กรรมเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน
พระพุทธเจ้าบอกว่า
อย่าสงสัยในกรรม
กรรมเป็นอจินไตย
ทำกรรมดีไว้ ไม่เสียหลาย
ถึงไม่มีใครเห็น
แต่ก็ได้ถูกบันทึกไว้แล้ว
กรรมเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน
พระพุทธเจ้าบอกว่า
อย่าสงสัยในกรรม
กรรมเป็นอจินไตย
ทำกรรมดีไว้ ไม่เสียหลาย
ถึงไม่มีใครเห็น
แต่ก็ได้ถูกบันทึกไว้แล้ว
เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา
"อจินไตย แปลว่าสิ่งที่ไม่พึงคิด คือไม่อาจรู้ได้ด้วยการคิด แลถ้าขืนคิดให้รู้ให้ได้ก็จะกลายเป็นผู้มีส่วนแห่งความเครียดเป็นบ้าเสียสติไป
อจินไตยมี 4 อย่างคือ
๑. พุทธวิสัย คือความรู้ความสามารถของพระพุทธเจ้านั้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถที่จะหยั่งถึง เข้าใจได้ว่าทำไมพระพุทธเจ้าจึงทรงรู้ ทรงเห็น ทรงมีความสามารถมากมายก่ายกอง ผิดจากมนุษย์คนธรรมดาสามัญ
๒. ฌานวิสัย คือเรื่องของฌานสมาบัติ เช่นทำไมคนเราบางคนถึงเข้าฌานนั่งอยู่เฉยๆ ได้เป็นวันๆ โดยที่ไม่ต้องกินข้าวไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน สิ่งนี้เป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติเท่านั้นจะรู้ จะเข้าใจได้ ถ้าคนที่ไม่เคยประพฤติปฏิบัติมานั่งคิด นอนคิดยังไงก็ไม่สามารถเข้าใจได้ อย่างพวกเรานี้ เพียงแต่นั่งเฉยๆ แค่ ๑๕ นาที หรือครึ่งชั่วโมงก็จะนั่งกันไม่ได้อยู่แล้ว แล้วทำไมคนบางคนจึงนั่งหลับตานิ่งเฉยอยู่เป็นวันๆได้ นี้คือการเข้าฌานสมาบัติ ซึ่งไม่ใช่เป็นสิ่งที่ปุถุชนคนธรรมดาสามัญจะเข้าใจได้
๓. กรรมวิสัย เรื่องของกรรมนี้เป็นเรื่องที่เหนือวิสัยของมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาจะเข้าใจได้ว่า เมื่อทำกรรมอันหนึ่งอันใดไว้แล้ว ผลที่จะตามมานั้นจะเป็นอย่างไร หรือการที่มนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลายที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์หรือเป็นสัตว์ในโลกนี้นั้น
ได้กระทำอะไรมาในอดีต เรื่องนี้เราไม่สามารถที่จะรู้เห็นได้ เพราะเป็นเรื่องข้ามภพข้ามชาติ พวกเราเห็นได้แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในชาตินี้เท่านั้นเอง แต่เราไม่รู้ว่าชาติก่อนมีจริงหรือเปล่า ชาติหน้ามีจริงหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถจะรู้ได้จากความนึกคิดของเราเอง แต่เป็นสิ่งที่จะรู้ได้จากการประพฤติปฏิบัติธรรมเท่านั้น คือต้องนั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนาเท่านั้น จึงจะเข้าสู่ความจริงอันนี้ได้
๔. โลกวิสัย คือเรื่องของความเป็นมาของโลกนี้ ว่าโลกนี้เป็นมาอย่างไร เกิดขึ้นมาได้อย่างไร มีใครเป็นคนสร้างมาหรือเปล่า หรือไม่มีคนสร้าง เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่เหนือวิสัยของมนุษย์ที่จะสามารถรู้เห็นได้ เลยกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันไปต่างๆนานา บางคนก็ว่ามีพระเจ้าสร้างโลกขึ้นมา บางคนก็บอกว่าไม่มีพระเจ้า ไม่มีใครสร้างโลก เป็นเรื่องของเหตุ เป็นเรื่องของปัจจัย เป็นเรื่องของธาตุทั้ง ๖ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ และวิญญาณธาตุ เมื่อเกิดปฏิกิริยาขึ้นมาก็ทำให้เกิดเป็นโลก เป็นดาว เป็นเดือน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล อย่างนี้เป็นต้น เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมา"
เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา
"….อจิณไตย แปลว่าไม่มีประโยชน์ คือรู้ไปก้อไม่มีประโยชน์ รู้ไปก็เท่านั้น เสียสมองเปล่า ๆ ใช้อะไรไม่ได้…
….ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยถูกคนอื่นถามด้วยเรื่องอจิณไตย เช่น….
….จักรวาลกว้างเท่าไร? มีขอบเขตแค่ไหน?….
….นรก สวรรค์มีจริงหรือไม่? ถ้ามีตั้งอยู่ที่ไหน?…
….ถ้าสำเร็จพระอรหันต์แล้วจะอยู่ยังไงหลังความตาย?….
….คนเราตายแล้วจะไปไหน?….
….พระพุทธองค์ทรงตอบได้ทุกเรื่อง และทรงเมตตาสั่งสอนต่อไปว่า….
….”ตถาคตทราบดีทุกเรื่องที่ท่านถาม รู้ลึกซึ้งกว่าที่ท่านอยากจะรู้”….
….”แต่ว่าท่านอยากจะรู้ไปทำไม ในเมื่อท่านรู้แล้วก็ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์มรรคผลใด ๆ”…
….“เพราะมันมิใช่วิถีทางแห่งการดับอาสวะกิเลส เพื่อทำให้สิ้นทุกข์”…
….”ทุกเรื่องล้วนเป็นอจิณไตย คือท่านรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์”…
….”หากท่านอยากรู้ จงเร่งปฏิบัติให้สิ้นอาสวะกิเลสในตนเถิด แล้วท่านจะสามารถรู้ได้เอง”….
….หลักการอบรมสั่งสอนของพระพุทธศาสนานั้น คือสอนให้รู้ รู้ลึก รู้รอบ และรู้จริง….
….สอนให้รู้ด้วยการพิจารณาด้วยเหตุ ด้วยผล ด้วยข้อพิสูจน์…
….ไม่ใช่ให้รู้จากตำรา คัมภีร์ วิธีปฏิบัติ (ทฤษฎี) หรือแค่คำพูด…
….แต่สอนถึงหลักวิธีปฏิบัติจริง ที่สามารถพิสูจน์เหตุผลได้ทางวิทยาศาสตร์…
….ผู้ที่กล่าวถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เป็นพุทธมามะกะตัวจริง จึงปฏิบัติตนในทุกสภาวะโดยธรรม…
….ปฏิบัติในทุกอิริยาบทในการดำรงชีพ ไม่ใช่แค่นุ่งขาวห่มขาวนั่งหลับตาฟังอาจารย์สอนจนหลับใน แล้วเข้าใจว่าบรรลุธรรม…
….”ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเรา”…
….”ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าเห็นธรรม”…
….“หากประสงค์จะบูชาเรา จงบูชาด้วยปฏิบัติบูชาเถิด”…
….“อย่าพึงปฏิบัติด้วยอามิสบูชาเลย”….
คัดลอกจาก
http://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=44897&pid=616097&mode=threaded&show=&st=&"
เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
อิ่ม....................
อ่านแล้วนึกถึงเรื่อง"เจ้ากรรมนายเวร" ที่ช่อง3 เคยเอามาฉายเลยอะค่ะ
ขอบคุณที่เอามาฝากกันนะคะ
*.:。✿*゚‘゚・✿.。.:**.:。✿*゚‘゚・✿.。.:* *.:。✿*゚’゚・✿.。.:*
(✿◡‿◡) When U smile... (◡‿◡✿)
[SIGPIC][/SIGPIC]
(✿◕‿◕) The whole world smiles with U... (◕‿◕✿)
*.:。✿*゚‘゚・✿.。.:**.:。✿*゚‘゚・✿.。.:* *.:。✿*゚’゚・✿.。.:*
ชอบมากๆ และขอขอบเรื่อง อจิณไต ด้วยนะคะ อยากรู้เรื่องนี้พอดีเลย![]()
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
จงทำดี จงทำดี จงทำดี
ทุกคนในชีวิตมีดีและมีร้ายพอๆ กัน
ธรรมชาติเค้าให้เรามาอย่างสมดุลย์ค่ะ
อย่าอิจฉาคนอื่น อย่าคิดร้ายคนอื่น และอย่ามองคนอื่นด้านเดียว
ขอบคุณบทความดี ๆ ครับ
ผู้ทำแต่กรรมดีย่อมเป็นสุขใจปัจจุบัน![]()
บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา
ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81