Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 10 of 15

Thread: สาวเสพติดศัลยกรรม

Hybrid View

  1. #1
    ople's Avatar
    ople is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3

    สาวเสพติดศัลยกรรม

    คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้นภาพสวยในอดีต
    หลังการผ่าตัดช่วงแรกๆ
    หน้าใหม่ไซส์เล็กลง
    ออกไปใช้ชีวิตในสังคมแบบปกติ
    นับเป็นอุทาหรณ์สอนใจใครหลายคนที่ชื่นชอบการทำศัลยกรรมได้มากทีเดียว สำหรับการเผยโฉมของนักร้องสาว "ฮัน มี อ๊ก" วัย 47 ผู้มีหน้าตาประหลาดหลังจากทำศัลยกรรมมานับครั้งไม่ถ้วนด้วยฝีอของตนเอง!

    ฮัน มี อ๊ก เคยปรากฏตัวอย่างโด่งดังเมื่อปี 2004 ในสภาพของสาวตกงาน, น่าหดหู่ และมีศีรษะที่ใหญ่กว่าคนธรรมดาถึง 3 เท่า เนื่องจากน้ำมันที่เธอใช้ในการทำศัลยกรรมจับตัวเป็นก้อนแข็งอยู่ใต้ผิวหนัง

    นักร้องสาวคนนี้ครั้งหนึ่งเธอเคยต้องเข้ารับบำบัดอาการเสพติดศัลยกรรมเนื่องจากความคลั่งไคล้ในการเสริมความงามพลาสติกของเธอเข้าขั้นรุนแรงด้วยการฉีดน้ำมันทำอาหารและพาราฟินเข้าที่ใบหน้าของเธอเองหลังจากแพทย์ปฏิเสธที่จะทำศัลยกรรมให้เธออีกต่อไป

    ส่งให้เธอกลายเป็นโรคจิตเภทเข้าขั้นรุนแรง ซึ่งหลังการปรากฏตัวออกทีวีเมื่อปี 2004 ธารน้ำใจจากผู้ชมได้หลั่งไหลเงินบริจาคมาช่วยในการผ่าตัดให้เธอกลับมามีสภาพเหมือนคนปกติได้อีกครั้ง ตอนนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานับจากนั้นเธอผ่านการผ่าตัดไปถึง 15ครั้ง และสามารถนำสิ่งแปลกปลอมบนใบหน้าเธอออกไปได้ถึง 4 ก.ก. ส่งให้เธอเริ่มกลับมามีใบหน้าที่เกือบจะเท่าคนปกติได้อีกครั้ง

    แต่หลักฐานแห่งการทำลายโฉมของตัวเธอเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้าแม้ว่าเธอจะกลับมามีศีรษะเกือบเท่าคนปกติแล้วก็ตาม เพราะใบหน้าที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมของเธอนั้นยังคงไม่สามารถแก้ไขได้

    ชาง ชุง ฮยุน ผู้เชี่ยวชาญและดำรงตำแหน่งผู้บริหารของโรงพยาบาลคังบุก ซัมซุง แผนกศัลยกรรมผู้ทำการผ่าตัดแก้ไขให้กับนักร้องสาว 15 ครั้งที่ผ่านมาเผยว่า "ผมคิดถึงจุดประสงค์ของการเสริมความงาม มันเป็นเรื่องสำคัญกับขั้นตอนต่างๆที่ยุ่งยากมากขึ้นในการผ่าตัดแต่ละครั้ง แต่ตอนนี้เธอไม่ต้องการที่จะทำการผ่าตัดอีกแล้วเพราะว่าตอนนี้เธอมีความสุขกับใบหน้าของเธอตอนนี้แล้ว"

    นอกจากนั้นเขายังกล่าวด้วยว่าอดีตนักร้องสาวที่เคยเป็นตัวประหลาดในสังคม ตอนนี้เธอมีงานทำแล้วซึ่งทำงานเกี่ยวกับการออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าเลยทีเดียว

    "ตอนนี้หน้าของเธอเล็กลงแล้ว และผู้คนต่างจำเธอได้เพราะว่าเธอเคยออกทีวี ทำให้ตอนนี้เธอทำงานได้อย่างปกติสุขและเป็นงานที่ดีด้วย"

    ครั้งหนึ่งฮัน มี อ๊ก เคยเป็นนักร้องสาวที่สวยมากคนหนึ่งโดยเป็นที่รู้จักกันดีในนาม ฮาง มี กู แต่ชื่อเสียงของเธอเริ่มเป็นที่รู้จักลดลงเมื่อเธอย้ายจากโซลไปเปิดการแสดงที่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่อายุได้ 28 ปี

    ตอนนั้นเธอเริ่มไม่พอใจในคางของตัวเองจึงเข้ารับการทำศัลยกรรมเสริมสิลิโคนกับหมอเถื่อนในประเทศญี่ปุ่น

    โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า "ฉันรับไม่ได้ที่จะมีใครมาสวยกว่าฉัน ฉันจะรู้สึกอิจฉาพวกเขา ฉันจะต้องสวยที่สุด ดีที่สุด ฉันต้องการเป็นคนที่สวยสมบูรณ์แบบที่สุด"

    แม้ว่าหน้าตาของเธอจะผิดรูปไปจากการศัลยกรรมบ่อยครั้ง เธอก็ยังคิดว่าเธอสวยอยู่ดี และเมื่อเธอเดินทางกลับมาที่เกาหลีในปี 1998 เธอก็ทำให้ครอบครัวถึงกับช็อคเมื่อทุกคนไม่สามารถจำได้ว่าเธอคือใคร และเมื่อตระหนักได้ว่านักร้องสาวทำอะไรลงไปพวกเขาจึงได้โน้มน้าวให้เธอเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมอย่างถูกวิธีและถูกกฏหมาย

    แต่ทางด้านนักร้องสาวได้ทำการปฏิเสธคำแนะนำของครอบครัวและตัดสินใจที่จะจัดการด้วยวิธีของตัวเธอเอง โดยครั้งนั้นเธออ้างว่าเธอได้ยินเสียงคำสั่งในหัวของเธอว่าให้ฉีดน้ำมันถั่วเหลืองที่ใช้ทำอาหารเข้าไปที่ใบหน้า และมันคือจุดเริ่มต้นแห่งความเลวร้ายนับตั้งแต่นั้นมา

    หลังจากที่ใบหน้าของเธอเริ่มแปรเปลี่ยนไม่เป็นรูปเป็นร่าง ทีมงานของสถานี SBS ของเกาหลีก็ได้พบตัวเธอในเดือน พ.ย. ปี 2004 ซึ่งในเวลานั้นเธอกำลังทุกข์ทรมานจากการทำศัลยกรรมอย่างมาก ความสามารถทางการมองเห็นลดลง มีอาการเจ็บที่หู และใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยสิ่งแปลกปลอมและทำให้ขยายใหญ่มากขึ้น จนไม่สามารถหันศีรษะและปิดปากตัวเองได้เลย

    เธอหลบหน้าทุกคนในครอบครัวและหันมาใช้ชีวิตแบบสันโดษมากขึ้น อาศัยอยู่ในบ้านที่เล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาหวาดกลัวที่เธอจะได้รับจากทุกคน

    นอกจากจะถูกมองแบบรังเกียจแล้วใบหน้าที่แปลกประหลาดของเธอยังถูกล้อเลียนด้วย เมื่อเธอเดินไปซื้ออาหารที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเด็กๆเพื่อนบ้านที่รู้จักเธอต่างก็เรียกเธอว่า "ป้าพัดลม" หรือ "พัดลมตั้งพื้น" เพราะศีรษะที่มีขนาดใหญ่กว่าลำตัว

    "ฉันเกลียดการดูกระจก ฉันเกลียดหน้าตัวเอง ฉันรู้สึกทรมาน" เธอกลายเป็นคนถังแตกและรอรับความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลเท่านั้น พร้อมกันนั้นขณะที่เธอไปออกรายการในปี 2004 เธอยังโชว์สมุดบัญชีเงินฝากที่ตอนนั้นมีอยู่เพียง 1,836 วอน หรือไม่ถึง 100 บาท

    โดยชีวิตที่ผ่านมาของเธอต้องใช้ชีวิตอยู่ในความมืดนานถึง 6 เดือน เพราะเธอถูกตัดน้ำตัดไฟเนื่องจากไม่มีเงินจ่าย ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวของเธอออกอากาศไปเรื่องราวเหล่านี้ได้กลายเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับสาวๆที่เสพติดศัลยกรรมเป็นอย่างมาก พร้อมกันนั้นเธอยังได้รับเงินบริจาคเป็นจำนวนสุงถึง 27 ล้านวอน ที่จะช่วยจ่ายค่าผ่าตัดให้เธอกลับมามีชีวิตที่เป็นปกติอีกครั้ง

    หมอชาง ผู้ผ่าตัดให้เธอครั้งแรกในเดือน ก.พ. ปี 2005 หลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาลที่รักษาอาการทางจิต ซึ่งตอนนั้นเธอบอกกับหมอให้มั่นใจได้ว่าเธอจะไม่ฉีดอะไรให้ตัวเองอีกแล้ว

    หลังจากการผ่าตัดถึง 15 ครั้ง หมอชางผู้ผ่าตัดให้เธอกล่าวว่า "นี่ไม่ใช่การผ่าตัดศัลยกรรมความงาม เราไม่ได้ตั้งใจที่จะผ่าตัดให้เธอกลับมาสวย เราแค่ต้องการที่จะลดขนาดใบหน้าของเธอให้เล็กลงเท่านั้น เพื่อให้เธอได้มั่นใจและกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติได้อีกครั้ง"

    โดยการผ่าตัดครั้งแรกนั้นแม่ของเธอเดินทางมาเยี่ยมสร้างความประหลาดใจให้กับนักร้องสาวเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอหลั่งน้ำตาแสดงความยินดีที่ยังเห็นว่าแม่เธอยังมีชีวิตอยู่หลังจากที่เธอขาดการติดต่อจากทางบ้านมาเป็นเวลานานหลายปี แต่ก็นับว่านั่นคือครั้งสุดท้ายที่เธอได้เห็นหน้าแม่เพราะหลังจากนั้นเพียง 5 วันแม่ของเธอก็นอนหลับไปและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยซึ่งในพิธีศพเธอถึงกับหลั่งน้ำตาอย่างควบคุมตนเองไมอยู่

    และหลังการผ่าตัดเธอกลับมาใช้ชีวิตสันโดษอีกครั้งแต่ยังคงอยู่ใกล้ๆกับบริเวณบ้านของสมาชิกในครอบครัว นักร้องสาวยังคงกลับมาเยี่ยมเยียนเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าเธอจะปฏิเสธการผ่าตัดศัลยกรรมไปแล้วก็ตาม

    "เมื่อปีที่แล้ว เรามีปาร์ตี้อำลาให้กับเธอ เธอได้ร้องเพลงหลายเพลงให้กับเจ้าหน้าที่ได้ฟัง เธอร้องเพลงเพราะมากทีเดียว" หมอชางผู้รักษาเธอกล่าว

    และเขายังเห็นเธอออกทีวีครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 เดือนก่อนในรายการทีวีของญี่ปุ่น ซึ่งเธอกล่าวว่า "ฉันขาดสติตอนที่ฉีดสารต่างๆเข้าหน้าตัวเอง ฉันรู้สึกเสียใจมาก แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก และมีความสุขมากที่ได้กลับมามีชีวิตแบบปกติได้อีกครั้ง"

  2. #2
    ople's Avatar
    ople is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    น่ากลัวมากเลย เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ชอบไปฉีดสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย
    ทีแรกกะว่าจะไปฉีดไขมันตัวเองที่แก้มเหมือนกัน
    แต่พอมาเห็นข่าวนี้แล้ว ต้องกลับไปนั่งคิดใหม่อีกสิบตลบ กลัวอะ

  3. #3
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    น่ากลัวจังค่ะ..น่าสงสารมากๆด้วย
    **คิดดี ทำดี มองโลกในแง่ดี**

  4. #4
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    น่าสงสารจัง

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    6
    Quote Originally Posted by nita View Post
    น่ากลัวจังค่ะ..น่าสงสารมากๆด้วย
    คิดเหมือนกันเลยค่ะ จะสวยทั้งทีต้องคิดดีๆเนอะ ขอบคุณที่นำเรื่องมาแบ่งปันนะคะ
    *.:。✿*゚‘゚・✿.。.:**.:。✿*゚‘゚・✿.。.:* *.:。✿*゚’゚・✿.。.:*

    (✿◡‿◡) When U smile... (◡‿◡✿)
    [SIGPIC][/SIGPIC]
    (✿◕‿◕)
    The whole world smiles with U... (◕‿◕✿)

    *.:。✿*゚‘゚・✿.。.:**.:。✿*゚‘゚・✿.。.:* *.:。✿*゚’゚・✿.。.:*

  6. #6
    authentic_only's Avatar
    authentic_only is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2,832

    Smile

    ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ สวยจากภายในดีก่าาา
    รักในหลวง และ ครอบครัว...

  7. #7
    เมจิ's Avatar
    เมจิ is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    109
    อ่านแล้วช็อคคคค ทำไมขนาดนี้เนี่ย

    น่ากลัวมากเลย ><

    น่าสงสารจังอ่า

  8. #8
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    94

    Red face

    สำหรับประเด็นเรื่องการศัลยกรรมเพื่อนๆในนี้หลายท่านเป็นหมอ หลายท่านรู้ละเอียด ...อยากสวยเป็นเรื่องธรรมดา สวยในแบบของแต่ละบุคคลก็ดูน่ารักหลากหลายดีออก แต่เราติดใจประโยคนี้

    โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า "ฉันรับไม่ได้ที่จะมีใครมาสวยกว่าฉัน ฉันจะรู้สึกอิจฉาพวกเขา ฉันจะต้องสวยที่สุด ดีที่สุด ฉันต้องการเป็นคนที่สวยสมบูรณ์แบบที่สุด"

    อ่านแล้วสะเทือนใจ คิดแบบนี้ชีวิตเค้าไม่มีความสุขแน่ๆ เพราะต้องดิ้นรนตะเกียกตะกายตามมาตรฐาน(ที่เข้าใจเอาเองว่าถูก)....ศัลกรรมภายนอกเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากๆอ่า ต้องแก้ที่ "ใจ" ก่อนต่างหากนะเราว่า
    ห่างๆกันบ้าง (ก็น่าจะ) ดี เสียตังค์ตะ-หลอด เร๊ยยยยยยย (^^)'

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •