ไม่ว่าเกิดเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
ทุกคนย่อมมีความรักด้วยกันทั้งนั้น
เพียงแต่คุณจะรักแบบไหนที่ให้ทุกข์น้อย
และมีความสุขสดชื่น ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง
ความรักทำให้คนทำอะไรได้ทุกสิ่งทุกอย่าง
จากที่ไม่เคยให้ จากที่เคยไม่ทำ หรือคิดจะทำ
แต่....ก็ต้องมาทำเพราะความรัก
เพราะ....คนเคยมีศีลธรรม ศีลก็แตกได้อย่างง่ายดาย
คนฉลาดก็กลายเป็นคนโง่เพราะความรัก
สุดท้ายแล้ว ศีลธรรม ความดี ความเมตตา
จิตสำนึกที่ดีงาม เท่านั้นที่จะช่วยยับยั้งกิเลสตัณหา
แห่งความชั่วและความไม่ดีได้

ความรักบางครั้งเหมือนเป็นคำสาป
เปลี่ยนหัวใจคนดีให้เป็นคนชั่ว
แล้วจะมีสักกี่คนที่สามารถยับยั้งความปรารถนา
แห่งความรักได้ จะมีสักกี่คน
ยังไม่ไม่แน่ใจ ตอบไม่ได้เหมือนกัน ความรัก
ความรู้สึกของคนที่อยู่ในสังคมนี่ก็เป็นแง่หนึ่ง
ของชีวิตคนเราในปัจจุบัน...ความรัก
คือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่ ความลุ่มหลง
และความสัมพันธ์แบบรักใคร่
ถ้ารักแบบความเมตตาปรานี
จะช่วยให้ชีวิตของคุณมีความอบอุ่น
ดังนั้นหากเรารักมากเท่าใด
และไม่รู้จักเตรียมใจไว้ล่วงหน้า
เรารักและหลงมากแค่ไหน
นั่นคือเมื่อใดที่ความรักและความสุขแปรเปลี่ยนไป
คุณก็จะเสียใจและจมอยู่กับอดีตที่ปวดร้าว
คิดน้อยใจ ว่าทำไม ทำไม เขาไม่รักเรา
ทำไมเขาทำกับเราอย่างนี้อย่างนั้น
คุณจะเฝ้าถามอยู่กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา
เมื่อเป็นเช่นนั้นคุณก็จะเสียสุขภาพจิต
เสียสิ่งดีดีในชีวิตของคุณไป
ก็เพราะคุณ “คุณหลงเขานั่นเอง”
มันไม่ใช่ความรักที่แท้จริง
แต่เป็นหลงที่ครอบงำจิตใจของคุณต่างหาก
เรารักด้วยอะไร รักด้วยความรู้สึก หรือรักด้วยใจ
คุณลองค้นหาใจตัวเองหากรักด้วยความรู้สึก
แน่นอนความรัก แบบนั้นไม่ถาวร
คุณก็จะรวดร้าวกับสิ่งที่คุณรัก ทุกข์ทรมานกันไม่รู้เท่าไหร่
“รักแท้มักไร้เหตุผล”
ความรักใคร่ คือ รักอยากได้เขามาครอบครอง
เพื่อความสุขของคุณ
นี่คือเหตุผลข้อเดียวของที่มนุษย์ชอบกล่าวอ้าง..ว่า
เป็นรักแท้..บางเวลา ที่คุณร้องไห้คุณรู้สึกเหนื่อยไหม
กับการที่คุณไปรักเขา โดยที่เขาไม่สนใจใยดีในตัวคุณ
(คุณเหนื่อยใช่ไหม)
ความรัก-เปรียบเสมือนโคล่ากระป๋องเปิดใหม่ ๆ ก็ซาบซ่า
นาน ๆ ไปจึงรู้ว่าจืดชืด
เพราะฉะนั้นความผิดนั้นแหละ...
มันจะเป็นบทเรียนสอนใจตัวเองให้ตัดสินใจได้ถูกต้องขึ้น
ถึงอย่างไรก็หนีไม่พ้นไม่ว่าเราจะรักมากมายแค่ไหน
เราก็ต้องพลาดพรากจากกันในท้ายที่สุด
อนิจจังไม่เที่ยง คือสัจจะธรรมของชีวิตมีไว้เตือนสติ
ให้คิดยามชีวิตสับสน
คนเราควรมีอดีตอยู่ข้างหลัง
และมีความหวังอยู่ข้างหน้าสงบใจย่อมอยู่เป็นสุข
(Through perseverance come liberation)
ต้นเหตุแห่งความทุกข์ที่แท้ไม่ได้อยู่ที่เขา แต่อยู่ที่กรรมของเราเอง

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก http://www.rakkrai.com/A79/rin.html