"UVA รังสีหายนะ ที่คุณต้องโดนทุกวัน ไม่ดำ แต่ หน้าเหี่ยวแก่ไว ไม่รู้ตัวจริงๆ!!!"
ในแสงแดด ไม่ได้มีแค่ รังสี UVB ที่ให้ผิวคล้ำ แต่ มีรังสี UVA ที่ทำลายให้ผิวคุณ เหี่ยว เสื่อมสภาพ อย่างถาวร ซึ่ง
ในรูปภาพ คือ รูปใบหน้าของคุณ MgElligott ที่ขับรถ กลางแดดใน Chicago มาเกือบ 30 ปี แดดที่สาดส่องจากกระจกด้านข้าง ได้พา UVA รังสีที่ทำให้ ผิว ดู เหี่ยว แก่ มากระทบ ใบหน้าเค้ามาตลอด 28 ปี ผลก็เป็นอย่างที่เห็นแต่ที่น่าสนใจคือ ผิวด้านที่โดนแดดมาเกือบ 30 ปีนั้น กลับไม่ได้ดูคล้ำมากขึ้น แต่กลับ เหี่ยวย่น ดูแก่กว่าวัยไปถึง 20 -30 ปี

“We think its because it (UVA) can penetrate more deeply into the skin than UVB and affect your collagen and elasticity,” Dr. Jennifer Gordon a dermatology resident at UT Southwestern said. “When you destroy those that’s what gives you the aging appearance that we see.”

ดอกเตอร์เจนนิเฟอร์ กอร์ดอน ได้กล่าวว่า นั่นก็เป็นเพราะ UVA ที่มันสามารถทำลายลงไปถึงผิวชั้นในที่ลึกลงไป ทำลายคอลลาเจน และ ความยืดหยุ่น ของผิว ดังนั้นเมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกทำลาย มันจึงออกมาเป็นผิวที่ แก่ เหี่ยว ย่น อย่างที่เราเห็น ความน่าสะพรึงกลัวที่จะหยิบยกมาเล่าให้ฟังก็คือ UVA นี่เป็นอะไรที่เราจะไม่รู้เลยว่ามันทำลายผิวเราอยู่ ไม่เหมือน UVB ที่พอมันทำลายผิวเรา เราก็จะดำขึ้น ดูออก ว่า อ้อ เราไปโดนแดดมา ในขณะที่ UVA จะเป็นรังสีที่ทำให้เราตายใจ เห็นแดดไม่จัด เห็นฟ้าครึ้มๆ ไม่ทากันแดดที่กัน UVA/UVB ได้จริงๆ ออกไปโดนก็รู้สึกไม่ดำ แต่พอเริ่มสะสมๆ เอ๊ะ ทำไม หน้าชั้นแก่จัง ทำไมหน้าชั้นเหี่ยว ผิวดูคล้อย ดูไม่เฟิร์ม กว่าจะรู้ตัว ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว T_T
เพราะ อย่างที่ข้างต้นได้กล่าวไว้ ว่า UVA ทำลาย ที ทำลายกันลึกลงไประดับเซลล์ เสียหายกันทียาวนานชั่วชีวิต ไม่เหมือน UVB ที่ทำให้ผิวดำ แต่พอไม่โดนแดดก็ยังขาวขึ้นได้ แต่ UVA แก่แล้ว เหี่ยวแล้ว ทำได้อย่างเดียว คือ ทำใจ > แต่ถ้าโดนทำลายช่วงแรกๆ ยังไม่ถึงชั้นลึกมาก แล้วขยันโบกกันแดดดีๆ ที่กันได้ครบ ตามมาตรฐาน USA spectrum board คือ ครบทุกรังสีจริงๆ อย่างน้อย ผิวก็จะแข็งแรงขึ้น กระชับขึ้น เรียบเนียนขึ้น แต่หวังจะให้เต่งตึง เด้งใส เหมือนผิวคนที่เค้าโบกกันแดดประจำ นั้น ยาก แต่ก็ดีขึ้นได้ในระดับที่น่าพอใจ และมั่นใจได้ว่า จะไม่เหี่ยวแก่แซงหน้าเพื่อนๆที่ขยันโบกกันแดด ไปมากกว่านี้

Dr. Mitchell Chasin, a dermatologist who did not treat McElligott, says it is extremely common to see patients that come in with more damage to their left side than their right.

ดอกเตอร์ มิเชล ยังบอกอีกว่า เป็นปกติที่คนที่มารักษาส่วนมากจะ ผิวด้านซ้ายเสียหายได้รับการทำลาย กว่าด้านขวา นั่นเพราะประเทศเค้า ขับรถกันชิดขวา พวงมาลัยซ้ายนั่นเอง ทั้งๆที่แดดก็ไม่จัด แต่ผิวด้านซ้ายพังกันทั้งนั้น !!!
ดังนั้น เราๆที่อยู่ในประเทศไทย วันไหน เห็นแดดไม่แรง อย่านิ่งนอนใจ เพราะ UV index ประเทศเราสูงสุดระดับท็อปของโลก สูงกว่าหลายๆประเทศทะเลทรายแดดเปรี้ยงด้วยซ้ำ ขนาดคุณ McElligott ขับรถใน Chicago ที่ ดัชนี index จิ๊บๆ ผิวยังแอบโดน UVA ทำลายซะแก่เกินอายุขนาดนี้ แล้วเรา อยู่ในเมืองไทย ที่ UV index สูงลิบทะลุชาร์ท แต่กล้าเดินใต้ท้องฟ้า หน้าไร้กันแดด แก่แซงเพื่อนไม่รู้ตัวเลยนะคะ ขอบอก
ดังนั้น ถ้า ออกแดด ให้ทากันแดดที่กันได้จริง ครบทุกคลื่นรังสี ตาม มาตรฐาน USA spectrum board อย่าสนใจแค่กันแดดทาแล้วผิวสวย หน้าเด้งหน้าขาว โบกกันแดดทุกวัน เลือกกันแดดที่กันได้ครบทั้ง UVA UVB UVA1 SPF 50 ขึ้นไป และ กันได้อีก 3+

Umbrella คือกันแดด คุณภาพไฮเอนด์ ที่ สาวก แบรนด์เคาท์เตอร์ โยน กันแดดหลอดละหลายพันทิ้งกันมาแล้ว
ทั้งนักกีฬา ทางบก ทางน้ำ หลายคนลองใช้ ลงความเห็นว่า มันกันได้ดีมากๆ นั่นเพราะ มีกันแดดอยู่ไม่กี่ตัวในโลก ที่ใช้ Zinc และ titanium เป็นสารออกฤทธิ์ในการกันแสงแดดคู่กัน ปกติจะใส่เพียงตัวใดตัวหนึ่ง เพราะไม่งั้นจะเยิ้มและวอก แต่ Umbrella ทำได้ โดยที่เนื้อครีมยังเบาที่สุดเท่าที่คุณเคยลองมาก กันได้เยี่ยม ประสิทธิภาพสูงลิบ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ผิวที่โดนทำลายโดย UVA จะดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด !!!
Umbrella ไม่ใช่ครีมหน้าขาว ไม่ใช่เครื่องสำอางหน้าเด้ง แต่เป็นครีมกันแดด คุณภาพไฮเอนด์ ที่ “กันได้จริง กว่าที่คุณเคยสัมผัส ครบทุกคลื่นรังสี ตามมาตรฐาน USA spectrum board” ปกป้องได้จริงๆ จนผิวคุณค่อยได้ได้รับการฟื้นฟูประหนึ่งผิวที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยผ้า จนผิวค่อยๆขาวขึ้นจนใกล้เคียงหรือเท่ากับผิวในร่มผ้า ซึ่งนั่นคือสีผิวจริงของคุณ และ มีผิวที่สุขภาพดีขึ้น อย่างสังเกตได้
และกันแดดที่ดี ต้องไม่มี AHA หรือ สารผลัดผิว ลอกผิว หรือ whitening ใดๆ ถ้าจะขาวขึ้นได้ เพราะ ผิวได้รับการปกป้อง ที่ปกป้องได้จริง จากทุกรังสี ปกป้องได้ทุกชั้นผิว

Umbrella “กันแดด ที่กันได้จริง กว่าที่คุณเคยสัมผัส”