ขอบคุณครับ พี่ webmaster ที่สนใจกระทู้ นี้ครับ..
วิปัสสนากรรมฐานเป็นวิชาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบ และเป็นศาสตร์เดียวที่สามารถทำให้ผู้ปฏิบัติตามอย่างถูกต้องหลุดพ้นไปจากอำนาจการครอบงำของอาสวะกิเลส ตั้งแต่เบาบางจนกระทั่งหมดจด ปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง
วิปัสสนา มาจากคำว่า "วิ + ปัสสนา"
วิ แปลว่า แจ้ง, จริง, วิเศษ
ปัสสนา แปลว่า เห็น (ปัญญา)
เมื่อกล่าวโดยความหมาย คือ
๑. ปัญญาเห็นแจ้ง เห็นชัด รูป-นาม, อริยสัจจ์
๒. ปัญญาเห็นโดยอาการต่างๆ มีเห็นไตรลักษณ์, ปฏิจจสมุปบาท
๓. ปัญญาเห็นแปลกประหลาด (อัศจรรย์ในสิ่งที่ได้เห็นในขณะปฏิบัติ)
กรรมฐาน มาจากคำว่า "กรรม + ฐาน"
๑. กรรม หมายถึง การกระทำ ในที่นี้มุ่งหมายเอาการบำเพ็ญเพียรทางจิตใจ เพื่อฝึกฝน อบรม ขัดเกลา กำจัดกิเลส อันเป็นสาเหตุหลักของความทุกข์ทั้งหลาย
๒. ฐาน หมายถึง ที่ตั้ง ในที่นี่มุ่งหมายเอาอารมณ์ของวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งได้แก่ ขันธ์ ๕, อายตนะ ๑๒, ธาตุ ๑๘, อินทรีย์ ๒๒, ปฏิจจสมุปบาท ๑๒, และอริยสัจ ๔ เพื่อเป็นฐานหรือที่ตั้งในการเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ (กายานุปัสสนา, เวทนานุปัสสนา, จิตตานุปัสสนา, ธรรมานุปัสสนา)
เมื่อตอนอายุ 37-38 ผมเคยนั่งถึงขั้น กายทิพย์ออกจากกายมนุษย์ ซึ่งตอนนั้นผมตกใจมาก เลยทําให้หลุดจากสมาธิ พอต่อๆมาผมทําอีกไม่ได้เลย ได้แค่จิตหยุดนิ่ง ผมก็ไปปรึกษาหลวงพ่อท่านเจ้าคุณวัดราชบพิธ เล่าให้ท่านฟัง.....ท่านบอกว่าไปก็ไปได้...แต่มันติดอยู่ที่กิเลส รัก ชอบ โกรธ หลง....ดังนั้นจะต้องตัดกิเลสโดยการบวช..
และมันก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะผมเพิ่งมีลูกอ่อนๆ....
แต่ ณ.ตอนนี้ลูกๆผมโตหมดแล้ว.....พี่ webmaster เชื่อเปล่า....ผมยังขอแม่บ้านไปบวช เมื่อ ปี่ที่แล้วนี่เอง อิอิ.....(ตอนนี้ผม 56 ) ขอบอกตรงๆว่าไปได้ดีมาก....เพราะตอนบวช ผมฉันท์มื้อเดียว ทําวัตรสวดมนต์ 8โมงเช้า-8.30 หลัง 8.30 ผมนั่งวิปัสสะนากรรมฐาน จนถึง 5 โมงเย็น 5โมงเย็นทําวัตรเย็นต่อถึง 5.45 หลังจาก 6 โมงเย็นผมเดินจงกลมถึง 2 ทุ่ม......จาก2ทุ่ม ผมเข้าไปนั่งปฎิบัติที่กรรมฐานโกดังเก็บศพจนถึง 5 ทุ่ม.....ผมทําแบบนี้ทุกวันคนเดียว.(จนพระในวัดบอกว่า ผมคงจะบ้า) แค่โกดังเก็บศพ พระ เณร ยังไม่อยากเข้าไปใกล้เลย..ผมบวชได้ ประมาณ 20 วันครับ....ไปได้ดีมากๆเลย.....พอสึกหลวงพ่อท่านยังไม่อยากให้สึกเลย...แต่ภาระหน้าที่ผมยังมีครับ....แต่ก็ยังไม่ละทิ้งความพยายาม ผมถามท่าน ถ้าผมอายุ 70 ยังบวชได้หรือเปล่า....ท่านหัวเราะ...แก่แล้ว มาเป็นภาระกับวัดเปล่าๆ........ตอนนี้ก็เลยปฏิบัติอยู่ที่บ้าน 5ทุ่ม-เที่ยงคืน.....และเช้ามืด 6 โมงเช้า่ถึง 8 โมง เสร็จ อาบน้ำ ทํางานต่อ.
ถ้าพี่ webmaster ได้ปฎิบัติต่อเนื่อง จะดีมากๆครับ...ทั้งร่างกาย จิตใจ ความสงบ และที่สําคัญที่สุด....เราจะมีลางสังหรณ์ในตัวเราเอง....พูดไปเหมือนโกหก ต้องลองปฏิบัติดูครับ.