เลือกที่เราอยากเป็นค่ะ ชอบไอเดียที่น้องอยากช่วยเหลือคนมาก อยากให้มีหมอดีๆ อย่างน้องเยอะๆ![]()
เลือกที่เราอยากเป็นค่ะ ชอบไอเดียที่น้องอยากช่วยเหลือคนมาก อยากให้มีหมอดีๆ อย่างน้องเยอะๆ![]()
ขอแสดงความยินดีด้วยคนค่ะ น้องเก่งมากๆเลย
เชียร์ " หมอ " ค่ะ...
**คิดดี ทำดี มองโลกในแง่ดี**
ยินดีด้วยค่ะ เก่งมากๆ เลย
สำหรับพี่ๆ ว่างานหมอฟันเหมือนงานศิลปะนะคะ
แต่มันเหมือนงานสกปรกอ้ะค่ะ คิดดูว่าปากคนไข้แต่ละคนที่มาหา
มันไม่น่าดูชมหรอกค่ะ แต่ทำๆ ไปก็ชิน ;-P
เอาเป็นว่า เลือกที่ชอบ ดีกว่าคิดว่าจะสบายในภายหน้า
เพราะไม่ว่าหมอไหนๆ ก็เหมือนงานใช้แรงงานอ้ะค่ะ ;-P
เลือกที่คิดว่าทำแล้วมีความสุขดีกว่าน้า ไม่ว่างานไหนๆ ค่ะ
หมอฟันถ้าอยู่กทม.ดีค่ะ
แต่ถ้าต้องไปอยู่ตจว. ไม่ค่อยwork ยิ่งจังหวัดเล็ก
คนไม่ค่อยมีตัง ส่วนคนรวยก็วิ่งไปทำที่กทม.กันหมด
ที่แม่กลองหมอฟันไม่รวยเหมือนหมออื่นๆอ่ะค่ะ
แล้วก็ใช้แรงงานมากว่าด้วย
เมื่อก่อนเคยผ่าฟันคุด 4ซี่
สงสารหมอมากๆเลยค่ะ
หมอผู้หญิงอ่ะ กว่าจะดึงฟันเราออกมาได้
แทบจะยันกันตกเก้าอี้เลย
ดึงกันแบบนี้อยู่4ซี่ หมดแรงเลยค่ะ
เราก็ไม่เจ็บหรอกเพราะฉีดยาชาอยู่
แต่เลือดกรบปากเลยยยยยยย! กึ๊ยยยย!![]()
เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา
ยินดีด้วยนะคะ เก่งจังเลย ติดตั้งสองที่แน่ะ
พี่ว่าเลือกทางไหนก็ได้ เพราะทั้งสองทางเลือกก็ดีทั้งนั้นค่ะ![]()
....กรรมอยู่ที่เจตนา... ทำด้วยความตั้งใจดี แม้คิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ไม่หวั่นไหว ไม่ต้องกลัวอะไร... ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียกร้องอะไรด้วย...คนที่จิตใจพัฒนาแล้ว ย่อมแยกแยะได้ และในที่สุดคนพาลที่เจตนาไม่ดีก็ย่อมแพ้ภัยตัวเอง...
วิธีตั้งกระทู้ตรวจสอบที่ได้ผล เพื่อคำตอบที่รวดเร็ว และมั่นใจวิธีทำให้อ่านความเห็นได้เยอะๆ ต่อหนึ่งหน้า กระทู้นึงจะได้ไม่ต้องยาวเป็นยี่สิบหน้า อ่านได้ในกระทู้นี้ค่ะ http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=51805
congratulation ka ^_____^
both of them are very good indeed.
good luck na ja
เข้ามาแสดงความยินดีด้วยอีกคนจ้า เก่งมั่ก ๆ
เลือกสิ่งที่ตัวเองชอบดีที่สุดคะ ลองถามใจตัวเองว่าเรารักที่จะทำแบบไหนมากกว่ากั
เชื่อว่าคนเราเมื่อได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก หรือถนัด มันก็จะทำได้ดี และมีความสุขคะ
มันอยู่ที่เราชอบจริงๆค่ะ ลองคิดว่าอะไรท่เราทำแล้วน่าชอบนะคะ
สำหรับเราที่เราเลือกหมอฟันเพราะอยากเป้นมาตั้งแต่เด็ก รู้สึกว่าน่าจะชอบ
ซึ่งการจะรู้ว่าเราเหมาะกับอชีพนั้นมั๊ยเนี่ย สำหรับเรานะมันต้องมาเรียนมันถึงรู้ -*-
อ่านแนะแนว มองดูคนอื่น ลองทำไรนิดๆหน่อยๆมันก็ไม่เหมือนมาเรียน
ตอนเราเราแน่วแน่มากว่าไม่เอาหมอก็เลยเลือกหมอฟัน4อันดับเลย (เอนท์แบบเก่า)
เป็นผู้หญิงเรียนได้ทั้งสองแบบค่ะ แล้วหมอฟันงานก็ไม่ได้เบาหรอกค่ะ
เลือกดีๆน้า เอาใจช่วยค่ะ ว่าแต่ติดทันตะม.ไหนคะ ^^
มีลูกสาวเก่งอย่างนี้ พ่อ-แม่ปลื้มตาย.. ฝากแสดงความยินดีกับคุณพ่อ-คุณแม่ด้วยนะคะ
ทุกอย่างมีดี มีร้ายค่ะ จะเล่าให้ฟัง แล้วเลือกที่เหมาะสมกับตัวเองนะคะ
1..การเรียน การทำงาน หมอโหดกว่าหมอฟันแน่นอน
ที่สำคัญต้องอยู่เวร และเมืองไทยใช้งานหมอโหดมาก ต้องทำงานติดต่อกัน 36 ชั่วโมงรวด แม้วันหยุดก็ต้อง round word การลางานแต่ละครั้งต้องเคลียร์งานเหล่านี้กับเพื่อนให้ได้ ไม่งั้นถูกตราหน้าตลอดกาล
หมอฟันไม่ต้องอยู่เวร ไม่มีผู้ป่วยใน
2..งานของหมอฟันอยู่ในวงแคบกว่า ทางเลือกมีน้อย
การทำงานที่เป็นdisease จริงๆน้อย ทางเลือกอื่นๆ เช่น จัดฟัน ฟันปลอม ขึ้นอย่กับความพึงพอใจของลูกค้า ถ้าเป็นคนที่เจรจาไม่เก่งจะรุ่งยากมาก ที่สำคัญขณะทำงานลูกค้าพูดไม่ได้ด้วย
งานหมอเป็นการรักษามีเยอะกว่า และได้พูดคุยตลอดเวลา
3..หมอฟันกะหมอผ่าตัด อายุการใช้งานสั้น พอเริ่มสายตายาวการงานก็ไม่เนียนเหมือนหนุ่ม-สาวแล้ว ขณะที่หมอเด็ก -อายุรกรรม ยิ่งแก่ยิ่งเขี้ยว
การมีงานทำตอนแก่สำคัญนะคะ...คนแก่ขอเตือน...
หนทางในวิชาชีพนี้อีกยาวไกลค่ะ การสอบได้เป็นเพียงจุดเริ่มนะคะ รับรองการเรียน ความขยันก่อน entrance จิ๊บๆ แต่เครียดน้อยกว่าเพราะไม่ต้องแข่งกับคนอื่นแล้ว
ต่างๆนาๆ ดังกล่าวมาแล้ว เจ้าลูกชายป้าเองก็เลือกเรียนหมอค่ะ....ทุกวันนี้ก็ยัง happy ดี ยังไม่กลับมากัด พ่อ-แม่ ว่าชี้ทางลำบาก
การช่วยเหลือคนและสังคม ไม่ว่าอาชีพไหนๆ ก็ทำได้เหมือนกัน เพียงแต่ต่างบทบาทเท่านั้น อย่าไปมัวเปรียบเทียบกับใครเขา ดูตัวเองพัฒนาตัวเองดีกว่าค่ะ
ยินดีด้วยนะคะ
ค่อยๆทำ ลด ละ เลิก shopping....
แค่คิดก็ใจจะขาด
ความเห็นนี้ พี่ว่าตอบโจทย์น้องได้ครบถ้วนค่ะ
พี่มาเพิ่มเติมว่า
สิ่งนึงที่การเป็นแพทย์นั้นหนักที่สุด ไม่ใช่เรื่องเรียน(ซึ่งก็หนักมากพออยู่แล้ว) แต่เป็นเรื่องเวลาการทำงาน เพราะเป็นแพทย์นั้น "ต้องอยู่เวร" ค่ะ ซึ่งมันไม่ธรรมดาเลยกับชั่วโมงการทำงานเช่นนี้ แรกๆที่ยังโสด ยังจบใหม่ก็อยู่ได้ แต่พอนานๆเข้าจะทราบว่า มันทำลายสุขภาพอยู่มาก
คนที่เรียนแพทย์นั้นโอกาสจะเรียนต่อเฉพาะทางที่เราเลือกนั้น มีน้อย มากๆๆๆ ถ้าน้องจะอยากเป้นสิ งที่เค้าชอบเรียนกัน เช่น ผิวหนัง(ไม่ต้องอยู่เวร การแข่งขันสูงมาก) จักษุ ศัลยแพทย์พลาสติก รังสีแพทย์ หรือตอนนี้แม้กระทั่งวิสัญญีแพทย์ ซึ่งก็ต้องแก่งแย่งกันแทบตาย และการรับสมัครต่อแพทย์เฉพาะทางสาขาเหล่านี้ดังที่กล่าวก็ต้องใช้กำลังภายในเข้าพอควร(pull the string !)
ส่วนตัวพี่ พี่มีเพื่อนเป็น ทันตะ แม้จะเรียนต่อเฉพาะทางยากมากกกกเช่นกัน แต่ก็มีโอกาสให้คนที่พยายามพอเข้าเรียนได้ เพราะเขาใช้วิธีสอบกันค่ะ ซึ่งพี่คิดว่ามันแฟร์มากกว่า
ทันตะ พี่คิดว่าการเรียนคงยากไม่แพ้แพทย์ และ ตอนทำงานก็เหนื่อยเช่นกัน แต่อาจจะมีข้อดีอีกข้อ คือ ไม่ต้องอยู่เวรกลางคืน
ยังงัยรอคุณ Joywila มาช่วยตอบเรื่องทันตะ นะคะ
Love, like a river, will cut a new path
whenever it meets an obstacle.