Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 10 of 11

Thread: เรื่องของเวรและกรรม ลด กรรม ทำดี กันเถอะคะ

Hybrid View

  1. #1
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0

    เรื่องของเวรและกรรม ลด กรรม ทำดี กันเถอะคะ

    ******หมายเหตุ******อาจเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ

    แต่ ทำดีไปเถอะคะ ถึงคนอื่นมองไม่เห็นแต่จิตใจของตัวเราเอง มองเห็น การทำความดี ก็ไม่ได้ สาหัส อะไร

    เพื่อนๆๆ เห็นด้วยไหมคะ ????????


    สิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้นกะ เพื่อนๆๆ เปล่า ลองอ่านดูนะ



    การลดกรรม 45อย่าง

    1. กรรมที่ไม่มีลูก
    กรรมจากการทำร้ายลูกของสัตว์อื่น พรากสัตว์อื่นจากพ่อแม่หรือเคยข่มเหงลูกคนอื่น
    ลดกรรมด้วยการงดกินเนื้อสัตว์ทุกๆ 7 วัน ในทุกๆเดือนทำบุญปล่อยปลาลงน้ำปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญบริจาคทานที่มูลนิธิสัตว์หรือ
    มูลนิธิเด็กอ่อน

    2. เจ็บป่วยบ่อย หรือเป็นโรคร้าย
    กรรมจากเคยทำทารุณกรรมต่อสัตว์
    ลดกรรมด้วยการทำบุญทำทานกับสัตว์อนาถา ให้อาหารให้ความเมตตาซื้อยาหรือบริจาคเงินที่โรงพยาบาลสงฆ์ทำบุญปล่อยเต่า
    งดกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต

    3. ตาบอดหรือเป็นโรคตา
    กรรมจากเคยทำร้ายสัตว์ที่ดวงตา หรือไม่เคยทำบุญเติมน้ำมันตะเกียงในชาติก่อนหรือเคยทำลายไฟฟ้าของวัด ของที่สารธารณะ
    ลดกรรมซื้อโคมไฟ หลอดไฟถวายวัด ถวายเทียนห่อใหญ่ถวายไฟฉาย เติมน้ำมันตะเกียงทุกวันพร!ะ บริจาคเงินในกล่อง
    ซื้อน้ำมันเติมตะเกียงที่วัด

    4. ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกลูกหลงถูกสัตว์กัดต่อย
    กรรมจากจากเคยเป็นคนพาลเกะกะเกเร หาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้อื่นมักรังแกและสาปแช่งผู้อื่นอยู่เสมอ
    ลดกรรมหมั่นพูดดี มีวาจาไพเราะ

    5. สูญเสียคนใกล้ชิด
    กรรมจากเคยยิงนกตกปลา
    ลดกรรมทำบุญไถ่ชีวิตโค กระบือ งดกินเนื้อสัตว์อย่างน้อยสัก 1 อย่างชั่วชีวิต หรือกินเจทุกๆ 3 เดือนทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

    6.ถูกนินทา ถูกให้ร้าย
    กรรมจากเคยพูดจาให้เป็นเหตุให้คนอื่นเป็นทุกข์หรือเดือดร้อน
    ลดกรรมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี พูดดี พูดให้คนอื่นเกิดประโยชน์พูดให้ผู้อื่นมีความสุข

    7. มักเดือดร้อนเพราะไฟไฟไหม้บ้าน ไฟดูด
    กรรมจากเคยลบหลู่พระสงฆ์ และศาสนา
    ลดกรรมตักบาตรทุกวันพระ ทำบุญถวายสังฆทานทุกเดือนฟังเทศน์ฟังธรรมทุกวันพระ หรือทุกๆเดือนในวันพระร่วมพิมพ์หนังสือ
    ธรรมะแจกจ่ายฟรี

    8. ขาดบารมี ไร้ญาติขาดมิตร
    กรรมจากไม่เคยไปร่วมงานบุญงานศพ
    ลดกรรมร่วมทำบุญงานศพ บริจาคเงิน หรือร่วมด้วยแรงกายช่วยงานอื่นๆในงานศพเช่นทำอาหาร จัดดอกไม้

    9. ตั้งหลักปักฐานไม่ได้โยกย้ายบ่อย
    กรรมจากไม่เคยร่วมทำบุญสร้างโบสถ์สร้างวิหารแก่วัดวาอารามต่างๆ
    ลดกรรมร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างหลังคาวิหารร่วมทำบุญฝังลูกนิมิต หมั่นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองณ เมืองที่ตนอยู่อาศัย

    10. มักถูกรังแก ถูกเบียดเบียน
    กรรมจากไม่เคยบวช หรือทำบุญงานบวช
    ลดกรรมบวช ด้วยจิตศรัทธาปวารถาอย่างบริสุทธิ์ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงจะบวช 7 วัน หรือ 15 วัน 1 เดือน 1 พรรษาแล้วแต่
    จิตศรัทธา ถ้าเป็นสตรีจะบวชชีพราหมณ์หรือถือศีล 8 ตามเวลาที่สะดวกและตั้งจิตศรัทธาหรือร่วมทำบุญงานบวชอย่าง
    สม่ำเสมอเท่าที่จะทำได้

    11.ไม่มีคนชื่นชมเอ็นดูชาดเสน่ห์
    กรรมจากไม่เคยถวายของหอม
    ลดกรรมหมั่นทำบุญไหว้พระทุกวันพระ ถวายธูปหอมเทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย ทองคำเปลว ประน้ำอบน้ำปรุงประพฤติดี
    ปฏิบัติชอบต่อผู้อื่นคิดดี ทำดี พูดดี ให้ผู้อื่นได้ดี มิให้ร้ายผู้ใด

    12. เป็นที่รังเกียจมีกลิ่นปาก กลิ่นตัว
    กรรมจากทำติเตียนดูแคลน ผู้ที่ชอบทำบุญทำทาน
    ลดกรรมหมั่นทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมอ ฟังเทศน์มหาชาติทุกๆปีชักชวนผู้อื่นให้ร่วมทำบุญหรือบริจาคทานเป็นการบอกบุญผู้อื่น
    พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจกฟรี

    13. ไปไหนมาไหนลำบากมีแต่อุปสรรค
    กรรมจากเคยทำลายหนทางสัญจรของวัด หรือของชาวบ้านหรือทำให้ทางสัญจรสาธารณะได้รับความไม่สะดวก
    ลดกรรมบริจาคทรัพย์หรือแรงกายช่วงสร้างสะพานสร้างทางอันเป็นประโยชน์แก่วัด หรือชุมชนเล็กๆช่วยผู้คนยากไร้ให้
    ได้มียวดยานพาหนะหรือทางสัญจรที่สะดวก

    14. เป็นคนรับใช้เขาร่ำไป
    กรรมจากเคยเนรคุณผู้ที่เคยมีพระคุณแก่ตน
    ลดกรรมตอบแทนผู้มีคุณด้วยความกตัญญู ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูปพระประธาน ทำทานทั้งกับคนและสัตว์

    15. ขัดสน อดมื้อกินมื้อ
    กรรมจากเคยละเว้นการใส่บาตร ละเว้นการให้ทาน เมื่อมีคนยากไร้มาขอทานอาหารและน้ำ
    ลดกรรมแบ่งปันอาหาร น้ำ เสื้อผ้า แก่คนยากไร้อนา!ถา แม้ไม่มีเงินก็แบ่งปันสิ่งของตามที่มีตักบาตรทุกเช้าหรือทุกวันพระ

    16. อาภัพคู่ ร้างคู่
    กรรมจากเคยผิดลูกผิดเมียเขา
    ลดกรรมบวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานคู่บ่าวสาวที่ยากจนถวายของเป็นคู่ เช่น แจกันคู่
    เชิงเทียนคู่ หมอนคู่เป็นต้น

    17. ได้คู่ที่เลวร้ายทำร้ายตนหรือทำให้เป็นทุกข์
    กรรมจากเคยข่มขืนเขาในชาติก่อน เคยทุบตีทำร้ายคู่
    ลดกรรมบวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

    18. อยู่โดดเดี่ยวยามบั้นปลาย
    กรรมจากเคยจับสัตว์ขัง
    ลดกรรมทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญทำทานแก่เด็กอนาถาและสัตว์อนาถา

    19. รูปร่างหน้าไม่งดงาม
    กรรมจากไม่เคยถวายดอกไม้ของหอม
    ลดกรรมถวายพวงมาลัยดอกไม้สด ดอกไม้หอม ทำบุญบริจาคดวงตาบริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล

    20. มักถูกโกง ถูกเบี้ยวเงิน
    กรรมจากเคยคดโกงผู้อื่น!
    ลดกรรมสละทรัพย์บริจาคร่วมการกุศลต่างๆ ทำบุญตักบาตรถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรทุกๆเดือน

    21. พิการ ร่างกายไม่สมประกอบ
    กรรมจากเคยทุบตีพ่อแม่ ด่าพ่อแม่ หรือทำร้ายพ่อแม่
    ลดกรรมหมั่นทำบุญไหว้พระ ปล่อยนกปล่อยปลา ถือศีล5 ศีล 8 เจริญภาวนา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน

    22. มีคดีความ
    กรรมจากเคยพบคนทุกข์ร้อนแล้วไม่ช่วยหรือพยายามหาทางช่วยเหลือ
    ลดกรรมหมั่นทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา นั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนากรรมฐานถือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือนๆละ 7 วัน

    23. ไร้ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
    กรรมจากไม่สงเคราะห์คนอนาถา ที่มาขออาหาร ขอชายคาหลบฝนไม่มีน้ำใจช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก
    ลดกรรมร่วมทำบุญซื้อกระเบี้องหลังคาโบสถ์ หมั่นไปกราบไหว้บู!ชาศาลหลักเมือง ทำบุญทำทานแก่สัตว์พิการหรือสัตว์จรจัด

    24. จิตใจขุ่นมัว ดุดันขี้โมโห
    กรรมจากมักตะหนี่ในการทำบุญ
    ลดกรรมสวดมนต ์ไหว้พระ ทุกวันพระ ฝึกวิปัสสนากรรมฐานถือศีล 5 หรือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือน บริจาคทานแบ่งปันเงินทองหรือสิ่งของแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากหรือร่วมทำบุญบริจาคทานกับมูลนิธิสถานสงเคราะห์และวัดวาอารามต่างๆ

    25. ไม่มีชื่อเสียง
    กรรมจากเคยติฉินนินทาทำให้ผู้อื่นเสียหาย
    ลดกรรมร่วมทำบุญสร้างหอระฆัง ร่วมทำบุญหล่อเทียนพรรษาทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา

    26. ไม่มีวาสนาบารมี
    กรรมจากไม่เคยนับถือชื่นชมผู้นับถือธรรมมะ
    ลดกรรมทำบุญสร้างพระพุทธรูป ทำทานกับคน

    27. มีลูกหลานไม่ดีเกเร ไม่เชื่อฟัง
    กรรมจากทำแท้ง เคยทำร้ายคนใกล้ชิดมาก่อน และทำร้ายจิตใจครอบครัวในชาติก่อน
    ลดกรรมบวชเณร โดยให้ลูกบวชหรือไปร่วมบวช จะทำให้กรรมน้อยลงปฏิบัติธรรม อุทิศให้ลูกตนเอง

    28. เจอแต่คนเอาเปรียบ
    กรรมจากเคยเบียดเบียนเงินพ่อแม่ไว้ในอดีตชาติเคยโกงคนไว้ในอดีตชาติ ขโมยเงินครอบครัวมาใช้
    ลดกรรมหมั่นยึดถือศีล 5 ให้มั่น ไม่ดื่มเหล้าทำให้ขาดสติ โดนโกงง่าย หมั่นสวดมนต์ อธิษฐานบารมีด้านขอพรให้พบเจอคนดีเข้ามาในชีวิต

    29. เกิดในสกุลต้อยต่ำ
    กรรมจากโอหัง อวดดี จิตใจคับแคบ
    ลดกรรมร่วมทำบุญสร้างวัด สร้างพระประธาน ทำบุญทำทานกับคนยากไร้และสัตว์อนาถา พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

    30. ไร้สง่าราศี ขาดวาสนา
    กรรมจากเคยเมาสุระอาละวาด ระรานผู้อื่น!
    ลดกรรมนั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ทำทานกับคนอนาถาและสัตว์อนาถา ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

    31. ไม่เจริญก้าวหน้าจิตใจเป็นทุกข์
    กรรมจากเคยชักจูงคนทำชั่ว
    ลดกรรมถือศีล 8 เป็นเวลา 7 วัน ทุกๆ 3 เดือน หมั่นทำบุญตักบาตรถวายสังฆทาน

    32. จิตใจฟุ้งซ่าน เป็นทุกข์
    กรรมจากเคยริษยาผู้อื่น
    ลดกรรมทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ปล่อยปลาลงน้ำนั่งสมาธิ สวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร

    33. ชีวิตตกต่ำ ทำสิ่งใดไม่เจริญ
    กรรมจากเคยทำแท้ง
    ลดกรรมปล่อยปลาลงน้ำทุกๆเดือน จนครบ 9 เดือน หรือ 1 ปีเต็ม ถวายสังฆทาน ทำบุญใส่บาตรเสมอ

    34. เป็นเมียน้อย เมียเก็บ
    กรรมจากเคยผิดลูกผิดเมียเขามาก่อน ขืนใจเขาโดยไม่ยินยอมเคยอธิษฐานจิตร่วมกันมาว่ากี่ภพก็ขอให้ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
    ลดกรรมถวายธงคู่ ธูปคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่อย่างใดก็ได้ อธิษฐานจิตขอให้ชีวิตคู่ที่ดีขึ้นบวชชีพราหมณ์ ปีละ 1 ครั้ง 3 วัน อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยล่วงเกินให้ได้รับกุศลและเปิดทางให้ชีวิตคู่ดีขึ้นร่วมเป็นเจ้าภาพงานแต่ง เพื่อชีวิตตนจะดีขึ้นและสมหวัง สวดมนต์ขอพรทุกวันเกิดด้านความรักให้สมหวังต่อไปทำบุญสังฆทานสด ในวันเกิดตนเอง เดือนละครั้งเพื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติและวิญญาณที่ตามมาให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรม

    35. เป็นทุกข์เพราะคนในครอบครัว
    กรรมจากเคยลำเอียง ไร้คุณธรรมในด้านครอบครัวไว้ก่อนเคยเอารัดเอาเปรียบคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดไว้ในชาติอดีตและชาติปัจจุบัน เคยทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกในอดีตชาติ
    ลดกรรมต้องบวชชีพราหมณ์ เพราะเมื่อเกิดอีกภพชีวิตจะได้ดีมีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะกุศลของการบวช ปฏิบัติธรรมทำให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม และตนเองได้พบสิ่งที่มีกุศลมากขึ้นยึดพรหมวิหาร 4 มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาจะทำให้ชีวิตมีความเมตตาและไม่ลำเอียงเอารัดเอาเปรียบคนใกล้ชิดทำให้วิถีชีวิตมีคนนับถือและพ้นจากความทุกข์ในเรื่องญาติพี่น้องยุ่งเกี่ยวได้นำพระคู่บ้านคู่เมืองเข้าสักการะที่บ้านและสวดมนต์ขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข

    36. เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต
    กรรมจากฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ ทำร้ายคนไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ
    ลดกรรมตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติรวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ได้กุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ปล่อยสัตว์ลงน้ำในวันเกิดตนเองกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรได้รับและอโหสิกรรมถวายยาเข้าวัด
    หรือช่วยเหลือคนป่วย

    37. เป็นมะเร็ง
    กรรมจากรู้เห็นเป็นใจกับการทำแท้ง การทารุณสัตว์หรือการทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่น
    ลดกรรมทำบุญใหญ่อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และบวชชีพราหมณ์ 1 เดือน เพื่อส่งกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม
    ทำบุญสร้างพระพุทธรูปสร้างโบสถ์หรือสร้างศาลาวัด ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรีหมั่นนั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน

    38. ค้าขายขาดทุน ทำงานไม่ก้าวหน้า
    กรรมจากเคยลบหลู่เจ้าที่เจ้าทาง
    ลดกรรมหมั่นทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทาน ถวายเครื่องเซ่นสังเวยเจ้าที่-เจ้าทาง หมั่นสวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร

    39. ด้อยปัญญา
    กรรมจากฝักใฝ่อบายมุขในชาติก่อน หรือชักชวนคนไปทำชั่วดูแคลนหลักธรรมมะ
    ลดกรรมพิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจก ทำบุญทำทานกับโรงเรียนของเด็กพิการหรือตามมูลนิธิต่างๆ

    40. ตกงาน
    กรรมจากเคยกลั่นแกล้งผู้อื่นในเรื่องงาน หรือแย่งงานผู้อื่น
    ลดกรรมหมั่นทำบุญทำทาน ร่วมงานบุญต่างๆ ปล่อยนกปล่อยปลา

    41. ไม่มีโชคลาภ
    กรรมจากไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระ
    ลดกรรมหมั่นทำบุญสวดมนต์ไหว้พระ ถวายธูป เทียนดอกไม้สด พวงมาลัย และทองคำเปลว

    42. เรียนไม่จบ การเรียนมีอุปสรรค
    กรรมจากชาติก่อนปฏิเสธการฟังเทศน์ฟังธรรม
    ลดกรรมหมั่นเข้าวัด ร่วมงานบุญต่างๆ ฟังเทศน์อ่านหนังสือธรรมะ

    43. มีอาชีพต้อยต่ำที่ผู้คนดูแคลน
    กรรมจากชาติก่อนเคยบวชด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ไร้ความศรัทธา อาศัยผ้าเหลืองหากิน
    ลดกรรมถือศีล 5 ศีล 8 นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ถวายสังฆทานทุกเดือนหรือทุก 3 เดือน

    44. ครอบครัวยากจน
    กรรมจากชาติก่อนไม่เคยบริจาคทาน
    ลดกรรมหมั่นทำบุญด้วยการบริจาคทาน ถ้ามีเงินไม่มากก็บริจาคเป็นสิ่งของแรงกาย หรือน้ำใจ ต่อผู้ตกทุกข์ได้ยากเช่น ไปช่วยอ่านหนังสือให้มูลนิธิคนตาบอด

    45. เป็นทุกข์เพราะความรัก
    กรรมจากชาติก่อนเจ้าชู้ หลอกผู้อื่นให้อกหัก
    ลดกรรมประพฤติดีปฏิบัติดีทั้งความคิด กาย วาจาใจ ร่วมทำบุญงานแต่งงาน ทำสิ่งดีๆให้คนอื่นได้สมรักสม








    อ่านให้จบเพราะ จุดเด่นอยู่ที่ข้อ 19 ค่ะ
    กฏแห่งกรรม
    1.
    เหตุใดคุณมีเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามสวมใส่มากมาย
    เพราะชาติก่อนคุณเคยถวายจีวรแด่พระสงฆ์

    2.
    เหตุใดชาตินี้คุณมีอาหารดีดีรับประทานอยู่เสมอ
    เพราะชาติก่อนคุณเคยทำทานอาหารแก่คนยากจนในชาติก่อน

    3.
    เหตุใดชาตินี้คุณอดอยากยากจน ไม่มีเสื้อผ้าดีดีสวมใส่
    เพราะคุณตระหนี่ขี้เหนียวไม่ยอมทำทานคนจนในชาติก่อน

    4.
    เหตุใดชาตินี้คุณมีบ้านเรือนให­ญ่โต
    เพราะคุณเคยถวายข้าวสารเข้าวัดในชาติก่อน

    5.
    เหตุใดชาตินี้คุณมีความเจริ­รุ่งเรืองและมีความสุขมาก
    เพราะคุณเคยถวายเงินสร้างวัดในชาติก่อน

    6.
    เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนสวย และรูปงาม
    เพราะคุณเคยถวายดอกไม้สดบูชาพระด้วยความเคารพในชาติก่อน

    7.
    เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องมีปัญญาดี
    เพราะคุณเคยเป็นพุทธมามกะและทานมังสวิรัติในชาติก่อน

    8.
    เหตุใดชาตินี้คุณเป็นที่รักของทุกๆ คนและมีเพื่อนมากมาย
    เพราะคุณเคยสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคนในชาติก่อน

    9.
    เหตุใดชาตินี้คุณมีพ่อ แม่อยู่พร้อมหน้า
    เพราะคุณเคารพและให้ความช่วยเหลือไม่ดูแคลนคนไร้­ญาติในชาติก่อน

    10.
    เหตุใดชาตินี้คุณเป็นเด็กกำพร้า
    เพราะคุณเคยยิงนกตกปลา และพรากสัตว์ในชาติก่อน

    11.
    เหตุใดชาตินี้คุณมีอายุยืนแข็งแรง
    เพราะคุณเคยปล่อยนกปล่อยปลา สิ่งมีชีวิตในชาติก่อน

    12.
    เหตุใดชาตินี้คุณอายุสั้น
    เพราะชาติก่อนคุณเคยฆ่าสัตว์มากมาย

    13.
    เหตุใดชาตินี้คุณเป็นคนรับใช้
    เพราะชาติก่อนคุณเคยดูถูกเหยียดหยามคนจน

    14.
    เหตุใดชาตินี้คุณมีด??งตาสดใส
    เพราะชาติก่อนคุณเคยเติมน้ำมันตะเกียงและจุดไฟบูชาพระ

    15.
    เหตุใดชาตินี้คุณโง่ปั­­ญญาอ่อนและหูหนวก
    เพราะชาติก่อนคุณเคยด่าว่าและหยาบคายต่อหน้าพ่อแม่

    16.
    เหตุใดชาตินี้คุณต้องตายเพราะยาพิษ
    เพราะชาติก่อนคุณเจตนาวางยาในต้นน้ำลำธารให้เป็นพิษ

    17.
    เหตุใดชาตินี้คุณจึงแขวนคอตาย
    เพราะชาติก่อนคุณใช้ตะข่ายล่าและดักสัตว์

    18.
    ถ้าชาตินี้คุณฆ่าเขา
    ชาติหน้าเขาก็จะฆ่าคุณและจะฆ่ากันไป-มาไม่มีสิ้นสุด

    19.
    ถ้าชาตินี้คุณบอกเล่ากฏแห่งกรรม
    คุณจะเป็นที่เคารพนับถือมากมายในชาติหน้า

    รักคัก...แม่แค้

    @!@**"...HiSo ดิบๆๆ...."**@!@

    อยากจะเป็น ดาราแห่งท้องทุ่ง
    [SIGPIC][/SIGPIC]

  2. #2
    bluecream4's Avatar
    bluecream4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    244
    ขอบคุณมากค่ะ

  3. #3
    rita-1's Avatar
    rita-1 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3

    Wink

    --- กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตอบสนอง --- ได้ความรู้เรื่องกรรมเยอะขึ้นมากเลยค่ะ

  4. #4
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    กรรมเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน
    พระพุทธเจ้าบอกว่า
    อย่าสงสัยในกรรม
    กรรมเป็นอจินไตย
    ทำกรรมดีไว้ ไม่เสียหลาย
    ถึงไม่มีใครเห็น
    แต่ก็ได้ถูกบันทึกไว้แล้ว
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  5. #5
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    "อจินไตย แปลว่าสิ่งที่ไม่พึงคิด คือไม่อาจรู้ได้ด้วยการคิด แลถ้าขืนคิดให้รู้ให้ได้ก็จะกลายเป็นผู้มีส่วนแห่งความเครียดเป็นบ้าเสียสติไป

    อจินไตยมี 4 อย่างคือ

    ๑. พุทธวิสัย คือความรู้ความสามารถของพระพุทธเจ้านั้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถที่จะหยั่งถึง เข้าใจได้ว่าทำไมพระพุทธเจ้าจึงทรงรู้ ทรงเห็น ทรงมีความสามารถมากมายก่ายกอง ผิดจากมนุษย์คนธรรมดาสามัญ

    ๒. ฌานวิสัย คือเรื่องของฌานสมาบัติ เช่นทำไมคนเราบางคนถึงเข้าฌานนั่งอยู่เฉยๆ ได้เป็นวันๆ โดยที่ไม่ต้องกินข้าวไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน สิ่งนี้เป็นเรื่องของผู้ปฏิบัติเท่านั้นจะรู้ จะเข้าใจได้ ถ้าคนที่ไม่เคยประพฤติปฏิบัติมานั่งคิด นอนคิดยังไงก็ไม่สามารถเข้าใจได้ อย่างพวกเรานี้ เพียงแต่นั่งเฉยๆ แค่ ๑๕ นาที หรือครึ่งชั่วโมงก็จะนั่งกันไม่ได้อยู่แล้ว แล้วทำไมคนบางคนจึงนั่งหลับตานิ่งเฉยอยู่เป็นวันๆได้ นี้คือการเข้าฌานสมาบัติ ซึ่งไม่ใช่เป็นสิ่งที่ปุถุชนคนธรรมดาสามัญจะเข้าใจได้

    ๓. กรรมวิสัย เรื่องของกรรมนี้เป็นเรื่องที่เหนือวิสัยของมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาจะเข้าใจได้ว่า เมื่อทำกรรมอันหนึ่งอันใดไว้แล้ว ผลที่จะตามมานั้นจะเป็นอย่างไร หรือการที่มนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลายที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์หรือเป็นสัตว์ในโลกนี้นั้น
    ได้กระทำอะไรมาในอดีต เรื่องนี้เราไม่สามารถที่จะรู้เห็นได้ เพราะเป็นเรื่องข้ามภพข้ามชาติ พวกเราเห็นได้แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในชาตินี้เท่านั้นเอง แต่เราไม่รู้ว่าชาติก่อนมีจริงหรือเปล่า ชาติหน้ามีจริงหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถจะรู้ได้จากความนึกคิดของเราเอง แต่เป็นสิ่งที่จะรู้ได้จากการประพฤติปฏิบัติธรรมเท่านั้น คือต้องนั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนาเท่านั้น จึงจะเข้าสู่ความจริงอันนี้ได้

    ๔. โลกวิสัย คือเรื่องของความเป็นมาของโลกนี้ ว่าโลกนี้เป็นมาอย่างไร เกิดขึ้นมาได้อย่างไร มีใครเป็นคนสร้างมาหรือเปล่า หรือไม่มีคนสร้าง เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่เหนือวิสัยของมนุษย์ที่จะสามารถรู้เห็นได้ เลยกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันไปต่างๆนานา บางคนก็ว่ามีพระเจ้าสร้างโลกขึ้นมา บางคนก็บอกว่าไม่มีพระเจ้า ไม่มีใครสร้างโลก เป็นเรื่องของเหตุ เป็นเรื่องของปัจจัย เป็นเรื่องของธาตุทั้ง ๖ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ และวิญญาณธาตุ เมื่อเกิดปฏิกิริยาขึ้นมาก็ทำให้เกิดเป็นโลก เป็นดาว เป็นเดือน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล อย่างนี้เป็นต้น เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมา"
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  6. #6
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    "….อจิณไตย แปลว่าไม่มีประโยชน์ คือรู้ไปก้อไม่มีประโยชน์ รู้ไปก็เท่านั้น เสียสมองเปล่า ๆ ใช้อะไรไม่ได้…

    ….ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยถูกคนอื่นถามด้วยเรื่องอจิณไตย เช่น….

    ….จักรวาลกว้างเท่าไร? มีขอบเขตแค่ไหน?….

    ….นรก สวรรค์มีจริงหรือไม่? ถ้ามีตั้งอยู่ที่ไหน?…

    ….ถ้าสำเร็จพระอรหันต์แล้วจะอยู่ยังไงหลังความตาย?….

    ….คนเราตายแล้วจะไปไหน?….

    ….พระพุทธองค์ทรงตอบได้ทุกเรื่อง และทรงเมตตาสั่งสอนต่อไปว่า….

    ….”ตถาคตทราบดีทุกเรื่องที่ท่านถาม รู้ลึกซึ้งกว่าที่ท่านอยากจะรู้”….

    ….”แต่ว่าท่านอยากจะรู้ไปทำไม ในเมื่อท่านรู้แล้วก็ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์มรรคผลใด ๆ”…

    ….“เพราะมันมิใช่วิถีทางแห่งการดับอาสวะกิเลส เพื่อทำให้สิ้นทุกข์”…

    ….”ทุกเรื่องล้วนเป็นอจิณไตย คือท่านรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์”…

    ….”หากท่านอยากรู้ จงเร่งปฏิบัติให้สิ้นอาสวะกิเลสในตนเถิด แล้วท่านจะสามารถรู้ได้เอง”….

    ….หลักการอบรมสั่งสอนของพระพุทธศาสนานั้น คือสอนให้รู้ รู้ลึก รู้รอบ และรู้จริง….

    ….สอนให้รู้ด้วยการพิจารณาด้วยเหตุ ด้วยผล ด้วยข้อพิสูจน์…

    ….ไม่ใช่ให้รู้จากตำรา คัมภีร์ วิธีปฏิบัติ (ทฤษฎี) หรือแค่คำพูด…

    ….แต่สอนถึงหลักวิธีปฏิบัติจริง ที่สามารถพิสูจน์เหตุผลได้ทางวิทยาศาสตร์…

    ….ผู้ที่กล่าวถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เป็นพุทธมามะกะตัวจริง จึงปฏิบัติตนในทุกสภาวะโดยธรรม…

    ….ปฏิบัติในทุกอิริยาบทในการดำรงชีพ ไม่ใช่แค่นุ่งขาวห่มขาวนั่งหลับตาฟังอาจารย์สอนจนหลับใน แล้วเข้าใจว่าบรรลุธรรม…

    ….”ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าเห็นเรา”…

    ….”ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าเห็นธรรม”…

    ….“หากประสงค์จะบูชาเรา จงบูชาด้วยปฏิบัติบูชาเถิด”…

    ….“อย่าพึงปฏิบัติด้วยอามิสบูชาเลย”….

    คัดลอกจาก
    http://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=44897&pid=616097&mode=threaded&show=&st=&"
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •