Quote Originally Posted by Angellique View Post
อุ้ย เราเป็นคนใจร้ายค่ะ ถูกก็ว่าถูก ผิดก็ว่าผิดค่ะ

ถ้าเป็นเราเราจะดูที่คนคนนั้นก่อนอะคะ แต่ยังงัยก็บอกเคาน์เตอร์แน่ๆค่ะ
เราว่ามันไม่แฟร์นะคะ ถ้าเราปล่อยเลยตามเลย
เพราะยังงัยก็มีคนที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้แน่ๆ นั่นก็คือ พนักงานขาย ลองคิดดูสิคะ ถ้าเรามัวแต่สงสาร แล้วคิดว่าการขโมยของโดยผู้ที่น่าสงสารนั้นไม่เป็นไร จะทำให้เป็นอย่างงไรได้บ้าง

- อย่างน้อย น้องพนักงานที่อยู่เวร คงโดนหักเงินแน่ๆ จากของที่หายไปซึ่งเค้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก็น่าจะรู้นะคะ ว่าพนักงานเค้าคงเงินไม่มากแล้วต้องมารับผิดชองจากการกระทำของคุณลุงนั่นอีก แบบนี้ถ้าคิดว่าแฟร์สำหรับคุณลุง แล้วคิดว่าแฟร์สำหรับคนอื่นด้วยไหมล่ะคะ

- อีกอันว่ากันถึงปัญหาระดับชาติ ถ้าคนธรรมดาอย่างเรายังสนับสนุนให้มีการทำความผิดขั้นเล็กน้อยกันอยู่ คนจนทำอะไรก็ไม่ผิด หรือคนรวยใช้เงินซื้อความถูกต้องได้ อีกไม่นานสังคมก็คงใกล้วอดวายกันแน่ๆ เพราะถ้าเรา เรา คนธรรมดา คิดกันแบบนี้ เดี๋ยวอีกหน่อยคงได้มีกฎหมายว่าลักเล็กขโมยน้อย ไม่เป็นไร เพราะปัญหานี้ได้รับความเห็นชอบจากหลายคนแบบกลายๆ ซึ่งนานๆไป ไอ้ความเห็นชอบแบบกลายๆ หรือความ "ไม่ใส่ใจ ไม่ถือโทษ ไม่ให้ความสำคัญ" นั่นหละค่ะมันจะเป็นรูปแบบที่กำหนดทิศทางของสังคมไทยต่อไป

- อีกอย่าง ลองมาคิดดูนะคะ ถ้าคุณลุงคนนั้นไม่ได้ขโมยเพราะว่าหิว แต่ขโมยเพราะอยากดูว่าจะมีคนจับได้ไหม หลายๆคนจะมีความสงสารต่อคุณลุงผู้นี้อยู่หรือเปล่า


สุดท้ายนี้ เราขอฝากข้อความบางอย่าง ซึ่งเขียนโดยชาว SBN ซึ่งเราเห็นแล้วรู้สึกประทับใจมาก
นั่นก็คือ "ไม่มีวิธีที่ถูก ในการทำสิ่งที่ผิด" ค่ะ (ขออภัยนะคะ จำชื่อท่านที่เขียนไม่ได้)
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด เหตุผลเบื้องหลังการกระทำใดๆไม่สามารถบิดเบือนสิ่งนี้ได้

ว่าแต่คุณลุงขา หนูเนี่ยไม่มีปัญญาซื้อกาแฟไอ้บักดาวดื่มกะเขา หนูยังไม่ริขโมยดื่มขโมยกินของเขาเลย