ได้รับ e-mail fw ฉบับนี้มาค่ะ เลยเอามาแบ่งปันกันอ่าน เผื่อใครที่ผ่านไปแถวนั้นจะได้ช่วยกันอุดหนุน...เนื้อเรื่องยาวหน่อยนะคะ....
หลายคนคงจะเห็นด้วยเกิดเป็นคนก็ลำบากมากพออยู่แล้ว

แต่หากเกิดเป็นคนไม่สมประกอบนั้นลำบากยิ่งกว่า

ถึงแม้ ‘จอห์น-ศุภาพิชญ์ บัวติ๊ก’ เธอจะมีอวัยวะครบ 32 เหมือนคนปกติก็จริง

แต่อดีตตลกร่างเล็กผู้นี้ก็มีรูปร่างที่ต่างแต่งจากคนทั่วไป

เพราะเธอเกิดมากับความแคระแกรน จึงทำให้เธอขาดโอกาสหลายอย่างทางสังคม

และครั้งหนึ่งในชีวิตเธอเคยมีพร้อมทั้งในด้านหน้าที่การงาน และครอบครัว

หลังจากที่เธอได้มีโอกาสเข้าไปเป็นสมาชิกคณะตลก “เหลือเฟือ มกจ๊ก”

และได้ใช้ชีวิตกับสามี‘โจ้-สมชาย จันทรเจือ’ ตลกแคระคณะเดียวกัน และมีพยายานรักน้องเจนนี่ด้วยกันหนึ่งคน

แต่ชีวิตกลับพลิกผัน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2547 โจ้เสียชีวิตจากเหตุปาหิน

จากนั้นไม่นาน ปี 2549 เธอต้องสูญเสียลูกสาวเพียงคนเดียวเพราะอุบัติเหตุรถเหยียบ

ทำให้จอห์นเสียสติแทบขาดใจ งานแสดงตลกไม่มีเพราะพิษเศรษฐกิจ ทำให้คณะมกจ๊กต้องยุบวง

หลังจากตั้งสติได้ จอห์น ฮึดสู้ด้วยการหันมาหาเลี้ยงชีพด้วยการตำน้ำพริกขาย ย่านรามคำแหง

โดยเรามีโอกาสพูดคุยถึงชีวิตความเป็นมา ตลอดระยะเวลาเกือบ 6 ปี ที่เธอต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง

“พี่มาขายน้ำพริกที่นี่มาตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ครบวันเสียของลูกแล้ว 2 ปี

ตอนนั้นไม่มีเงินทำบุญให้ลูกก็เลยมาขายของที่ตรงนี้ จากนั้นก็ขายมาเรื่อยๆ เพราะพี่ก็ตำน้ำพริกมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว”

ปกติขายน้ำพริกกระปุกเท่าไหร่

“ขายกระปุกละ 20 บาท ขายส่งกระปุกละ 15 บาท นานๆ ที ก็มีคนมารับไปขาย”

เมื่อก่อนเล่นตลกอยู่กับเหลือเฟือไม่ใช่เหรอ

“ไม่ได้เล่นนานแล้ว ตั้งแต่ลูกเสียพี่ก็ไม่ได้เล่นแล้ว เป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี คณะก็เลยยุบ

สมาชิกในคณะก็ต่างคนต่างอยู่คนละทิศคนละทาง พี่ก็ไม่รู้จะไปไหน อย่างก่อนหน้านี้พี่เหลือเฟือบอกว่าจะดูแล

อาจจะเป็นเพราะพิษเศรษฐกิจไม่ดี ต่างคนต่างย่ำแย่ เค้าก็เลยไม่ได้ดูแลเรา ตอนนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย”

ตอนนี้พี่จอห์นอยู่กับใคร

“อยู่คนเดียวแถวพุทธมณฑลสาย 4 ค่าเช้าห้องก็เดือนละ 1,200 บาท รวมค่าน้ำค่าไฟก็ 2,000 ส่วนเรื่องรายได้ก็ไม่แน่นอน แล้วแต่ช่วงขายดี-ไม่ดี”

ทำไมเดินทางมาขายไกลขนาดนี้

“ที่ตรงนี้คนเยอะก็เลยเลือกที่จะมาขายตรงนี้ มีเพื่อนที่มาขายด้วยกันคอยช่วยเหลือ”

มีหนี้สินบ้างมั้ย

“ก็มีหนี้สินที่เป็นหนี้รายวัน เกิดจากการนำเงินมาหมุนซื้อของทำน้ำพริก รายรับน้อยกว่ารายจ่าย เดี๋ยวสติ๊กเกอร์หมด เดี๋ยวถึง เดี๋ยวกระปุกหมด

เงินก็หมุนไม่ทัน บางวันก็ไม่มีเงินจ่ายหนี้เค้าก็ขอผ่อนผันไปก่อน”

ลำบากมั้ย

“ลำบากค่ะ เพราะเราต้องสู้คนเดียว ทุกวันนี้ก็ต้องก็ต้องตื่นมาทำงานตี4 ทุกวัน ไปตลาดซื้อของมาทำน้ำพริก

เดินทางมาขายของที่ม.รามฯ 9 โมง ถ้าวันไหนของเยอะก็นั่งแท็กซี่เอา บางวันก็นั่งรถเมล์ประหยัด บางทีก็ฝากของไว้ที่ห้างไว้เพราะถ้านั่งแท็กซี่ทุกวันก็ไม่ไหว”

พี่จอห์นอยากทำงานอย่างอื่นบ้างไหม

“ก็อยากนะแต่คงไม่มีโอกาสแล้วหล่ะ เพราะก็อายุมากแล้ว

มีคนมาช่วยเหลืออะไรบ้างมั้ย

“ไม่มีค่ะ ไม่กล้าโทรไปหาพี่เหลือเฟือพี่เค้าก็ไม่มีคณะแล้ว เราอยู่คนเดียวไม่อยากไปรบกวนพี่เค้าอีก เราไม่มีผลงาน พอหารายได้ก็ไม่อยากจะไปรบกวน”

ทางสมาคมตลกให้ความช่วยเหลือบ้างมั้ย

“ไม่มีเลย ตอนที่แฟน-ลูกเสีย เค้าบอกว่าจะช่วยก็ไปรับเงินก้อนหมื่นนึงเท่านั้นเอง เราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะช่วยยังไง

เพราะช่วงนั้นเราก็สับสนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เค้าก็รู้ว่าเราขายของอยู่ตรงนี้แต่ก็ไม่เห็นมีใครแวะมาทักทายบ้างเลย”

ทางเพื่อนตลกรู้มั้ยว่าพี่จอห์นขายของอยู่ที่นี่

“รู้แต่ก็ไม่เห็นมีใครแวะมาทักทายหรือมาช่วยซื้อเลยค่ะ”

น้อยใจบ้างมั้ย

“ก็น้อยใจที่ว่าเราไม่มีผลงานแล้วเค้าก็ไม่ได้สนใจเรา ก็เหมือนทุกคนถ้ามีผลงาน เจ้านายก็รู้จักกันหมด ไม่ว่าศิลปินหรือใครก็ตามแต่ เราก็เหมือนคนโดนทอดทิ้ง”

ท้อมั้ย

“ก็ท้อบางทีนอนกลางคืนต้องใช้ยานอนหลับ ยาคลายเครียดช่วยให้นอนหลับได้ แต่เราก็ได้กำลังใจเวลาดูรูปแฟนรูปลูกสาวก็ช่วยได้บ้าง

ถ้าว่างแล้วไม่เหนื่อยมากก็จะตื่นขึ้นมาตักบาตรทำบุญให้เค้า คิดถึงเค้าสุดๆ อธิฐานเกิดชาติหน้าฉันท์ใดขอให้อยู่ด้วยกันตลอดในครอบครัวของเรา

ชาตินี้ทำบุญมาด้วยกันแค่นี้ เค้าหมดกรรมหมดเวรก่อนเราแต่เรายังใช้กรรมอยู่”

มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตยังไงบ้าง

“เรามีกำลังใจสู้ อยากให้คนอื่นเค้ามองตัวเราขนาดนี้ยังสู้ได้ ก็อยากให้คนอื่นสู้เหมือนเราบ้าง อย่าท้อแท้

ซึ่งเราก็ได้รับกำลังใจจากหลายคนแม้กระทั่งคนที่มาซื้อของเรา เค้าก็บอกว่าให้สู้นะ อาชีพตรงไหนที่เราทำได้ก็ทำไปเลย พี่ทำได้หมด

แต่ไม่เคยคิดจะไปขอทาน ถึงพี่จะเป็นคนแคระแต่ก็มีศักดิ์ศรีค่ะ” อดีตตลกแคระกล่าว


หากท่านใดต้องการอุดหนุนช่วยซื้อน้ำพริกนรก-แมงดา-ตาแดง สามารถติดต่อมาได้ที่ 084-639-4530 (จอห์นสู้ชีวิต)

ท่านใดสะดวกและอยู่ใกล้รามคำแหง หัวหมาก สามารถไปอุดหนุนน้ำพริกได้

ผมตื่นมาเช้าวันที่ 25 มกราคม 2552 นั่งดูเวปต่างๆอย่างที่เคยทำประจำ พอดีมาเจอข้อความนี้เข้าในเวปเวปนึง

สิ่งหนึ่งที่ผมคิดก็คือผมจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง ผมเป็นคนที่ทานน้ำพริกไม่ค่อยเป็น และรามคำแหงผมไม่ได้ผ่านบ้านผมเลย

และลำบากมากที่จะไปแถวนั้นได้ ผมจึงทำเมล์นี้ขึ้นมา fw ให้เพื่อนๆผม ผมไม่ได้ค่า fw อะไรเลยนี่เป็นเมลธรรมดาเท่านั้น

แต่อย่างน้อยถ้าคุณไม่ได้แว๊ะไปซื้อของของเขาคุณก็ช่วย fw เมลนี้ให้คนที่ผ่านแถวนั้นเป็นประจำได้ได้นึกถึง แม่ค้าตัวเล็กๆคนนี้ด้วย

นี่เป็นเมล์ ธรรมดา ฉบับแรกที่ผมทำขึ้นมาให้เพื่อนๆช่วย fw ต่อ


ขอบคุณคับ
เข้าไปดูรูปได้ที่นี่ค่ะ...
http://news.sanook.com/story_picture/b/338624_007.jpg
http://news.sanook.com/story_picture/b/338624_002.jpg
http://news.sanook.com/story_picture/b/338624_003.jpg
http://news.sanook.com/story_picture/b/338624_004.jpg

ขอบคุณพื้นที่ดีๆๆแห่งนี้ SBN ที่แบ่งปันความสุข..ให้กับทุกคน