แหะ แหะ คุยกันอยู่ 2 คน ^^

ลูกพี่เริ่มเรียนตอนป.1 จ้ะ เสียดายมาก ตอนแรกก็เรียนอนุบาลใกล้บ้านค่ะ ลูกจะได้ไม่ต้องตื่นแต่เช้า สามารถทานข้าวที่บ้าน แล้วค่อยไปโรงเรียนได้ ก็เรียนจนอนุบาล 3 ต้องไปหา ป.1 เข้าต่อ ก็เลยเริ่ม search internet ดูว่า โรงเรียนในกรุงเทพ มีแบบไหนบ้าง

ดูมาหลายที่มากค่ะ ตอนแรกสนใจโรงเรียน รุ่งอรุณค่ะ แต่มันไกลเกิน ก็ลองไปดูโรงเรียนอมาตยกุล ก็คิวยาวมาก แล้วไม่ได้เรียนตั้งแต่อนุบาล เค้าไม่ค่อยรับเด็กใหม่


หาไปหามาเจอโรงเรียนปัญโญทัยค่ะ ก็พยายามหาอ่านจากในเน็ตว่าแนว วอล์ดอร์ฟเป็นแนวแบบไหน อ่านแล้วดูน่าสนใจดี ก็เลยเข้าไปคุยกับภรรยาคุณหมอพร เจ้าของโรงเรียน ตอนนั้นโรงเรียนยังอยู่สามโรง ถนนสรรพาวุธอยู่เลยค่ะ (ตอนนี้อยู่ซอยวัชรพล) ตอนไปคุยชอบมาก เค้าก็พาไปดูเด็กๆที่เล่นกันอยู่กลางสนาม บางคนก็โยนถุงถั่ว เล่นกันเป็นกลุ่มๆ แต่ก็ต้องถอดใจ เพราะบ้านพี่อยู่ลาดพร้าว กว่าลูกจะไปทันโรงเรียนเข้า คงต้องออกตั้งแต่ตี5 สงสารลูก ก็พอดีไปคุยกับคุณพ่อเพื่อนลูกที่เรียนอนุบาลด้วยกัน เค้าบอกว่าแนวนี้ยังมีอีกที่นึงคือ รร.แสนสนุกไตรทักษะ ตรงร้านอาหารบ้านต้นซุง

ก็เลยไปคุยกับคุณป้าอุษา เจ้าของโรงเรียน พูดตรงๆว่าพี่ประทับใจปัญโญทัย มากกว่า แต่ก็ไม่มีทางเลือก อย่างน้อยก็แนวเดียวกัน แต่อาจจะต่างกันในบางเรื่อง เดี๋ยวจะมาเล่าต่อ หลังจากคุยทำความเข้าใจคร่าวๆ เรื่องคอนเซ็ปของการเรียนแนวนี้ เค้าก็เสนอว่าถ้าสนใจสามารถมาดูการเรียนการสอนได้ ตอนนั้นไปดูชั้น ป4 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียน ณ ตอนนั้น (ขณะที่ปัญโญทัยมีมัธยมแล้ว) ก็เข้าไปดูการสอนในห้อง ตอนนั้นสอนเรื่องม้า ครูเค้าก็จะวาดรูปม้าบนกระดาน เป็นม้าที่สวยมากๆค่ะ เพื่อให้เด็กๆวาดตาม แล้วก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับม้า เล่าไปถามเด็กไป ก็มีการโต้ตอบกันในชั้นอย่างสนุกสนาน หลังจากนั้นก็มีการทำกิจกรรมวงกลม แต่จำไม่ค่อยได้แล้วว่าทำอะไร รู้แต่ว่าเด็กๆเก่งมาก เรายังทำไม่ได้เลย

สรุปเลยพาลูกมาเข้าโรงเรียนนี้ ตอนจะเข้าต้องพาไปให้ครูประจำชั้นดูตัว แล้วก็สัมภาษณ์พ่อแม่ ก่อนนะคะ แล้วเค้าก็ให้ลูกพี่วาดรูปให้ดู แล้วก็เข้าเรียนค่ะ


ข้อแตกต่างที่เห็นจากปัญโญทัย และ ไตรทักษะ ก็คือ ที่ปัญโญทัยเค้าจะไม่ค่อยให้ผู้ปกครองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเรียนมากเท่าไตรทักษะ เข้มงวดกว่า อุดมการณ์มีเยอะกว่า เข้าใจ concept ของ Waldolf ได้ลึกซึ้งกว่า เพราะเค้ามีประสบการณ์มานานกว่านั่นเอง แต่ที่ไตรทักษะจะเน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกเยอะมาก กิจกรรมในโรงเรียนพ่อแม่จะมาช่วยกันทำร่วมกันกับเด็กๆ

เมื่อตอนป.4 เด็กๆต้องไปอยู่ที่ ม.เกษตร กำแพงแสน เพื่อทำงานเลี้ยงวัว เป็นเวลา 1 อาทิตย์ค่ะ
คิดถึงลูกมาก ไม่เคยจากกันเลย ซึ่งนี่เป็นการฝึกเด็กให้รู้จักช่วยตัวเอง รวมถึงฝึกพ่อแม่ไม่ให้ยึดติดด้วยค่ะ

อ้อ ลืมเล่าค่ะ ที่โรงเรียน เด็กๆทุกคนทานข้าวแล้วต้องล้านจานช้อนเองนะคะ แล้วที่บ้านก็ต้องมีงานบ้านทำทุกคน ของลูกพี่ ถูบ้าน ให้อาหารปลาค่ะ (คุณครูบอกว่าต้องให้เพิ่มอีก น้อยไป ^^") เพื่อให้เด็กรู้จักว่าการอยู่อาศัยร่วมกัน ทุกคนควรช่วยเหลือกันในการทำหน้าที่ต่างๆภายในบ้าน