Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 10 of 36

Thread: ทำไมคนรวยมากบางคนถึงไม่ซื้อของแบรนด์เนมคะ

Hybrid View

  1. #1
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    26

    ทำไมคนรวยมากบางคนถึงไม่ซื้อของแบรนด์เนมคะ

    คือว่าตอนนี้กำลังทำงานกับบ.แห่งหนึ่ง เจ้าของบริษัทรวยมากระดับมหาเศรษฐีแต่เจ้าของซึ่งเป็น
    ผู้หญิงอายุประมาณ45ปี เค้าไม่ค่อยใช้ของแบรนด์เนมเลยคะ ใช้อย่างมากก็หลุยส์
    ลูกสาวเค้าจบดร.ก็ไม่ค่อยใช้เหมือนกันค่ะ เคยเห็นสะพายหลุยส์เนเวอฟูลอยู่ครั้งเดียวเอง
    ทั้งๆที่รายได้ต่อเดือนหลายสิบล้านบาท ไม่รวมสมบัติเก่าอีกเยอะมาก สามีก็รวยมาก
    เรากับเพื่อนเลยมานั่งคุยกันว่าแปลกดีนะ รวยขนาดนี้แต่ไม่ค่อยช้อปปิ้งเลย แต่ส่วนมากเค้าจะซื้อ
    พวกที่ดินค่ะ ซื้อเยอะมาก แต่พวกกระเป๋า นาฬิกา เครื่องเพชร นี่ธรรมดามากค่ะ ไม่สมฐานะเค้าเลยค่ะ

    เคยเจอคนรวยที่เป็นแบบนี้บ้างมั้ยคะ
    sea:sand:sun=ME^__^

  2. #2
    Join Date
    May 2010
    Posts
    6

    Smile

    หัวหน้าเราก็เป็นอย่างนี้ค่ะ อาจจะไม่รวยเทาที่ จขกท เล่านะแต่ว่าพี่เค้าก็เงินเดือนสองแสนกว่า สามีเป็นนักวิเคราะห์อยู่ Pricewaterhouse ก็รวยในระดับนึงนะคะ เค้าไม่ใช้ของแบรนด์เลยค่ะแต่เค้าจะใช้จ่ายไปกับค่าเทอมลูก (เรียนอยู่นานาชาติ Harrow) แล้วก็เดินทางเที่ยวต่างประเทศ ไปครบทุกประเทศแล้วมั้ง ซื้อบ้าน 40 ล้านด้วยเงินสด แต่ขับโตโยต้าคัมรี่ (พี่เค้าขายออดี้ไป แล้วมาซื้อคันนี้)
    ซึ่งเปรียบเทียบกับเรา (อันนี้นอกเหนือจากที่ถามนิดนึง) มีบ้านอยู่ที่ต่างจังหวัดแล้วขนาดไร่กว่า ๆ มีที่ดินเปล่าอยู่อีก 3 แห่ง รถแม่ซื้อให้ ก็คิดว่าตัวเองมีสิ่งจำเป็นพื้นฐานครบหมดแล้ว ขาดก็แต่ของไร้สาระตามใจฉันประเภทกระเป๋า นาฬิกา ตุ๊กตาบาร์บี้ ก็ซื้อไปตามเรื่องตามราว ซื้อบาร์บี้จนมีร้อยกว่าตัวแล้วเนี่ย รวม ๆ แล้วได้รถญี่ปุ่นคันนึงเลย ซึ่งคนรวยกว่าเราเป็นล้านเท่าเค้ายังไม่ซื้อเลยไอ้บาร์บี้เนี่ย

    สรุปว่ามันสำคัญอยู่กับว่าแต่ละคนต้องการอะไรอ่ะค่ะ เค้าเห็นว่าอะไรสำคัญสำหรับเค้า เค้าก็จะจ่ายไปเพื่อสิ่งนั้น คนชอบซื้อเพชรก็ไม่เน้นเสื้อผ้าเพราะเค้าเชื่อว่าเพชรสวย ๆ ก็ทำให้เสื้อผ้าธรรมดาสวยขึ้นมาได้ คนชอบซื้อที่ดินก็จะคิดว่าเสื้อผ้า เครื่องใช้ใช้แบบธรรมดาก็ได้ ขอแค่มีทรัพย์สินมาก ๆ ไว้ให้อุ่นใจเป็นพอ

  3. #3
    wawe's Avatar
    wawe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    685
    อาจเป็นเพราะความชอบ รสนิยม หรือมีเวลาหาเงิน แต่ไม่มีเวลาใช้เงิน แต่ของพี่เป็นพวกรสนิยมสูง รายได้ต่ำค่ะ
    ความง่ายอยู่ที่ปาก ความยากอยู่ที่ทำ
    การรู้จักปล่อยวาง เป็นวิถีทางแห่งความสุขสงบ
    มนุษย์ย่อมได้รับผลของการกระทำของตนเสมอ อาจจะเร็วหรือช้าเท่านั้น

  4. #4
    drpom is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    20
    เพื่อนที่สนิทกันก็ประมาณนี้ค่ะ ไม่แต่งตัว ไม่เห็นเคยถือกระเป๋า ถือแต่กระเป๋าผ้าอ้อมของลูก แต่งตัวประมาณเสื้อยืด ของโรงงานตัวเองที่ทำแจกคนงาน กางเกงยีนส์ แถมหลังคลอดใส่ชุดคลุมท้องต่อมาอีกเกือบปี ใช้รถvios แต่เปนคนดีมาก มีน้ำใจ ไม่มีกั๊ก สามีก็ประมาณกันเลย ใครจะรู้ว่ารวยระดับหลายร้อยล้าน
    อิอินินทาได้เพราะคิดว่าไม่มีทางเข้าเวปนี้เด็ดขาด

  5. #5
    Kesara's Avatar
    Kesara is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    133
    รสนิยม ความชอบส่วนตัวคะ บ้างคนชอบ สะสมเพชร ทอง บ้านที่ดิน พระเครื่อง รถยนต์ นาฬิกา
    มีเพื่อนไม่ชอบแสดงตัว แต่ไปที่บ้านมีเพียบเลย... นิสัยดีด้วย
    ส่วนที่ชอบใช้แบนด์เนมเพราะซื้อตามกำลังซื้อ และ ความชอบส่วนตัว อันนี้ห้ามกันไม่ได้คะ

  6. #6
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking

    ส่วนตัวผมว่าก็มีทุกรูปแบบ ครับ แล้วแต่ว่าเราจะเจอแบบไหน
    เพราะแต่ละคนถูกอบรมสั่งสอนในการใช้ของมาไม่เหมือนกัน
    แต่ถ้าเชื่อในเรื่องกรรม ลองอ่านอันนี้ดูนะครับ เผื่อได้ประโยชน์
    คำถาม

    ทุกข์ใจคุณแม่เหลือเกิน ลูกๆเอาข้าวของใหม่ๆ ดีๆมาให้ใช้ให้กิน ก็ไม่อยากจะใช้ เก็บไว้จนเก่าค่อยเอามาใช้ นอนหนุนหมอนเน่าๆ เปลี่ยนให้ใหม่ หรือเอาไปทำความสะอาดจะโกรธมาก กินก็ไม่ค่อยจะยอมกินของดีๆ พวกเราเป็นลูกก็ทุกข์ใจ เห็นแล้วไม่สบายใจเลย บอกตรงๆ
    คำตอบ

    น่าเห็นใจท่านผู้ถาม..ใจแม้อยากจะอุปการะมารดา???
    แต่ทว่า..ความจริงที่เราไม่พึงปฏิเสธคือเรื่องกรรม ...เขามีอำนาจ เที่ยงตรงและเที่ยงธรรม เป็นที่สุด ....
    ถ้าเหตุปัจจัยครบ เขาย่อมส่งผลนั่นเทียว ไม่เคยปรารภว่าบุคคลนี้เป็นคนดี เป็นคนผู้สูงส่ง เป็นบุคคลผู้น่าสงสาร เป็นผู้ด้อย..แล้วสมควรที่กรรมพึงเว้นส่งผล.ฯลฯ....ไม่เคยเลยที่จะเว้น หากเป็นกรรมที่เคยทำไว้และมีปัจจัยให้เขาส่งผล เขาก็ย่อมส่งให้นั่นแหละ...
    ผู้ถามกับพี่ๆน้องๆ ต้องอุเบกขาแล้วละค่ะ เพราะวิบากกรรมของคุณแม่นั่นเองที่กั้น...แม้รับกับมือ ก็ไม่สามารถจะใช้สอย หรือเสพได้ หากอกุศลชนิดนั้นกำลังส่งผลให้อยู่...หากเราพยายามไปแก้ไขโดยการบังคับบ้าง ทุกข์ย่อมเกิดทั้งเราเองและคุณแม่นั่นเทียว..
    อุปมาเหมือนบุคคลกำลังบังคับจิตทางหูที่ทำกิจแห่งการฟังนั้น ให้ไปทำหน้าที่อื่น มีการเห็นเป็นต้น...นี้ไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นได้.... เพราะการเห็นนั้น เป็นหน้าที่ของจิตที่เกิดทางตาเท่านั้น...กรรมของบุคคลนั้น ไม่พึงจะโอนถ่าย ย้ายยักไปให้ผู้อื่นเสวยได้เลย...
    เราจึงพึงศึกษาผลที่ได้พบได้เห็นนั้น นำกลับมาพิจารณาถึงเรื่องเหตุ.... เมื่อเข้าใจ จะได้พึงเว้นในสิ่งที่ควรเว้น...พึงเจริญในสิ่งที่ควรเจริญ ...
    กรณีของคุณแม่ท่านนั้น ทานกุศลในอดีตที่เคยทำแล้วมีบริวารเป็นความตระหนี่ ...ทำแล้วเสียดาย ให้แล้วมิให้ขาด...ยังตามหวงแหนในไทยทานนั้นๆ ..เมื่อกุศลส่งผล ย่อมไม่น้อมไปที่จะพึงใช้พึงเสพสมบัตินั้นๆ แม้กุศลแห่งการให้จะส่งเป็นวิบากให้เป็นการได้รับ แต่เพราะอัธยาศัยของตนประการหนึ่ง อกุศลบริวารที่ได้กระทำมาแล้วประการหนึ่งย่อมกั้นมิให้บุคคลนั้น ได้ใช้สอย ได้เสพ ได้ลิ้มชิมรสเลย...
    อีกประการหนึ่งก็คือ...เวลาทำทานหรือให้อะไรแก่ใคร ความตระหนี่มักให้ของเหลือเดน (ทาสทาน) ที่ไม่ประณีตแก่บุคคลอื่น..จะเห็นได้จากบางคน ใครให้อาหารมา หรือแม้แต่ตัวจะซื้อมาเอง ก็ยังต้องเก็บไว้จนใกล้เสียนั่นแหละจึงค่อยเอาออกมารับประทาน...คนที่อยู่ใกล้ อยู่ด้วยก็เป็นทุกข์เดือดร้อน
    แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะเป็นกรรมของเขา หรือแม้แต่ของเราที่กระทำกรรมลักษณะเดียวกันมานั่นแหละ....รู้อย่างนี้ จะไม่ให้สลดใจกับกิเลสที่ใช้เราทำกรรมได้อย่างไร...
    ขนาดของดีปรากฏอยู่ต่อหน้า แม้อยู่ในมือ ....ยังใช้ ยังเสพ ยังลิ้มไม่ได้เลย.....หากวิบากกรรมเขากั้น... มหัศจรรย์ไหมล่ะคะ?
    จากเวป รักษาธรรม.คอม
    ไม่รู้ว่าตอบตรงคำถามหรือเปล่า แต่น่าจะเป็นอีกเหตุผลนึงได้ครับ
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  7. #7
    superMai's Avatar
    superMai is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3
    Blog Entries
    1

    Smile

    มีค่ะ เห็นอยู่คน คือ พ่อเรา นี่เอง

    ไม่ซื้อของห้าง ไม่ใช้ของแบรนด์เนมค่ะ เหตุผลคือ รู้สึกว่าจะฟันกำไรเรามากเกินไป

    ขนาดแว่นตายังไม่ตัดเลยค่ะ ไปซื้อแว่นจากสำเพ็งมาโหลนึงแล้วเอาไว้ทุกมุมของบ้าน อยากใช้จะได้หาง่ายๆ

    ไป HK กัน น้ำดื่มที่สนามบินขายแพงมาก เขาก็พกขวดน้ำที่หมดแล้วไปกรอกน้ำที่เค้าให้กินฟรีมาเก็บไว้กิน ส่วนเราซึ่งเป็นลูกสาว แหะ เดินไปซื้อ Starbucks มานั่งกินชิวๆเลยค่ะ ซื้อนู่น ซื้อนี่ ตลอด

    ล่าสุดตอนปีใหม่ ไปเที่ยวมาเก๊ากันมา เราสะพายหลุย พ่อหันมาถามว่า นี่ของจริงรึเปล่าเนี่ย ใบเท่าไร พอเราบอกไป เค้าหันมาทำหน้าประมาณว่าซื้อมาได้ไงเนี่ย

  8. #8
    friday's Avatar
    friday is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    4
    แบรนด์แนมไม่ได้บ่งบอกถึงฐานะคน แต่บ่งบอกรสนิยมค่ะ



    บางคนมีเงินแต่ไม่ใช้ บางคนไม่ค่อยมีเงินแต่ก็พยายามเก็บเงินเพื่อให้ได้ใช้

    นานาจิตตังเนาะ
    Friday @ Siambrandname . com Yo Yo Yo

  9. #9
    Jinglebell is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    เราเคยถามคนที่เค้ามีเงินสด หลักร้อยล้าน(อันนี้ก็แล้วแต่คนคิดนะว่ารวยหรือยัง) แต่คนนี้เค้าเป็นผู้ชายนะ ไม่เพียงแค่ไม่ใช้ของแบรนด์ แทบว่าอะไรก็ไม่ใช้เลย นาฬิกา ไม่ใส่ สร้อยไม่มี กระเป๋าตังค์ไม่พก (เอาเงินกับบัตรใส่กระเป๋ากางเกง) เข็มขัดใส่เส้นละ 200-300 บาท รองเท้าก็ธรรมดาๆเนี้ยแหละ ตอนแรกเรามองว่าเค้า โค ตะ ระ งกนะ แต่เค้ากลับบอกว่า ของพวกนั้นเป็นของไม่จำเป็น เค้าไม่ต้องสร้างภาพกับใคร คนที่รู้จักเค้าก็ไม่เห็นมีใครดูถูกเค้าซะคนที่เค้าทำตัวอย่างนี้ อีกอย่างเค้าบอกว่าความอยากได้คนเรามันไม่มีที่สิ้นสุด พอซื้อของมาใหม่ก็สุขอยู่แป๊บเดียว ก็เกิดทุกข์อยากได้รุ่นใหม่อีกแล้ว จริงๆเค้าสอนมากมายเลยนะ ทำให้เราจากคนที่ฟุ่มเฟื่อย กลายเป็นคนประหยัดไปแล้ว อิอิ

    เชื่อไหมว่าคนที่เค้ามีตังค์หลายๆคนก็เป็นอย่างนี้ พอดีเราทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด ซื้อขายหุ้นให้ลูกค้า เราจะพอรู้จักลูกค้าที่เค้ารวยๆเยอะ คนพวกนี้จะเอาเงินไปลงทุนเพื่อต่อทุนของเค้าให้หนาขึ้นมากกว่าอะ
    miss_jinglebell@hotmail.com

    Tel.0898253716/BELL

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •