จริงๆก็ไม่น่ามีผลนะคะเคยอ่านเจอที่พันทิปห้องไกลบ้าน เราเคยรับรองให้แต่น้องสาวแท้ๆนะ ถ้าไประยะสั้นรับรองได้ถ้าไม่ใช่ญาติสายตรงเคยทำที่ไทยพาณิชย์ใบละ200บาทระบุชื่อเจ้าของบัญชีและคนที่จะรับรอง
จริงๆก็ไม่น่ามีผลนะคะเคยอ่านเจอที่พันทิปห้องไกลบ้าน เราเคยรับรองให้แต่น้องสาวแท้ๆนะ ถ้าไประยะสั้นรับรองได้ถ้าไม่ใช่ญาติสายตรงเคยทำที่ไทยพาณิชย์ใบละ200บาทระบุชื่อเจ้าของบัญชีและคนที่จะรับรอง
![]()
สมใจอยากกกกก
เข้ามาฟังด้วยค่ะ![]()
มันก้ไม่น่าจะมีปัยหานะคะ แต่สถานฑูตเค้าก็จะมองอีกแหละว่าเกี่ยวพันกันยังไง
แต่ไปแบบนี้น่าจะใช้เงินไม่มากนะคะคุณโอ๋ เหะๆ แล้วยิ่งเป็นการดูงาน ยิ่งง่ายหนัก
ปล. เราเคยขอแต่ไปเที่ยวแล้วใช้แค่ statement ตัวเอง ที่ก็ไม่ได้มีเงินเยอะซะขนาด ก็ผ่านมาทุกทีอ่ะ
"P u r s e A d d i c t i o n
"
คิดว่าไม่มีผลนะคะคุณโอ๋ แต่จริงๆเคยได้ยินว่าการมีเงินในบัญชีเยอะๆก็อาจไม่ได้วีซ่า เนื่องจากเค้ามองเหมือนกับว่าเราขายทรัพย์สินที่มีในประเทศนี้ เพื่อไปตั้งตัวในประเทศเค้ารึเปล่า ทางที่ดีมีประมาณ 2-3 แสนก็น่าจะพอค่ะ
Vision without action is a daydream
Action without vision is a nightmare
ถ้าหน่วยงานราชการดูงานปกติหน่วยงานจะทำ passport ราชการ การขอ visa ไม่ใช้อะไรเลยนะคะ ยิ่งเป็นหมอด้วย ปกติกระทรวงสาธารณสุขดูแลดีนะคะ
น้องสะใภ้เราเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยรัฐ พานักศึกษาไปต่างประเทศก็ไม่เห็นมีปัญหานี้นะคะ ขนาดว่าไปญี่ปุ่นที่ว่าโหดสุดๆ
น้องกังวลมากไปหรือปล่าวคะ...
หนังสือรับรองจากหน่วยงานน่าจะสำคัญกว่านะคะ
ถ้าต้องทำ แบงค์การันตี จริงๆ ปรึกษาธนาคารถึงเงื่อนไขการครอบคลุม ความรับผิดชอบดีกว่า ปลอดภัยสำหรับเราและนิ่มนวลกับน้องด้วย
เอาใจช่วยทั้งพี่ทั้งน้องค่ะ
ค่อยๆทำ ลด ละ เลิก shopping....
แค่คิดก็ใจจะขาด
ขอบคุณทุกๆ ความเห็นนะคะ เดี๋ยวจะลองปรึกษากับทางแบงค์ดู
1 ในสาเหตุที่มานั่งกังวลก็เพราะกลัวว่า ถ้ามี Blacklist เรื่องการค้ำประกันอะไรทำนองนั้นแล้ว...จะไปขอวีซ่าของบางประเทศไม่ได้อ่ะค่า แต่เท่าที่อ่านข้อความด้านบนแล้ว คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันเท่าไร
อิอิ...กลัวอดไปเที่ยวอ่า![]()
ไม่มีปัญหาและไม่ผลกระทบต่อตัวสปอนเซอร์แน่นอนค่ะ แต่เวลาไปขออาจจะต้องยื่นหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ด้วยว่าเกี่ยวข้องกันยังไง และต้องมีจดหมายรับรองจากสปอนเซอร์ด้วยว่าจะเป็นผู้รับชอบเรื่องค่าใช้จ่ายระหว่้างที่อยู่ประเทศนั้นๆค่ะ
ส่วนรับผิดชอบจริงไม่จริงนี่อีกเรื่องนึงค่ะ เพราะพอได้วีซ่ามา เขาก็ไม่สนใจแล้วล่ะ ส่วนเรื่องจำนวนเงินไม่มีผลค่ะ แต่ให้ครอบคลุมกับเวลาที่จะไปพักอยู่ประเทศของเขาด้วยเป็นดี
โอ๋จ๊ะ...พี่ว่าไม่น่าเป็นอะไรน๊า เพราะเพื่อนสนิทของพี่สาวพี่ก็เคยมาขอให้พ่อพี่ทำอะไรประมาณนี้ให้ ตอนที่เค้าไปเรียนต่อโทที่เมกาอะ ก็ไม่มีอะไรที่เราต้องรับผิดชอบต่อ เหมือนเค้าขอไปใช้เพื่อให้ได้ visa แต่พอได้แล้ว ไปใช้ชีวิตที่โน่น ก็เป็นการเริ่มต้นของเค้าเองใหม่อะ ไม่เกี่ยวกะเราแล้ว![]()
ไม่มีค่ะ
ตอนเราเป็นนักศึกษาแพทย์ ก็ไปแบนี้เหมือนกัน เดือนกว่า
ของเรา พ่อ แม่ เดินบัญชีให้
ส่วนมาก ก็ไม่เกี่ยวกะคนค้ำประกันอะไรเลยค่ะ แค่จะดูที่มาที่ไปของเราเฉยๆ
เรื่องเค้าไปทำผิดก็ไม่ส่งผลถึงเราแน่ค่ะ เพราะว่า คนละคนกัน แต่ถ้าทำผิดที่ต่างประเทศเค้าก็จะถูกพิจารณาด้วยกฏหมายตามประเทศนั้น ไม่เกี่ยวกับเราคนค้ำประกันอะไรเลยค่ะ
แต่ ไปประเทศอะไรเอ่ย
Love, like a river, will cut a new path
whenever it meets an obstacle.
ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะคะคุณโอ๋ Meesook ก็เคยให้ statement กับญาติแบบนี้เหมือนกันค่ะ (ญาติไปอเมริกา) แค่ต้อง declare ไปว่าเป็นอะไรกัน แล้วก็ออกจดหมายรับรองว่าเราเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของคนที่ขอวีซ่า
ส่วนถ้าจะมีเหตุอะไรเกิดขึน ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับคนรับรองเงินมั้งคะ ไม่น่าจะมา black list สปอนเซอร์หรอกค่ะ
....กรรมอยู่ที่เจตนา... ทำด้วยความตั้งใจดี แม้คิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ไม่หวั่นไหว ไม่ต้องกลัวอะไร... ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียกร้องอะไรด้วย...คนที่จิตใจพัฒนาแล้ว ย่อมแยกแยะได้ และในที่สุดคนพาลที่เจตนาไม่ดีก็ย่อมแพ้ภัยตัวเอง...
วิธีตั้งกระทู้ตรวจสอบที่ได้ผล เพื่อคำตอบที่รวดเร็ว และมั่นใจวิธีทำให้อ่านความเห็นได้เยอะๆ ต่อหนึ่งหน้า กระทู้นึงจะได้ไม่ต้องยาวเป็นยี่สิบหน้า อ่านได้ในกระทู้นี้ค่ะ http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=51805