสร้างของสระว่ายน้ำ กับบ้านเนี่ย

แยกกันอยู่แล้วอย่างแน่นอน ปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคตเรื่องของโครงสร้าง

น่าจะเป็นเรื่องของการทรุดตัวของพื้นดินมากกว่า

ตรงนี้ต้องดูแล้วล่ะค่ะ ว่าทางผู้รับเหมาเค้าตอกเข็มอะไรยังไง


เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์

โดยที่ทางโครงการฯ ขึ้นราคาโดยเนื่องจากว่าของแพงขึ้น<<ว่าง่ายๆว่าต้นทุนสูงขึ้น

เรื่องแบบนี้ลองดูตามสัญญาก่อสร้างนะคะ ว่ามีการตกลงตรงส่วนนี้หรือไม่

มีหมายเหตุอะไรแบบนี้รึเปล่า เพราะมองดูว่าตามจริงเนี่ย

เมื่อมีการทำสัญญาไปแล้วภาระเรื่องของต้นทุนก็จะเป็นของทางเค้าแล้วนะคะ

คือเราตกลงจ่ายกันเท่านี้แล้ว

ยกเว้นแต่ว่ามีการพูดคุยกันนอกรอบเป็นลักษณะการช่วยเหลือกันมากกว่า

ถ้าเป็นการที่ต้นทุนสูงเพราะว่าทางเจ้าของบ้านเปลี่ยน spec

ตรงนี้ก็จะมีส่วนต่างซึ่งเจ้าของบ้านต้องจ่ายอยู่แล้วอ่ะค่ะ

ลองให้เค้ารายการมาดูดีกว่าค่ะ ว่าที่เพิ่มมาเนี่ยเป็นค่าอะไรบ้าง

เพราะดูจากบ้านแล้วท่าทางเพิ่มมาไม่น่าจะน้อย

ยังไงลองดูนะคะ

อย่างที่คุณคห. 1 กับคห. 2 บอกก็ช่วยได้ค่ะ

ลองไปปรึกษาที่บูธหมอบ้านดู มีอาจารย์เก่งๆมานั่งให้คำปรึกษาเยอะค่ะ

รึไม่ก็ที่ห้องชายคาเลยค่ะ GURUเพียบ

อันนี้เป็นความเห็นจากหนมเองนะคะ เดี๋ยวลองดูท่านอื่นๆด้วยแล้วกันค่ะ

เดี๋ยวเราช่วยๆกันคิดค่ะ ^^