ขอบคุณครับที่เพื่อนได้เข้ามาออกความเห็นกัน...
โดยส่วนตัวผมแล้ว...ผมเริ่มเล่นพระเครื่องมาตั้งแต่อายุ 15 ปี..ที่มาเล่น ก็เพราะ
บ้านผมเมื่อก่อนยังไม่ย้าย..ผมจะอยู่แถวอรุณอมรินทร์ คือฝั่งธนบุรี..เมื่อไปเรียนหนังสือ ก็จะต้องข้ามฟาก คือนั่งเรือ ฝั่งตรงข้าม คือท่าน้ำศิริราช..และเส้นทางลัดไปสู่ถนนก็ต้องผ่านสนามพระท่าพระจันทร์ ก็เป็นที่มาครับ..

ตอนสมัยผมเด็กๆผมจะห้อยพระ หูยานลพบุรี แต่สึกมากแล้ว ซึ่งได้มาจาก อา...ผ่านสนามทีไร..พวกพี่ๆเซียนพระก็จะถาม น้องห้อยพระอะไร ผมก็ตอบไม่รู้ครับ อาให้มาติดตัว...พอควักให้ดู...เซียนก็บอก แท้...ให้เก็บไว้ดีๆ...

เมื่อสมัยก่อน เซียนพระแต่ละคนนิสัยดีมาก ไม่เคยปิดบังเรื่องพระเครื่องเลย...ตั้งแต่นั้นมาก็ได้คลุกคลีกับพวกพี่ๆเซียนในสนาม แทบได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคนในกลุ่มเซียนรุ่นใหญ่ไปเลยครับ..และเซียนพระแต่ละคนไม่มีปิดบัง ถามอะไร พี่เซียนก็บอก องค์ไหนเก๊ พี่ๆก็สอนวิธีดูให้...เค้าบอกจะได้ทันคน ทันต่อวงการ จะได้ไม่โดนต้ม...

ผมได้เริ่มศึกษากับเซียนพระแต่ละชนิดในสนาม...ซึ่งพี่ๆแต่ละท่าน จะไม่ชํานาญไปหมดทุกชนิดพระ...อย่างอาจารย์แต่ละท่านที่ผมศึกษา

อาจารย์ประจํา อู่อรุณ พี่ท่านเป็นเซียนที่เก่งพระสมเด็จมาก ก็ได้ความรู้จากท่าน เวลามีพระซ่อม หรือซ่อมพระ อาจารย์ก็จะพาผมไปด้วย อีกท่านที่เก่งมากๆและซ่อมพระเก่ง ก็อาจารย์ สมปอง...เวลาไปดูท่านซ่อม ก็จะคุยกันเรื่อง เนื้อพระ พิมพ์ทรง ของพระสมเด็จแต่ละรุ่น แต่ละพิมพ์ และได้ดูเนื้อแท้ ในองค์พระวัดระฆัง..

และก็พระปิดตา ก็ได้ความรู้มาจากพี่ พยัพพันคํา พี่ท่านอยู่แถวนนท์บุรี ปิดตาบางเดือ บางไผ่ บางม่วง และพระสายวัดเฉลิมพระเกียรติ์ พี่ท่านก็สอนให้.

พระกรุทางเหนือ ก็ได้พี่ เสรี...อยู่ติดแม่น้ำ ชอบคนตรี...ท่านก็สอนให้ การดูพระกรุให้..อีกทั้งอาจารย์ จําลองท่านเก่งเนื้อชิน ก็แนะนําความรู้ให้

และอีกหลายๆท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม...จึงเป็นที่มาของการเล่นพระ...
1.พุทธคุณ
2.ความเป็นเอกลักษณ์ของพระแต่ละชนิด
3.ความเก่า จากประวัติของพระแต่ละองค์ ที่น่าตามและศึกษา
4.หายาก
5.ศิลปะ มวลสาร ส่วนผสมในเนื้อพระ

จึงเป็นที่มาของการเล่นพระของผม เพราะผมเก็บรักษาด้วย ใจรักครับ.. ไม่ใช่เพื่อซื้อ-ขาย.