ขออนุญาต นำมาลงบ้างนะคะ
แต่ครั้งนี้เป็นฝีมือคุณแม่ค่ะ
ซึ่งงวดนี้ กลับบ้านไปไม่ทันได้เป็นลูกมือ
กลับไปถึงก็เสร็จออกมาแล้วค่ะ
ชื่ออาหารต้องอ่านข้างล่างภาพนะคะ มีที่มาด้วยค่ะ
ที่มาของชื่อ คือ
ได้ถามคุณแม่ มาว่า อาหารนี้มีชื่อว่าอะไร
ตอนแรกท่านก็ตอบว่า น้ำเงี้ยว
แต่ท่านก็นึกออกว่า จริง ๆ แล้ว น้ำเงี้ยวทั่วไป เขาไม่ใส่กะทิกัน
แต่ที่ทำออกมาทานกันที่บ้่าน ใส่กะทิด้วย
เราก็เลยเสนอว่า ให้ชื่อ "น้ำเงี้ยวกะทิมั้ย??"
แต่คุณแม่ก็ยืนยันว่า "อย่าเอาของเขาไปเปลี่ยน"
ท่า่นก็เลยบอกใหม่ว่า เป็นชื่อ น้ำยาญวน ก็แล้วกัน
เราก็เลยสงสัยว่า คนญวน เขามีน้ำเงี้ยวที่นั่น ใส่กะทิเหรอ??
ก็เลยถามท่านว่า ทำไมจึงชื่อ น้ำยาญวน ก็ได้คำตอบให้หายสงสัยว่า
"ก็คนญวน ทำ"หายสงสัยเลย คือ คุณแม่ มีเชื้อสายญวนอ่ะคะ
แต่คุณลูกขอเพิ่ม ชื่อ เฉพาะ สำหรับน้ำยาญวน นี้หน่อยนะคะ
เพราะมันเฉพาะตรงเนื้อที่ใส่เนี่ยแหละค่ะ
ให้ชื่อว่า "น้ำยาญวน ปลาหนวดแพะ" ค่ะ
ซึ่งได้คุณพ่อ และน้องชายให้ข้อมูลเพิ่มเรื่องปลาเนี่ยแหละค่ะว่า
เนื้อที่ใช้ทำเป็นเนื้อปลา และมันก็ชื่อปลาหนวดแพะ ไม่รู้มาก่อนว่ามีปลาชื่อแบบนี้ด้วย
ที่ตกใจเนี่ยไม่ใช่แค่ชื่อค่ะ แต่มันคือ ตอนทานเนี่ย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นปลา
ไม่มีกลิ่นคาวเลยค่ะ ซึ่งคุณแม่บอกว่า ที่เลือกปลาหนวดแพะ
ก็เพราะมันไม่มีกลิ่นคาวเนี่ยแหละค่ะ
วันนั้น ก็เลยอิ่มกันถ้วนหน้า
ขอบคุณคุณแม่มากค่ะ สำหรับทุก ๆ มื้อของลูก
และคุณพ่อ และน้องชาย เรื่องความรู้เรื่องปลา
คราวหน้าคุณลูก จะไปทำให้ทานบ้างนะคะ
จะขอจดเมนูจากตู้กับข้าวเนี่ยแหละ
ไปทำให้คุณแม่ทานบ้างนะคะ
น่าทานทุกอย่างเลยค่ะ
ฝีมือเป็นไงจะนำมาลงนะคะ
ขอฝากตัว เป็นศิษย์ ด้วยคนนะคะ
ขอบคุณค่ะ