ชีวิตคืออะไร
ตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นวิทยาการทางโลกนั้น
สิ่งมีชีวิตหมายถึง สิ่งที่เจริญเติบโตได้ กินอาหารได้ เคลื่อนไหวได้
และสืบพันธุ์ได้ ซึ่งนอกจากจะหมายถึง มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายแล้ว
ยังหมายถึงพืชอีกด้วย แต่ในพระอภิธรรมนั้น ให้คำจำกัดความของ
ชีวิตไว้ว่า
ชีวิต คือความเป็นอยู่ของร่างกาย จิตและเจตสิก โดยอาศัยกรรม
เป็นผู้นำเกิด และตามรักษาดำรงชีวิตและกระทำการต่าง ๆ ได้โดย
อาศัย จิต และ เจตสิก เป็นผู้กำกับ
ส่วนต่างๆที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกายนั้น ในทางธรรมเรียกว่า รูปธรรม
เป็นธรรมชาติที่ไม่มีความรู้สึก นึกคิดใด ๆ ทั้งสิ้น
เปรียบได้ดั่งท่อนไม้ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า รูป ส่วน จิต และ เจตสิก เป็น นามธรรม
เรียกสั้น ๆ ว่า นาม เป็นธรรมชาติที่รับรู้สิ่งต่างๆ และสามารถคิดนึก
เรื่องราวต่าง ๆ ได้ ดังนั้น ตัวเราหรือสัตว์ทั้งหลาย
จึงมีส่วนประกอบอยู่ ๓ ส่วน ได้แก่
กาย จิต และเจตสิก ซึ่งในทางธรรมเรียกว่า รูป กับ นาม
แต่เนื่องจากพืชทั้งหลายไม่ได้เกิดมาจากกรรม
ไม่มีจิตและเจตสิกในการรับรู้ คิดนึกเรื่องราวต่าง ๆ ดังนั้นคำว่า
“ชีวิต” ในพระอภิธรรมจึงหมายถึง มนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย เท่านั้น
คำว่า “สัตว์” ในที่นี้มิได้ หมายถึงเฉพาะสัตว์เดรัจฉานเท่านั้น แต่
หมายถึง สิ่งมีชีวิตทั้งหมด ที่ยังเวียนว่ายตายเกิดใน ๓๑ ภพภูมิ
ดังนั้น มนุษย์จึงถือว่าเป็นสัตว์ประเภทหนึ่งด้วย
สัตว์ทั้งหลายในจักรวาลนี้ ล้วนประกอบด้วยธรรมชาติ ๓ อย่าง
คือ รูป จิตและเจตสิก
ที่สำคัญผิดคิดว่าเป็น “เรา” เป็น “ตัวตนของเรา” แท้ที่จริงแล้ว
มีแต่ รูป กับนาม เท่านั้น ที่เกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็ว
ไม่มีส่วนไหนเลย ที่เป็น “ตัวตนของเรา” แม้จะรวมกันเข้าแล้วก็ยังไม่
“เรา” อีกเช่นเคย แม้คนที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังเรื่องเช่นนี้มาก่อน
ไม่เคยรู้จักพระพุทธศาสนามาก่อน หรือผู้ที่นับถือศาสนาใด ๆ ก็ตาม
ทุกคนล้วนประกอบด้วยรูป จิตและเจตสิกที่มีการเกิดดับ
อย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา เหมือนกันทั้งสิ้น
เพราะสัตว์ทั้งหลาย ไม่รู้ธรรมชาติที่เป็นจริงนี้ จึงทำให้ยึด รูป-นาม ขันธ์ ๕
ว่าเป็นตัวตนของเรา โดยมีกิเลสตัณหา เป็นผู้บงการให้กระทำกรรมต่าง ๆ
ทั้งที่เป็นบุญและเป็นบาป แล้ววิบากที่เป็นผลของกรรมนั้น
ก็จะส่งผลให้ต้องเวียนเกิดเวียนตาย ในสังสารวัฏอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
การศึกษาพระอภิธรรม ก็คือการศึกษาเรื่องของตัวเรา และสัตว์ทั้งหลายนั่นเอง
เพราะเนื้อหาของพระอภิธรรม จะกล่าวถึงธรรมชาติอันแท้จริง
ที่มีอยู่ในตัวเราและสัตว์ทั้งหลาย อันได้แก่ รูป จิตและเจตสิกโดยละเอียด
ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก
สำหรับการปฏิบัติ เพื่อให้เข้าถึง ซึ่งความหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
เมื่อเราได้เห็นแจ้งสภาวธรรม ที่เป็นความจริงตามธรรมชาติแล้ว
ความหลงผิด (อวิชชา) และกิเลสทั้งหลาย ก็จะถูกทำลายลง
เป็นเหตุให้พ้นจากการเวียนเกิดเวียนตายได้ในที่สุด
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.agalico.com
(วันนี้อ่านยากซักหน่อยนะครับ คำบาลีเยอะ ครับ )
Citizen Member /
Trusted Member
เพื่ออ่านคู่มือ ของเครื่องมือใดๆ ที่มีเครื่องหมายนี้ 
Previous
Downtown
hut2211

Reply With Quote