น้องฝ้าย 2 ขวบเรียนหนักขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่ไหวนะ เด็กเล็กเกินจริง ๆ ควรให้เล่น ให้ฝึกพัฒนาการในวัย 2 ขวบมากกว่าเน้นเรียนนะพี่ว่า ค่อย ๆ ปรึกษากันนะกับสามี ใจเย็น ๆ เดี๋ยวก็ได้ทางออกจ๊ะ โรงเรียนไรเนี๊ยะเข้มไม่เบา
น้องฝ้าย 2 ขวบเรียนหนักขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่ไหวนะ เด็กเล็กเกินจริง ๆ ควรให้เล่น ให้ฝึกพัฒนาการในวัย 2 ขวบมากกว่าเน้นเรียนนะพี่ว่า ค่อย ๆ ปรึกษากันนะกับสามี ใจเย็น ๆ เดี๋ยวก็ได้ทางออกจ๊ะ โรงเรียนไรเนี๊ยะเข้มไม่เบา
คุณพ่ออาจออกแนววิชาการ เน้นอ่าน-เขียน
คุณแม่ออกแนวเตรียมความพร้อม ก็เลยขัดแย้งกัน
ลองคุยกันใหม่นะคะ ว่าลูกเรายังเล็กมากเรียนเตรียมอนุบาลเอง
ไม่อยากให้เค้าเครียดเกินไป ลองเรียนที่ใหม่ดูก่อน ถ้าไม่ชอบเดี๋ยวลูกขึ้นอนุบาล
แล้วเรามาคุยกันใหม่
แหะ แหะ ให้ลูกเรียนepแล้วจะเรียนต่อinterป่าวคะ
ถ้าใช่ก็ไม่เห็นต้องเน้นวิชาการขนาดน้านนนน
คุณพระ เด็กสองขวบต้องเรียนขนาดนี้แล้วเหรอเนี้ยเมื่ออาทิตย์ก่อน ได้ไปนั่งคุยกับเพื่อนน้องสาวและเค้าอยากให้ลูกสาว(อายุแค่สองขวบเศษตอนนี้) เข้าเรียนที่โรงเรียนสาธิต มอเกษตร เค้าเริ่มเอาลูกเค้าไปติว เพื่อที่จะได้สอบเข้าสาธิต มอเกษตรตอนอายุ เจ็ดขวบแล้วอ่ะ แม่เจ้า ทำมั้ยต้องเครียดขนาดนั้นด้วยหรือ
กรณีของน้องฝ้ายพี่เห็นด้วยเต็มๆว่า "ใครจะรู้ดีไปกว่าคนที่เป็นแม่" แต่น้องฝ้ายต้องอย่าลืมว่า "เค้าก็เป็นพ่อด้วยเหมือนกัน" พี่เคยทะเลาะกันกับคุณสามีเพราะว่าตอนนั้นลูกได้รับ คัดเลือกให้อยู่ทีมว่ายน้ำของโรงเรียน แล้วลูกสาวพี่บ่นไม่ชอบเพราะว่าเค้าซ้อมกันหนักมาก พี่ก็จะให้เค้าออกจากทีม ตอนนั้นก็ลาออกจากทีมโดยไม่ได้ปรึกษาคุณสามี ปรากฎว่าเธอโกรธมากพูดว่า "ทำอะไรทำมั้ยไม่ปรึกษานี่ก็ลูกเค้าเหมือนกันนะ" พี่ก็บอกว่าลูกไม่ชอบเพราะว่ามันซ้อมหนักมาก เค้าไม่เชื่อหาว่าพี่สปอยล์ลูก เพราะว่าเค้าเองภูมิใจมากว่าลูกได้ถูกคัดตัวอยู่ในทีมของโรงเรียน (ที่ BPS ถ้าเค้าเห็นว่าเด็กมีแววเค้าจะส่งจดหมายเชิญให้เข้าร่วมทีมโรงเรียน ซึ่งเป็นอะไรที่ พ่อกับแม่จะภูมิใจมาก ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเข้าทีมก็เข้าได้นะค่ะ) จนพี่ต้องพาเค้าไปดูช่วงซ้อมที่โรงเรียน และจนเค้าเห็นลูกว่ากลับมาบ้านแล้วแทบสลบ เลยยอมค่ะ
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้พี่ว่าต้องพาเค้าไปดูว่าลูกไม่มีความสุขนะ และต้องมาคุยกันถึงเรื่องแนวทางในการเลี้ยงลูกของเราทั้งสองคนด้วยค่ะ ว่าควรจะต้องไปในทิศทางเดียวกัน ต้องค่อยๆพูดกันนะค่ะว่า อย่าลืมว่าก็ลูกเค้าเหมือนกัน อย่าได้พูดเด็ดขาดว่า "ชั้นเป็นแม่ชั้นรู้จักลูกดีกว่าคุณ" คำๆนี้แหล่ะ ที่ทำให้พี่กับสามีทะเลาะกันแทบตายเลยนะจะบอกให้ ผู้ชายเค้าคิดว่าไป Discradit เค้า หาว่าเค้าไม่มีเวลาและไม่เอาใจใส่ลูกเค้าจะรู้สึกว่าเสียหน้าค่ะ
ของพี่กับคุณสามีเราคุยกันแล้วว่า "ลูกเราไม่จำเป็นต้องเรียนให้ได้เกรดเฉลี่ยสูงๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอ หรือเป็นวิศวกร แต่เป็นอะไรก็ได้ที่ลูกรัก และชอบที่จะเป็น ที่จะสามารถเลี้ยงดูตัวเองต่อไปในอนาคตได้ค่ะ" เพราะเราเชื่อว่าถ้าเค้าเป็นในสิ่งที่เค้ารักแล้วเค้าจะทำได้ดีกว่าค่ะ![]()
สงสารคุณลูกจังเลย คุณลองพาลูกไปวิ่งเล่นโรงเรียนใหม่ที่คุณอยากให้ไปเรียนหรือยัง
ตอนเราหาอนุบาลให้ลูก เราพาเค้าไปด้วยทุกที่ แล้วถามเค้าว่าชอบหรือเปล่า ที่สุดท้ายที่ตัดสินใจให้ลูกเข้าเรียนนี่คือ พาลูกไป survey แล้วลูกไม่ยอมกลับบ้าน จะอยู่เล่นที่โรงเรียน เค้าสนุกมาก สนุกสุดสุด กลับมาบ้านบอกเลยว่าชอบมากออกนอกหน้า ส่วนโรงเรียนอื่น อาการคือ เฉย ๆ ไม่ดี๊ด๊า
ยิ่งพอเข้าไปเรียนแล้ว อยากไปโรงเรียนทุกวัน ไม่อยากหยุดเสาร์-อาทิตย์ โรงเรียนลูกเราเน้นเตรียมความพร้อม สนุุกอย่างเดียวเลย ตอนนี้ อ. 1 ยังไม่มีการบ้านเลยค่ะ แต่เค้าอยากอ่านหนังสือมาก ให้เราช่วยสอน ก-ฮ ให้เพิ่มเติม แล้วฝึกเขียน ก ข เอง แล้วเอามาโชว์
เราว่าสิ่งสำคัญคือ ลูกต้องแฮปปี้ แล้วความอยากเรียนรู้มันจะตามมาเองค่ะ
ขอให้คุณผ่านช่วงเวลาสำคัญนี้ไปให้ได้ เอาใจช่วยค่ะ
ขอบคุณทุกคำตอบนะคะ
ตอนนี้รอเวลาค่ะ ยังไม่คุยกันเลย ให้เค้าคิดเอง ให้เค้าเริ่มเอง
ดูซิจะจำได้มั๊ยว่าลูกจะปิดเทอมแล้ว ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง![]()
พี่ว่า เรื่องนี้คงต้องเห็นพ้องด้วยกันทั้งคู่ค่ะ เพราะการเลี้ยงลูกไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่งเ่ท่านั้น เป็นเรื่องของทั้งพ่อและแม่ที่ต้องช่วยกันตัดสินใจ
ลองลิสต์ดูความต้องการของทั้งคู่ดูสิคะ ว่าเราต้องการอะไรให้กับลูกบ้าง คุยกัน แล้วลองหาโรงเรียนที่เหมาะกับความต้องการของเรา
ไม่มีอะไรถูก หรือผิดหรอกค่ะ
เข้ามาฟังคุณฝ้าย และ แอบคิดเยอะด้วยคน(จริงๆคิดมาตั้งแต่ตอนท้องแล้วเรื่องนี้..เพราะที่บ้านเราเด็กเยอะ เห็นว่าเค้าเรียนกันประมาณนี้จริงๆ..แต่ไม่แมกซิมัมขนาดคุณฝ้ายเล่านะคะ แต่เราก็หนักใจตั้งแต่ตอนท้องเลยล่ะ) ตกลงกันไว้กับสามีว่า ใครจะเป็นยักษ์ ใครจะเป็นนางฟ้า และทุกๆเรื่องที่ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับลูก เราจะตกลงปรึกษากันนอกรอบก่อน เรียกว่าเบรนสตอร์มกันเลยล่ะ ต้องทะเลาะกันก็ยอม..เพื่อที่จะการเลี้บงดูลูกจะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน "ร้องเพลงเดียวกัน" ไม่ผิดคีย์ เชื่อว่าพ่อแม่ย่อมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกอยู่แล้ว แต่ด้วยสภาพแวดล้อมความเหมาะสมของแต่ละครอบครัวที่ต่างกันไปย่อมมีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้างเป็นธรรมดา ยังไงอ้อขอเอาใจช่วยให้คุณฝ้ายหาข้อตกลงที่ลงตัวได้ในที่สุดนะคะ แล้วมาอัพเดทด้วยน๊าคุณฝ้าย..