Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 10 of 23

Thread: Review สารพัดกิจกรรมสำหรับน้องวัย 0-16 เดือน

Hybrid View

  1. #1
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    142
    น้องฝ้าย
    พี่เข้าใจนะ ถ้าจะเปรียบระบบ healthcare system ของเมกากับไทยอ่ะ เปรียบกันไม่ได้เลย ถึงแม้พี่จะอยู่ตรงนี้ พี่ก็ยังรู้สึกว่า ระบบของไทยน่ะสุดยอดแล้ว ส่วนเรื่องคลอดลูกน่ะ แว้ก พี่อยากกลับไปคลอดที่ไทยจะตาย ได้ยินประสบการณ์คนคลอดลูกที่เมกาแล้วน่ากลัว คือมันเลือกไม่ได้ไง ว่าจะผ่าคลอดหรือยังไง นอกจากครรภ์มีปัญหาน่ะถึงจะเลือกผ่าได้ (ล่าสุดได้ยินพยาบาลที่คลินิคทำฟันเล่าให้ฟังว่าเค้าคลอดแบบธรรมชาติ หมอทำไงไม่รู้ บล็อกหลังพลาดสองครั้ง แล้วบล็อกไม่ได้อีก เค้าต้องทนเจ็บ 35 ช.ม.จนกว่าจะคลอดน่ะ พี่ฟังแล้วหืม ถ้าเป็นพี่นี่คงแกล้งเป็นลมตายอ่ะ ตั้ง 35 ช.ม. หมอยังไม่ผ่าให้เลย ไม่รู้ทำไม

    ที่พี่บอกว่าพี่ดีใจที่ได้เลี้ยงลูกที่นี่ เหตุผลอย่างเดียวเลย คือมันทำให้เราแกร่งอ่ะ เลือกที่จะช่วยเหลือตัวเองก่อนที่จะไปรพ. หรือคิดจะไปหาหมอนั่นแหละจ้ะ ที่พี่หมายถึงในเม้นท์ก่อน ส่วนเรื่องคลอดหรือเลี้ยงลูกที่ไทย ที่ดีที่สุดคือ อยู่ใกล้กับพ่อแม่พี่น้อง เหนื่อยก็ยังมีคนช่วยเลี้ยง ให้ได้พักบ้าง ไม่เครีียดมากจนเกินไป มันก็มีทั้งดีและไม่ดีแตกต่างกันไปอ่ะจ้ะ

    ส่วนเรื่องพี่เลี้ยง อืม ก็ต้องค่อย ๆ ฝึกกันไปเนอะ ให้คนอื่นเลี้ยง มันจะไม่ได้ดังใจอย่างที่เราต้องการเสมอ ส่วนเรื่องขับรถไปรร. น้องฝ้ายไม่ได้หัดเค้านั่งคาร์ซีทเหรอ ถ้าไม่เคย จะมาหัดป่านนี้แล้วเค้าจะยอมมั้ยเนอะ พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่มันปลอดภัยจริง ๆ จ้ะ ที่ไทยเรายังไม่มีเป็นกฏหมายบังคับใช่เป่าเรื่องคาร์ซีทเนี่ย จริง ๆ มีมันก็ดีเนอะ แต่ว่าก็อีกล่ะ เรายังโตกันมาแบบไม่มีคาร์ซีทได้เลย

    เด๋วพี่จะกลับไปอ่านที่กระทู้นั้นก่อน ที่ฝ้ายโพสต์ไว้อ่ะ ยังไงเอารูปตัวน้อยมาอัพเดทมั่งเน่อ จุ๊บ ๆ จ๊ะ

  2. #2
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3,485
    พี่เป็นคนที่เลี้ยงลูกเองมากับมือ ขอย้ำว่าเลี้ยงเองแบบไม่มีพี่เลี้ยงด้วยจนลูกคนโตอายุได้ 3 ขวบและคนเล้กได้ ขวบเศษๆถึงได้มายอมมีพี่เลี้ยง คุณแม่พี่ยังแปลกใจมากพูดเลย "ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเลี้ยงลูกเองได้" เพราะว่าที่บ้านพี่จะรู้ว่าพี่อ่ะคุณหนูมาก ทำอะไรก้อไม่เป็น และไม่อยากทำด้วย ฮิๆๆ สาเหตุที่ไม่อยากมีพี่เลี้ยงคือ

    1. เป็นคนที่ห่วงลูกมาก นอยด์ไปหมดกลัวเค้าเลี้ยงลูกเราไม่ดี กลัวไม่สะอาด กลัวเค้าแอบตีลูกเรา
    2. บอกตรงๆว่าจะอิจฉา มากถ้าลูกติดพี่เลี้ยง จะไม่อยากให้ลูกเรา ติดใครมากไปกว่าเราเลย
    3. อยากจะเป็นคนแรกที่ได้ยินคำพูดแรกของลูก ก้าวเดินในก้าวแรกของลูก และพัฒนาการต่างๆของลูกด้วยตัวเองแทนที่จะเป็นพี่เลี้ยงค่ะ (ยกให้สามีกับคุณตาคุณยาย ที่ยอมให้ได้ )

    พี่เห็นด้วยและคิดเหมือนน้องอ้อ เรื่องที่อย่าสอนให้ลูกกลัว แต่พี่จะสอนให้เค้ามีเหตุผลมากกว่า อย่างตอนเล็ก เวลาที่เค้าดื้อไม่ฟังเรา แต่ว่าอยากลองเช่นจะเอามือใส่เข้าไปในพัดลม พี่ก้อจะกระดาษมาทำใบพัดแล้วแสดงให้เค้าดูว่าใบพัดของพัดลมจะ ปัดมือของลูกแบบนี้นะแต่ว่าใบพัดของจริงเนี้ยมันแข็งกว่านี่อีกลองจับดูซิ แล้วก้อปิดพัดลมให้เค้าจับใบพัดดู เพราะฉะนั้นมันต้องเจ็บน่าดูเลยนะถ้ามันตัดมือลุกเนี้ย ถ้าไม่เชื่อลูกลองเอามือใส่ก้อได้ อ่ะลองดูเลย และเค้าก้อจะไม่ทำ

    เห็นคุณ cottonchef บอกว่าลูกปีนตัวจะกินนมตอนที่ขับรถอยู่น่าจะให้ลูกนั่ง car seat นะค่ะของลูกพี่เค้านั่งมาตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ พี่ไม่เคยอุ้มลุกเลยแม้กระทั่งว่าเราไม่ได้ขับรถเองก้อเถอะ ปลอดภัยกว่าเยอะเลย และลุกพี่เค้าก้อจะชินค่ะ ใหม่ๆทะเลาะกับคุณแม่พี่จะตายเรื่องนั่ง car seat เนี้ยเพราะคุณยาย เธอบ่นหาว่า "มัดหลานเธอ ไม่ให้ได้กระดิกกระเดี้ยไปไหน" แต่ว่าพี่ไม่กับคุณสามีไม่ยอมจนท้ายสุดเธอก้อต้องยอมค่ะ

    คราวหลังแทนที่จะบอกว่าตำรวจจะจับให้แกล้งบอกว่า "ถ้าหนูปีนขึ้นมาบนตัวคุณแม่อีกตอนที่คุณแม่กำลังขับรถเนี้ย มันจะเกิดอุบัติเหตุได้นะค่ะ แล้วลุกก้อจะเจ็บตัวคุณแม่กับพี่เลี้ยงก้อจะเจ็บตัวกันหมด และเราต้องไปนอนโรงพยาบาลไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนกันอีก ลูกคงไม่อยากเจ็บตัวและไม่อยากไปนอนที่โรงพยาบาลใช่มั้ยค่ะ" ดีกว่ามั้ย

    และอีกอย่างเด้กในวัยนี้ 2-3 ขวบกำลังอยู่ในวัยที่อยากรู้อยากเห็นและเค้าจะชอบถามอันนี้น้องสาวพึ่งโทรมาคุยเมื่อไม่นานมานี่เอง ว่าลุกชายเค้าอายุได้ 2 ขวบ 4 เดือน ถามไม่หยุด "ทำไมเป็นอย่างนั้น ทำไมเป็นอย่างนี้ ทำไม "ตลอดเวลาและเค้าจะทำยังงัยดี สำหรับพี่พี่ใช้วิธี "ถามกลับค่ะ" เช่น วันก่อนหลานชายมาที่บ้าน "อาอี๊ครับอันนี้คืออะไร" จับตุก๊ตาไดโนเสาร์สีเขียวขึ้นมาถามพี่ "แล้วน้องต้าร์คิดว่ามันคือตัวอะไรละครับ" เค้าก้อตอบกลับว่า "ตาต้าว่ากบ" เราถามกลับอีก "ทำมั้ยถึงคิดว่าเป็นกบละครับ" "มันตัวเขียว" " แต่ว่าน้องดูให้ดีๆนะ เห้นมั้ยว่ามีหางยาวด้วย กบมีหางยาวๆมั้ยครับ" "ไม่มีครับ" "อาอี๊ก้อว่าไม่น่าจะเป็นกบ แล้วที่นี้น้องคิดว่ามันคืออะไรครับ" สำเร็จค่ะทำท่าคิดไหญ่เลย พี่ก้อเลยเฉลย "มันคือไดโนเสาร์ครับ" เค้าก้อทำพยักหน้าเสร็จแล้วเค้าก้อวิ่งจู้ดไปเลย นี่แหล่ะค่ะจะเป็นการสอนให้เค้ารู้จักคิดและสังเกตุไปในตัวด้วยแทนที่เราจะตอบเค้าหมดทุกอยาง

    โอ้ย...พูดเรื่องลูกเนี้ย ยาววววววว ค่ะไม่มีวันจบในแต่ละช่วงอายุก้อจะมีอะไรที่ให้มาท้าทายตลอด ยิ่งตอนนี้ลูกพี่คนโตย่างแปดขวบเห็นเพื่อนเธอบางคนมีโทรศัพท์มือถือใช้แล้ว เธอก้อยากจะมีบ้าง พี่ก้อไม่ปฎิเสธ แต่มีข้อแม้ว่า "จะต้องเก็บเงินค่าขนมซื้อโทรศัพท์เองหรืออย่างน้อยออกครึ่งหนึ่งและพี่จะออกให้อีกครึ่งหนึ่ง (พี่ให้ค่าขนมไปโรงเรียนวันละ 20 บาท) และจะต้องรับผิดชอบค่าโทรศัพท์เองด้วย ถ้าเค้าทำได้ก้อจะให้ค่ะ" ปรากฎว่าอึ้งค่ะ เธออึ้ง ตอนหลังเค้าก้อมาถามว่า "แล้วเมื่อไหรเค้าถึงจะมีโทรศัพท์ได้" พี่ก้อบอกว่าเมื่อตอนอายุ 12 ปี หรือขึ้นอยู่กับว่า mummy daddy เห็นว่าสมควรแล้ว ถามอีกแล้วเมื่อไหรที่จะเรียกว่า "สมควร"แล้วละ "ก้อตอนที่ยูสามารถรับผิดชอบและสามารถจัดสรรเงินค่าขนมของยูได้เมือ่ไหรนั้นแหล่ะเพราะว่ายูจะต้องจ่ายตังค์ค่าโทรศัพท์เองค่ะ" เค้าก้อเข้าใจค่ะ คิดว่าน่าจะยื้อเวลาไปได้อีกพักหนึ่งแหล่ะก่อนที่เธอจะกลับมาขออิกที ตอนนี้ได้แต่หวังว่าเธอจะยังเก็บเงินได้ไม่ครบเร็วนะ ฮ่าๆๆ


  3. #3
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3,485
    โอ้...ลืมเล่าอีกเรื่องมีเพือนเค้าแต่งงานกับคนสวืเดนและอยู่ที่ประเทสสวีเดนค่ะ ตอนที่เค้าเจ็บท้องจะคลอดลูกนั้น หมอที่โน้นไม่ยอมผ่าให้ค่ะ ทั้ๆที่เห็นจากอัตราซาวน์แล้วว่าเด้กตัวโตมาก เพื่อนพี่สูง 155 เอง แต่เค้าก้อไม่ยอมผ่าตัดให้จนเพื่อนพี่ "มดลูกแตก" สลบไปสองวันเต็มๆหมอถามสามีเลยว่ายูจะเอาแม่หรือว่าจะเอาลูกไว้ ท้ายสุดก้อรอดมาได้ทั้งแม่ทั้งลูกแต่เพื่อนพี่ก้อไม่สามารถมีลูกได้อีกต้องตัดมดลูกทิ้งไปและลูกเค้าน้ำหนักแรกคลอด 5.4 กิโละค่ะ คุณพระ ช่วยยังงัยก้อก้อคลอดที่เมืองไทยนี่แหล่ะ เลือกวันคลอดก้ได้ (ถ้าผ่าคลอด) หมอก้อเชี่ยวชาญกว่าเพราะว่าเจอเคสเยอะกว่า

  4. #4
    wawe's Avatar
    wawe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    685
    สมัยนี้คุณแม่หลาย ๆ ท่านโชคดีนะคะ ที่มีความคิดเลี้ยงลูกแบบผสมผสานทั้งทางตะวันตก และตะวันออก ในการระมัดระวัง ไม่ระแวง ใช้เหตุและผลในการฝึก การสอน แสดงอารมณ์รักผูกพัน โอบกอด จูบหอมลูก ๆ บอกรักกันบ่อย ๆ สมัยก่อนปู่ ย่า ตา ยาย พ่อแม่ ในหลาย ๆ ครอบครัว จะเขินอายในการกอด จูบ บอกรักกัน เวลาจะบอก หรือสั่งสอนอะไรก็จะประมาณว่าผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน ต้องเชื่อ ต้องฟัง ถ้าลูก ๆ หลาน ๆ พูดขัดแย้งก็จะบอกว่าเถียง เฮ้อ

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    142
    Quote Originally Posted by wawe View Post
    สมัยนี้คุณแม่หลาย ๆ ท่านโชคดีนะคะ ที่มีความคิดเลี้ยงลูกแบบผสมผสานทั้งทางตะวันตก และตะวันออก ในการระมัดระวัง ไม่ระแวง ใช้เหตุและผลในการฝึก การสอน แสดงอารมณ์รักผูกพัน โอบกอด จูบหอมลูก ๆ บอกรักกันบ่อย ๆ สมัยก่อนปู่ ย่า ตา ยาย พ่อแม่ ในหลาย ๆ ครอบครัว จะเขินอายในการกอด จูบ บอกรักกัน เวลาจะบอก หรือสั่งสอนอะไรก็จะประมาณว่าผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน ต้องเชื่อ ต้องฟัง ถ้าลูก ๆ หลาน ๆ พูดขัดแย้งก็จะบอกว่าเถียง เฮ้อ
    นี่ล่ะค่ะพี่ เห็นหนึ่งในเหตุผลที่ตอนนี้โอ๋กอดหอมลูกแบบไม่มีขีดจำกัด เค้าหลับก็แอบไปหอม ไปคิสที่ปาก คือรักมาก ก็แสดงออกมากว่ารักเค้ามาก จนเด๋วนี้ขอคิสแล้วเค้าจะส่ายหัวแล้ว คงจะรำคาญ คืออยากทำเพราะเติบโตมาในครอบครัวที่อายที่จะแสดงออกแบบนี้น่ะค่ะ เลยอยากแสดงออกอย่างเต็มที่กับลูก ก็กลัวเหมือนกันนะว่าจะมากเกินไป แต่ก็คิดว่า สำหรับแม่ไม่มีมากเกินไปหรอก ก็คงรักได้เท่านี้แหละ มากกว่าหรือน้อยกว่านี้ไม่ได้ละ


    พี่นีน่า อ่านเรื่องการเลี้ยงลูกของพี่แล้วต้องขอชื่นชมค่ะ เพราะอยู่เมืองไทยนี่พร้อมทุกอย่าง ครอบครัวอยู่ครบ ค่าจ้างสำหรับพี่เลี้ยงก็ไม่แพง อ็อพชั่นขนาดนั้น แต่พี่เลือกจะเลี้ยงด้วยตัวเอง มันเป็นความสุขและภาคภูมิใจที่ยากจะเอ่ยเป็นคำพูดเนอะพี่

  6. #6
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    94
    หนีไปเที่ยวแป๊บเดียว กลับมากระทู้ตัวเองต้องเอาปากกามาจดยิกๆ คห.มีประโยชน์ เพียบ คุณฝ้ายคะน้องโดดมาหานมกินเวลาขับรถ (-_-)' อันตรายมากๆ อ้อเพิ่งกลับมา เดี๋ยวจะมาต่อภาคสองให้ค่ะ รอแป๊บนึงน๊า (^^)
    Quote Originally Posted by srichardson View Post
    โอ้...ลืมเล่าอีกเรื่องมีเพือนเค้าแต่งงานกับคนสวืเดนและอยู่ที่ประเทสสวีเดนค่ะ ตอนที่เค้าเจ็บท้องจะคลอดลูกนั้น หมอที่โน้นไม่ยอมผ่าให้ค่ะ ทั้ๆที่เห็นจากอัตราซาวน์แล้วว่าเด้กตัวโตมาก เพื่อนพี่สูง 155 เอง แต่เค้าก้อไม่ยอมผ่าตัดให้จนเพื่อนพี่ "มดลูกแตก" สลบไปสองวันเต็มๆหมอถามสามีเลยว่ายูจะเอาแม่หรือว่าจะเอาลูกไว้ ท้ายสุดก้อรอดมาได้ทั้งแม่ทั้งลูกแต่เพื่อนพี่ก้อไม่สามารถมีลูกได้อีกต้องตัดมดลูกทิ้งไปและลูกเค้าน้ำหนักแรกคลอด 5.4 กิโละค่ะ คุณพระ ช่วยยังงัยก้อก้อคลอดที่เมืองไทยนี่แหล่ะ เลือกวันคลอดก้ได้ (ถ้าผ่าคลอด) หมอก้อเชี่ยวชาญกว่าเพราะว่าเจอเคสเยอะกว่า
    พยักหน้าหงึกหงักกับ คห.14 ของพี่นีน่า อ้อก็เลี้ยงเองกับมือ พี่เลี้ยงที่คุณปู้คุณย่าจัดหามาให้เป็นแค่มือแค่แขนแทนเราในการเก็บล้าง หรือเตรียมของลูกเท่านั้น(ขนาด"เท่านั้น" นี่ยังเปลี่ยนคนไปจะครบโหลเลยค่ะ)แอบยกเครดิตให้คุณปู่ย่าของลูก ไม่ว่าจะอยู่บ้านเดียวกัน หรือตอนที่อยู่คนละบ้านก็ให้อิสสระในการเลี้ยงดูเต็มที่ แต่กรณีคุณยายคล้ายพี่นีน่าเลยค่ะ รายนี่คนละบ้าน คนละจังหวัดแต่โทรถี่ยิบ กว่าแต่ละเรื่องจะลงตัว เล่นเอาเหนื่อย เป็นมากถึงขั้นจะเอา web cam มาติดที่บ้าน ตจว.ที่อยู่ (จะได้รู้ว่าเธอทำอะไรกับหลานฉันบ้าง..แม่จ้าวว)และอันข้างบนนี้ เจ็บแทนมากๆ...สงสารคุณเพื่อนพี่นีน่าจับใจค่ะ เรื่องนี้อินเป็นการส่วนตัว มดลูกนี่เจ็บเห็นดาวที่สุด หนูว่าหนูอึดแล้ว ยังนอนน้ำตาไหลพรากทีเดียว--จะร้องก็ร้องไม่ออก ได้แต่นอนน้ำตาหยดแหมะ ขอยาแก้ปวดดด พยาบาลก็บอกว่า "ไม่ได้ค่ะ ดี๋ยวคุณหมอจะ or แล๊วว อดทนนิดนะคะ"(ชิ ยูลองมานอนปวดโฮรกกๆ แบบนี้บ้างมั๊ยเล่า พยาบาล)ฝาชีแอบมาค่อนขอดให้แม่ยายฟังว่าถ้าลุกได้สงสัยพยาบาลโดนหักคอจิ้มน้ำพริกไปแล้วนะฮะ แล้วนี่ถึงขั้นมดลูกแตก (*_*) กรณีที่แพทย์ไม่วินิจฉัยให้ผ่า เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เค้าออกมารับผิดชอบอะไรบ้างมั๊ยคะพี่นีน่า แม่เกือบตายแถมมีลูกไม่ได้อีกตลอดชีวิต ..เป็นหนูหายเจ็บเมื่อไร ลุกได้ล่ะจะซู ถอนเสาเข็มโรงพยาบาลซะเลย


    พี่แหวว//พี่โอ๋ อ้อก็กอดเยอะเหมือนกัน จนเดี๋ยวนี้เวลาพี่เค้าทำอะไรผิดนี่จะวิ่งจี๋มากระโดดกอด จุ๊บปากแม่ก่อนเลยแล้วบอกว่า "ร๊ากกก" เหอะ เหอะ วิธีการเอาตัวรอดของเด็กหนึ่งขวบค่ะ


    มีพี่โอ๋ (พี่น้ำหายไปไหนเลย สงสัยจะยุ่งกับเจ้าตัวเล็ก) แล้วเพื่อนๆท่านไหนอีกคะที่คลอดเมืองนอก ขอถามเรื่องแผลค่ะ เป็นยังไง ใครคลอดเอง ใครผ่าบ้างคะ..แผลเป็น เป็นยังไงบ้าง อ้อเคยเห็นแค่ 2 คน..ขอบอกว่าหมอไทยเนียนกว่ามาก

  7. #7
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    142
    น้องอ้อ ถ้าเทียบหมอไทยกับหมอที่เมืองนอก พี่ยกให้หมอไทยนะ คิดว่าเก่งกว่ามาก ส่วนเรื่องคลอด พี่น้ำคลอดที่ไทยจ้า ส่วนพี่นี่คลอดธรรมชาติค่ะ แทบตาย พอคลอดแล้วคุณสามีถึงได้ทำหมันเลยไง ไม่เอาอีกแล้ว หลังคลอดตอนหมอเย็บปากมดลูก พี่สั่นเป็นลูกนกเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

Similar Threads

  1. Replies: 53
    Last Post: 03-08-2021, 03:13 PM
  2. ที่มาของชื่อเดือน ทั้ง 12 เดือน
    By jaew_waw in forum MARS; Study, Work, Sport, Travel ความก้าวหน้า กีฬา ท่องเที่ยว
    Replies: 7
    Last Post: 11-19-2010, 03:34 PM
  3. ให้เช่าห้องที่นิรันดร์เรสิเด้นท์ราม 2 เพียง 2,500/เดือน
    By s.phattarika in forum อสังหาริมทรัพย์ และหาเพื่อนร่วมหอพัก
    Replies: 0
    Last Post: 06-25-2010, 10:17 AM
  4. Replies: 0
    Last Post: 03-22-2010, 05:46 PM
  5. วันนี้วันพระ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 8
    By PREZZO in forum WORLD; Around you เรื่องราวส่วนรวมรอบตัว
    Replies: 4
    Last Post: 07-03-2009, 01:49 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •