^
^^
^^^
หายไป (จากกระทู้) ซะนานเลยนะ คนข้างบนน่ะ
มาแอ่วเหนือเมื่อใด จะพาไปจก ลาบ หลู้ ส้า กับข้าวนึ่งฮ้อนๆ เน้อ....
ปล. ขออภัยพี่น้ำ และพี่ๆคนอื่น ที่ออกนอกเรื่องนะคะ แต่หนูว่า พี่น้ำก็คงไม่พลาดมื้อนี้เหมียนกันเน้อ....อิอิ
^
^^
^^^
หายไป (จากกระทู้) ซะนานเลยนะ คนข้างบนน่ะ
มาแอ่วเหนือเมื่อใด จะพาไปจก ลาบ หลู้ ส้า กับข้าวนึ่งฮ้อนๆ เน้อ....
ปล. ขออภัยพี่น้ำ และพี่ๆคนอื่น ที่ออกนอกเรื่องนะคะ แต่หนูว่า พี่น้ำก็คงไม่พลาดมื้อนี้เหมียนกันเน้อ....อิอิ
ว้าว อยากไปจกมั่งจัง คุณน้ำคะ หนูนาตาลีเป็นยังไงบ้าง อัพเดทอาการให้ทราบด้วยนะคะ เย้ หนูลิกลับมาแล้ว ยินดีค่ะ
แหะ แหะ ยินดีให้มาร่วมวง จก นะคะ พี่แหวว
จริงๆแล้ว หนูต้องขอฝากเนื้อฝากตัว เอ้ย....ฝากท้องกับพี่แหวว และ พี่ป้อม มากกว่า นะคะ
พาออกนอกเรื่องอีกแล้ว....น้องได้กลับบ้านยังคะ พี่น้ำ
นาตาลีกลับมาบ้านแล้วคะตั้งแต่เมื่อวานเย็น
ตอนนี้เลยจ้างพยาบาลมาดูแลน้องช่วง 11โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น
จะมีพยาบาลที่ดูแลน้องที่เชียงใหม่ราม สลับกันมาคะ เพราัะตอนนี้
คุณตา คุณยาย น้องสาว กลับกันหมดแล้ว ไม่มีใครช่วยเลยคะ
น้องยังต้องทานยาต่อไปอีกนาน เนื่องจากมีภาวะตับแข็งบางส่วน
ก็หวังว่ามันจะไม่ลามมากไปกว่านี้ เอาไว้อารมณ์ดีๆจะเล่าให้ฟังนะคะ
จริงๆน้องไม่น่าจะอาการรุนแรงขนาดนี้เลย ถ้าหมอใส่ใจ
ดีใจด้วยนะคะ หนูแน๊ตกลับบ้านแล้ว...![]()
ขอให้น้องนาตาลีแข็งแรงขึ้นเร็วๆ พี่น้ำ และคุณคริสดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ...
ส่งแรงใจไปช่วยทุกๆวันนะคะ พี่น้ำ
ขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกคนนะคะ ที่ช่วยส่งกำลังใจมาให้ครอบครัวเรา
อยากจะให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับคุณแม่ทุกๆนะคะ
บางครั้งคุณหมอก็ผิดพลาดได้ นี่ถ้าพี่น้ำไม่หาข้อมูลเพิ่มเติมเอง
ป่านนี้คงจะสายไปสำหรับนาตาลี ถ้าวันนั้นไม่พาลูกกลับไปหาหมออีก
ป่านนี้ก็คงกลับไปอเมริกา โดยที่ไม่รู้เลยว่าน้องป่วยหนัก
และก็คงจะสายเกินไปสำหรับนาตาลี
โรคท่อน้ำดีอุดตันในทารก ถือว่าเป็นโรคที่น่ากลัวที่สุดสำหรับ
เด็กแรกเกิดนะ การผ่าตัดจะได้ผลดีก้อต่อเมื่อเด็กอายุไม่เกิน 3 เดือน
ยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะน้ำดีที่ค้างอยู่ในตับ จะไปทำลายเนื้อตับของน้อง
ถ้าทิ้งไว้เกิน 4 เดือน โอกาสรอดคือการเปลี่ยนตับเท่านั้น
สำหรับนาตาลี พี่น้ำถามคุณหมอมาตลอดตั้งแต่ครบ 1 เดือนว่าทำมัย
น้องยังตัวเหลือง คุณหมอได้แต่บอกว่า ให้เอาไปโดนแดดบ้าง เจอกี่ที
ก็ว่าไม่เป็นไร ตอนน้องเกือบๆสองเดือน น้องไอ มีน้ำมูก
คุณหมอท่านนี้ก็ให้นอนโรงพยาบาล อยูุ่6 วัน
เราก็ถามนะคะว่าน้องทำมัยตัวเหลือง หมอก็ตอบเหมือนเดิมว่า
ไม่เป็นไร หลังจากออกจากโรงพยาบาล นึ่งอาทิตย์ กลับมาตรวจใหม่หลังยาหมด
เราก็ยังถามอยู่นะคะ ว่าทำไมน้องยังเหลืองอยู่
คุณหมอกลับมาถามว่าแม่กินวิตตามินบำรุงบ้างไหม กลายเป็นว่า
น้ำนมเราไม่มีคุณภาพ แทนที่จะไปโฟกัสว่าทำมัยลูกเราตัวเหลือง
แล้วคุณหมอก็บอกอีกว่า " ต้องกิน fish oil ด้วย
ตัวที่ดีที่สุดของแอมเวย์ ถ้าจะเอาบอกหมอนะ" ฟังแล้วอึ้งคะ
หลังจากนั้น ไม่กี่วันก็เอาลูกกลับไปหาหมออีกด้วยความไม่สบายใจ
คิดว่าต้องไม่ปรกติ ปรากฎว่าคุณหมอท่านเดิม ก็ถามว่าวันนี้เป็นอะไร
เราก็บอกว่า น้องตัวเหลืองไม่หายเลย สองเดือนกว่าแล้ว
คุณหมอมองดูลูกเราในรถเข็น ไม่แม้แต่จะจับ แต่กลับบอกว่า
เอาหาหมอปิยะโน้น เค๊าเชี่ยวชาญเรื่องนี้
แล้วก็เดินออกจากห้องไปเลย
ถ้าหมอให้เราไปหาหมอปิยะซะตั้งแต่น้องยังไม่สองเดือน
ตับของนาตาลีคงไม่เสียหายแบบนี้
ตอนหลังมาทราบว่าหมอท่านนี้ท่านขายแอมเวย์ ขายประกัน
ท่านคงห่วงแต่ยอดขายของท่าน โดยลืมไปว่าชีวิตเล็กๆหนึ่งชีวิต
นั้นสำคัญขนาดไหน
นี่ถ้าเป็นตาสีตาสาที่เชื่อแต่หมอลูกคงแย่กว่านี้คะ
ยังดีที่ยังเอะใจว่าลูกต้องเป็นอะไรสักอย่าง เริ่มหาข้อมูล
ทางอินเตอร์เนท แต่ไม่คิดว่าจะเป็นอะไรมากแบบนี้
ถ้าน้องไม่ได้รับการผ่าตัด หรือปล่อยทิ้งไว้ น้องก็คงมีชีวิตอยู่ได้แค่
2 ปี นี่คือความไม่ใส่ใจของหมอ ไม่ทราบเหมือนกันนะคะว่า
โรงพยาบาลเค๊าอนุญาตให้หมอขายสินค้าขายประกันกับคนไข้ได้ด้วย
บอกตรงๆหมอศัทธาในตัวคุณหมอท่านนั้นไปเลยคะ
ชีวิตลูกเราทั้งคน