ควรใช้ธรรมะอะไรดีครับ ถ้าเพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน

ผมเองก็จัดว่าเป็นคนหน้าบาง ขี้เกรงใจ เวลาเพื่อนขอยืมเงินผมก็จะให้ไป
(ตอนนี้ก็จัดว่าเยอะพอสมควร ซึ่งพอจะเป็นเงินเดือนใครสักคนได้ 3-4 เดือน
เลยครับ) แต่ผมไม่กล้าทวง พอพูดเกริ่นไปเขาก็หาว่าผมไม่ไว้ใจ นี่ก็ล่วงเลย
มาปีกว่าแล้ว ผมก็มีความจำเป็นต้องใช้เงิน พยายามจะคิดว่าเป็นกรรมที่ทำร่วม
กันมา ตอนนี้ผมก็ห่างๆ เพื่อนคนนี้ ไม่พูดกันนานแล้ว เหมือนว่าจะเสียเพื่อนไป
เลยล่ะครับ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็คบกันดีอยู่
- ผมอยากทราบว่าผมทำกรรมอะไรร่วมกันมากับเพื่อนคนนี้ครับ
- แล้วผมควรใช้หลักธรรมะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
- ผมควรปลง แล้วลืมเรื่องนี้ไปเลยหรือเปล่าครับ หรือว่ามีหนทางอื่นที่พอ
จะทำได้บ้าง เพราะตอนนี้ก็ต้องการใช้เงินเรียนต่อเหมือนกัน ไม่อยากรบกวนทางบ้านครับ

-----------------------------------------------------------------------

เห็นใจครับผม อย่าคิดว่าเป็นกรรมเก่าสิครับ เพราะอาจจะเป็นกรรมใหม่
ที่เกิดจากความขี้เกรงใจก็ได้นะครับ คนที่ถือสัตย์นะครับ แค่คุณทวงคำเดียว
เขาจะรู้สึกผิดทันที จะรีบรับปากทะยอยคืนให้วันนั้นวันนี้แล้วจะคืนได้จริงๆ ส่วน
พวกที่ชอบอ้างว่า ทำไม ไม่ไว้ใจหรือ ฯลฯ พวกนี้ส่วนมากเป็นพวกเอาเปรียบ
คนนะ ยิ่งคนขี้เกรงใจอย่างคุณ เห็นมาเยอะ ครั้งหน้า ถ้ามาอีกและเป็นจำนวน
เงินเยอะๆขอแนะนำให้จับเซ็นสัญญาเงินเชนเซอร์้เลย ถ้าสัญญาเรายุติธรรมพอ
แล้วไม่กล้าเซ็นแปลว่าอะไร พวกลูกหนี้ตอนที่ชักดาบไม่เคยเห็นว่าเขาจะเห็นใจ
เจ้าหนี้เลย พวกนี้ไม่ค่อยเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษหรอก ถ้าเห็นว่ามีโอกาสโกง
ได้ ว่าเงินเล็กน้อยคุณคงไม่ฟ้องเขา ก็ยิ่งย่ามใจ ตอนนี้เมื่อยังไม่ได้เงินคืนก็
ลองทวงไปก่อน ถามไปเลยตรงๆว่าคิดจะคืนให้ได้เมื่อไหร่ ถ้าเขาพูดผัดไป
เรื่อยๆก็ทำใจเถอะครับ อย่าไปเก็บมาคิดแค้นแช่งชักหักกระดูกเขา บาปจะเข้า
ตัวเรา กลายเป็นโดนเบี้ยวแล้วใจเรายังเป็นอกุศลอีก โดนสองเด้ง ไม่สมควร
เลย เมื่อเห็นธาตุแท้เขาแล้วคราวหน้าก็ไม่ต้องช่วยแล้วกันนะครับ อีกหน่อยถ้า
พลาดให้ใครยืมเงินก้อนใหญ่ เขาทำท่าชักดาบ คุณมีสัญญาเงินเชนเซอร์้
ก็ฟ้องแพ่งเอานะครับ คนพวกนี้ถ้าเราไม่ช่วยกันจัดการก็เหมือนบ้านเมือง
ไม่มีขื่อไม่มีแป อย่าให้พวกขี้โกงได้อยู่สุขนะครับ

สรุปสั้นๆจัดการด้วยมาตรการทางโลก
แล้วถ้าไม่ได้คืนก็จัดการด้วยมาตรการทางธรรม (อุเบกขารู้)

____________________________________

เจอมาเยอะ ทุกข์กับความเสียดายเงิน
วกความแค้นใจที่เพื่อนทำเราได้
จนมาเจอเคล็ดลับของการบริหารเงิน
ใช้ได้ผล เลยอยากบอกต่อนะคะ

1. โชคดีที่เราไม่ขาดแคลน จึงมีเงินเหลือพอให้คนยืม
2. ต้องมีการบริหารจัดการเงินที่ดี
ตามคำสอนของพระพุทธองค์ แบ่งรายได้เป็นส่วนๆ ส่วนสุดท้ายคือฝังดิน
(เป็นเงินที่กันไว้ทำบุญ บริจาคทาน รวมทั้งแบ่งปันให้คนเดือดร้อน)
3. เมื่อมีคนมาขอความช่วยเหลือ ต้องเตือนตนว่า
3.1 เงินที่ให้ไปคราวนี้ ต้องถือว่าเป็นเงินตกน้ำ โอกาสได้คืนน้อยมาก
3.2 หากปฏิเสธจะสบายใจหรือทุกข์ใจที่ไม่ได้ช่วย ตามคำกล่าวอ้างของเขา
4. เมื่อมีความเห็นใจ คิดจะให้ก็ให้เท่าที่เราไม่เดือดร้อน
(เพราะทำใจแล้วว่าให้ลืม/ไม่ใช่ให้ยืม)
5. ไม่จำเป็นต้องให้ยืมทุกครั้ง
เพื่อนบางคนเทคนิคดี แรกๆจะรีบคืน หลังๆยืมมากขึ้นแล้วไม่คืน
หากเจออย่างนี้ก็ถือว่า ชาติก่อนเราติดหนี้เขา ก็ใช้กันไป แล้วอย่ามายืมอีก
6. เมื่อคิดจะปฏิเสธ ไม่ต้องกลัวเสียเพื่อน
เพราะเพื่อนที่ดีย่อมเข้าใจว่าเราก็มีความจำเป็น
พวกที่ขยันเบียดเบียนเพื่อนก็ไม่ควรเก็บไว้รบกวนจิตใจ

ส่วนกรณีของคุณ หลวมตัวให้ไปแล้ว
ก็เงินตกน้ำไปแล้ว คิดจะได้คืน คงจะยากหน่อย
กลับมาถามตนเองว่ากล้าทวงไหม (เราก็หน้าบางทวงใครไม่เป็นเหมือนกัน)
ถ้าไม่ทวงก็ทำใจ กลับมาเก็บหอมรอมริบใหม่
หากทวงก็ทำใจว่าคงได้คืนยาก
อย่างไรเราก็เสียเพื่อนคนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ที่เขายืมแบบลืมคืนนั่นแหละค่ะ

ขอให้โชคดี ใจแข็งกับการปฏิเสธคนในคราวต่อๆไป....

____________________________________

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก
http://www.watdao.com/board/index.php?topic=24.0