ทุกข์ที่เดินทางผ่านไป
เคยทุกข์มากไหม ทุกข์มากจนเราไม่อยากจดจำ ไม่อยากคิดถึง
แต่ใจก็ยังวิ่งหาความรู้สึกที่เราเคยทุกข์นั้น
เราเคยทุกข์มาก เราเคยเจ็บปวดมาก
ทั้งๆ ที่ความทุกข์นั้น เดินทางผ่านไปแล้ว นานแสนนาน
แต่เรายังจดจำ ชัดเจนในใจ ไม่เสื่อมคลาย
หากเราเคยทุกข์มาก และในวันนี้เรายังจดจำได้อยู่เสมอ ยังชัดเจนอยู่ในใจ
ลองดูสิ อะไรละเป็นเหตุให้เราทุกข์ได้อย่างนั้น
ลองดูสิ ถ้าพบแล้ว เราจะได้แก้ไขที่เหตุนั้น
บุคคลผู้ที่กระทำต่อเราเป็นเหตุให้เรายังทุกข์อยู่อย่างนั้นใช่หรือไม่
ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกัน ลองดูนะ เราจะจัดการแก้ไขที่ตัวเขาได้อย่างไรบ้าง
สิ่งแวดล้อมหรือไม่ ที่เป็นเหตุให้เรายังทุกข์อยู่อย่างนั้น
เราจะจัดการอย่างไรดี กับสิ่งแวดล้อมที่ไม่เป็นใจเหล่านั้น
เราค้นพบสาเหตุแล้วหรือยัง ขอให้เราจงแก้ไขที่เหตุนั้น
เราแก้ไขบุคคลอื่น ให้เป็นดั่งใจเรา ให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้อย่างไรบ้าง
ลองหาวิธีดูสิ ทำได้อย่างไรบ้าง เขาเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างที่เราต้องการหรือไม่
ถ้าทำได้ เราก็จะมีความสุข
เราแก้ไขสิ่งแวดล้อม ให้เป็นไปตามที่เราต้องการ ได้มากน้อยแค่ไหน
เราค่อยๆ ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเรา
เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ทุกอย่างหรือไม่
ส่วนที่เราปรับได้ เราก็จะมีความสุข
แต่ที่เรายังปรับไม่ได้ เราก็ยังคงมีความทุกข์
เราจะแก้ไขที่เหตุนั้นทั้งหมด ไม่ได้เลยหรือ
ยากใช่ไหม พอจะทำได้ไหม กับการแก้ไขเหตุนอกตัวเรา เหตุที่ทำให้เราทุกข์
คงต้องลองกลับเข้ามามองภายในตัวเราดูสิ
ในขณะเราได้พบกับ สิ่งที่มากระทบให้เราทุกข์ ขณะเวลานั้นเรารู้สึกอย่างไร
ในขณะที่เรากำลังทุกข์ เรารู้สึกอย่างไร
แล้วในขณะที่ทุกข์ในใจเบาบางลง คลายลง เรารู้สึกอย่างไร
อะไรละ ที่เป็นผู้รับรู้ และบอกเราถึงความรู้สึกเหล่านั้น
ใจของเราเอง
ที่แท้ เหตุที่ทำให้เราทุกข์ เหตุที่เราต้องแก้ไข คือ ใจของเราเอง
สุขและทุกข์ที่ไม่คงอยู่
ในวันที่เรามีความสุข เราลืมอะไรบางอย่างไปหรือเปล่า
เรามักจะลืมไปว่าความสุขนั้นยังเดินทางต่อไป ไม่หยุดหย่อนไม่หยุดนิ่ง
เราจึงไม่สามารถฉุดหรือรั้งความสุขให้อยู่กับเราได้ตลอดไป
ความสุขที่เราอยากจะขอให้คงอยู่ตลอดไป จึงไม่มี
ความสุขแวะเวียนมาหา ทักทาย แล้วก็เดินทางจากไป
แล้วในวันที่เราทุกข์ล่ะ เราระลึกอะไรได้หรือเปล่า
ความทุกข์นั้นก็ยังเดินทางต่อไป ไม่หยุดหย่อนไม่หยุดนิ่งเช่นเดียวกัน
แต่เราไม่ได้พยายามฉุดหรือรั้งความทุกข์นั้นให้อยู่กับเรา
เราอยากให้ความทุกข์รีบเดินทางจากไป
ความทุกข์ที่แวะเวียนมาหา ทักทาย สุดท้ายก็ต้องเดินทางจากไป
เราไม่ควรลืมและควรระลึกอยู่เสมอว่า
ความสุขหรือความทุกข์นี้ ไม่ได้คงอยู่กับเราตลอดไป
คิดอยากจะมาหาเราก็มา คิดอยากจะไปจากเราก็ไป
เมื่อความสุขมาแล้วจากไป เราก็เกิดความทุกข์
เมื่อความทุกข์มาแล้วจากไป เราก็มีความสุข
แล้วเราจะขอบคุณอารมณ์นั้น ทั้งความสุขหรือความทุกข์
ความสุขจะช่วยให้เราไม่ประมาท
เพราะเรารู้ว่าเบื้องหน้าของความสุขเราอาจพบเจอกับความทุกข์ได้ทุกเมื่อ
ความทุกข์จะช่วยให้เราเข้มแข็ง กล้าหาญ กล้าต่อสู้ กล้าฟันฝ่า
เพราะเรารู้ว่าเบื้องหน้าที่ผ่านความทุกข์ไปได้นั้นคือความสุขที่เรารอคอย
ขอให้เราได้เข้าใจการเดินทางของความสุขและความทุกข์ในใจเรา
ในวันที่เรารู้สึกท้อแท้
ในวันที่เรารู้สึกท้อแท้ เหมือนๆ จะสิ้นหวัง
ในเวลานั้น เราต้องการอะไร
เราต้องการความช่วยเหลือ จากคนอื่นหรือ
คนอื่นจะช่วยเหลือเราได้อย่างไรบ้าง
เราต้องการคำพูดที่แสดงความเข้าใจ
คำพูดที่โอนอ่อนผ่อนตาม
เห็นด้วยไปกับความคิดหรือความต้องการของเรา
เรารู้สึกอ่อนแรง หมดเรี่ยวแรงหมดกำลังใจ
ไม่สามารถลุกขึ้น เผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีความสุข
เราท้อแท้เหลือเกิน
คำพูด คำแนะนำที่เป็นความจริงที่บอกให้เราปล่อยวาง
เราปฏิเสธ เราทำไม่ได้ ทำได้ยากเหลือเกิน
ในเมื่อท้อแท้มากขนาดนี้ เราจะปล่อยวางได้อย่างไร
เราโอดครวญ ทำไมไม่มีใครเข้าใจเรา
ทำไมไม่มีใครช่วยเราได้เลย
เราลืมไปว่า ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่เราต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุด
ช่วยตัวเองให้ออกจากความรู้สึกของความท้อแท้นั้น
เป็นความจริงที่ว่าเราต้องปล่อยวาง
ในเงื่อนไขที่ว่า ปล่อยวางให้เป็น ปล่อยวางด้วยสติ ปัญญา
อย่าลืมว่า ช่วงเวลาแห่งความท้อแท้ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้เรียนรู้
ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ใจ
เข้าใจความรู้สึกของใจ เรียนรู้ความรู้สึกท้อแท้นั้น
เพื่อไปสู่การปล่อยวาง เพื่อให้สติปัญญาได้เกิด ได้เข้ามาช่วยแก้ไข
เราจะไม่ปล่อยวางอย่างเลื่อนลอย
เราจะไม่ปล่อยวางอย่างขาดสติปัญญา
เราจะปล่อยวางอย่างเข้าใจ
แล้วเราจะแก้ปัญหาตรงหน้าได้
แก้ปัญหาโดยไม่ต้องฝืน ไม่ต้องบังคับสิ่งใดๆ
ไม่ต้องบังคับแม้แต่ตัวเราเอง
เราจะเข้าใจ เราจะพบว่า เราแก้ไขปัญหานั้นได้ง่ายเหลือเกิน
ด้วยวิธีง่ายๆ ที่เราเข้าใจตัวเรา และความรู้สึกของใจนี้
ความสุขแท้นั้น ที่แท้อยู่ที่ใจของเราเอง
ขอบคุณธรรมะดี ๆ จาก เด็กดี ดอทคอม...![]()