>"< กำ ไม่กล้าไปทำแร้นอะ filler อุส่าอยากทำซะหน่อย ฮือๆๆๆ
>"< กำ ไม่กล้าไปทำแร้นอะ filler อุส่าอยากทำซะหน่อย ฮือๆๆๆ
น้องนาเดียจ๋า
ไอ้เรื่องความเจ็บเนี่ย.. มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะคะ บางคนทนได้-บางคนทนไม่ได้
อย่างพี่ทำอะไรก็เจ็บหมดแหละ ขนาดบางอย่างที่เค้าตั้งค่าพลังงานของเครื่องเบาๆพี่ยังเจ็บเลย 555+
โดยปกติการทำFillerเนี่ย เค้าจะทายาชาบนหน้าทิ้งไว้ 30-45นาทีค่ะ
ส่วนเรื่องความเจ็บเนี่ยมันเป็นเพราะ..
พวกFiller จะเป็นสารแบบหนืดๆหนักๆ เวลามันเข้าแทรกสู่ผิวเนี่ยมันก็จะรู้สึกเยอะ
ส่วนเจ้าBotoxเนี่ย จะเป็นสารใสๆเหมือนน้ำเปล่า พอฉีดเข้าไปมันก็ไม่เจ็บ ความรู่้สึกเหมือนเราไปฉีดยาค่ะ คือเจ็บตอนเข็มจิ้มจิ๊ดนึงแต่ตอนที่ยาเข้าสู่ผิวแทบไม่รู้สึกเลย ก็เลยไม่ต้องฉีดยาชา
อีกทั้งความลึกในการฉีดของทั้งสองอย่างก็ต่างกันด้วยค่ะ
เพิ่มเติมอีกนิดหน่อยนะคะ
Filler เป็นสารเติมเต็ม มีหลายอย่างเช่น Hyarulonic a. Calcium Polyacrylamide ซึ่งฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าพวกนี้แหละค่า ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ 1-2 ปีนะคะ ยกเว้น Aquamid จะอยู่ได้ 5 ปี แต่ไม่สามารถเติมผิวหนังตื้นๆได้ เช่นร่องใต้ตาค่ะ ดังนั้นร่องใต้ตาจะเติมได้แค่พวกที่อยู่ได้ 6 เดือนเท่านั้นจ้ะ
ข้อควรปฏิบัติสำหรับFiller
อย่านวดหน้า หรือใช้ทรีทเม้นต์เกี่ยวกับความร้อนหลังฉีด 2 อาทิตย์
ให้ดื่มน้ำมากๆๆๆๆๆๆๆค่ะ พวกนี้เป็นสารอุ้มน้ำ ในช่วง2อาทิตย์แรก ถ้าเราทานน้ำเยอะ มันจะพองตัว และอยู่ได้นานขึ้น ทำให้ไม่เปลือง อิอิ
อย่าไปกดหรือนวดบริเวณนั้นบ่อยๆ เพราะมันจะทำให้ Filler จมหายไปในที่สุดค่ะ
Filler อันตราย + ไหล หรือไม่
Filler ที่เป็น Filler จริงๆนะคะ ไม่ใช่พวกซิลิโคนเหลว หรือคอลลาเจนราคาถูกนั้น ไม่มีอันตราย เพราะเป็นสารที่เนื่อเยื่อเราเองมีอยู่แล้ว เพียงแต่ตามร่องลึกนั้น สารนี้มันเหลือน้อยยยยย จึงทำให้เป็นร่องค่ะ และ Filler ไม่ไหลค่ะ เพราะว่ามันมีคุณสมบัติ Blend กับเนื่อเยื่อได้ดี แต่พวกซิลิโคนเหลวสามารถไหลได้ ( ซิลิโคนเหลวคือสารน้ำที่เค้าใช้ฉีดเข้าไปในถุงซิลิโคนโดยไม่อนุญาติให้ฉีดเข้าเนื้อเยื่อโดยตรงค่ะ แต่เนื่องจากมีราคาถูกมากกว่า Filler เยอะมาก (คิดดูซิคะ Filler 1 ccเติมร่องแก้ม เป็นหมื่น แต่หน้าอกต่อข้างใช้เป็นร้อยซีซีแค่ไม่เท่าไหร่เอง)มีบางแห่งนำมาฉีดเข้าผิวหนังโดยตรงจึงเกิด ไหล อักเสบ และติดเชื้อค่ะ ดังนั้นหากมั่นใจมากว่าเป็น Filler ก็อุ่นใจได้จ้า
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น Filler
1 ขอดูกล่องก่อนฉีด ตัวที่ปลอดภัยเช่น
Aquamid (5 years)
Esthelis
Restylane
Teosyal
Radieasse( 5 year)
Revaness
Juvederm
Perlane
2 ราคา ต้องไม่ต่ำกว่า 10000 บาทต่อ 1 CC ค่ะ เพราะว่าราคาทุนไม่สามารถฉีดได้ต่ำกว่านั้นค่ะ แต่ถ้าราคาถูกอาจเป็น Filler Gradeต่ำได้ค่ะ เพราะฉะนั้น ประหยัดนิดประหยัดหน่อย อย่าเสี่ยงเลยดีกว่าค่ะ
Botox เป็นสารจากแบคที่เรีย Botulinum Toxin A ค่ะ ซึ่งมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อช่ัวคราวค่ะ ดันนั้นจึงสามารถฉีดรักษาได้ทุกสิ่งที่เป็นกล้ามเนื้อค่ะ เช่น รอยย่น (เกิดจากกล้ามเนื้อตื้นตอนเเสดงสำหน้าค่ะ) หน้าเหลี่ยม(เกิดจากกล้ามเนื้อ Massector) เคี้ยวเยอะค่ะ
ข้อดีข้อเสียดังที่กล่าวมาถูกต้องเลยค่ะ
Botox มีกี่ชนิด ทำไมบางที่ฉีดราคาต่างกันมาก แล้วจริงๆมันต่างกันไหม
Botox ในท้องตลาดมี 5 ชนิดค่ะ แต่ที่ผ่านอย. ปลอดภัยชัวร์มี 2 ชนิดค่ะ
1 BOTOX tm Allergan เป็นBotox กล่องม่วง ของเมกา ตัวนี้ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด ฉีดได้แม้กระทั่งแผลผ่าตัดที่ไม่ต้องการให้แผลแยก ข้อเสียคือแพงค่ะ สำหรับตัวนี้ราคาต่อยูนิต ไม่สามารถต่ำกว่า 180 บาทได้แน่นอน แต่มีบางที่อ้างว่าเมกา แต่ขายถูกมาก นั่นเป็นไปไม่ได้ค่ะ จะมีเพียงบางครั้งเท่านั้นที่บริษัท Allergan คนนำเข้า Botox จัดงานโปรโมชั่น อาจจะมีถูกกว่าได้บ้างแต่ก็เล็กน้อยเท่านั้นค่ะ
2 Dysport Botox UK ค่ะ เป็นของอังกฤษ อันนี้ก็ผ่าย อย แล้วค่ะ ข้อดีเหมือน Botox USA และถูกกว่าประมาณ 10-15% ข้อเสียคือจำนวนซีซีที่ต้องฉีดเยอะกว่า เลยอาจทำให้เขียวช้ำ หรือเกิดการไหลของยาได้ถ้าฉีดในบริเวณเล็กๆเช้นหางตาค่ะ อันนี้เหมือกับการฉีดกล้ามเนื้อใหย๋เช่น กราม น่อง รักแร้(ลดเหงื่อ) ค่ะ
3 Neuronox Botox Korea เป็นของเกาหลีค่ะ อันนี้ไม่ผ่านอย. แต่ก็ปลอดภัยพอควร คือผ่านอย. ของเกาหลีแล้ว ( อ่าว) แต่ก็ไม่ควรนำมาฉีดหน้า แม้จะเป็นการฉีดกรามค่ะ ข้อดีคืราคาถูกกว่า Botox USA 30%up ค่ะ
4 ฺBotoxจีน อันนี้ไม่ผ่านอะไรกะใครเค้าเลย เป็นBotox ที่อันตรายพอควร คือสามารถซึมเข้าสู่ร่างกายได้ คือโมเลกุลมันจะเล็กค่ะ และอยู่ได้แป๊ปเดียวก็สลาย (ก็โมเลกุลมันเล็กไงคะ ) อันนี้ ... ไม่ปลื้มค่ะ
5 Botox ทำกันเอง ใช้กันเอง ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ อันนี้อันตรายเข้าไปยิ่งกว่าของจีนอีกค่ะ เพราะเรายังไม่ก้าวหน้าพอที่จะทำ แต่ก็มีบางแห่งใช้ พวกนี้จะฉีดในราคาถูกมากกกกกกกก เช่นฉีดกรามไม่เกิน 5000 ไรเงี๊ยะค่ะ และมักจะไม่ใช่แพทย์เป็นคนฉีด เพราะคงไม่มีหมอมาเสี่ยงตัวเองแบบนี้ค่ะ ไม่คุ้ม
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น Botox อะไร
1 ขอดูขวด
Botox USA สีม่วง เขียนว่าเป็นของ Allergan Co.
Botox Korea สีเขียวกับชมพู
Botox UK ( dysport ) สีน้ำเงินขีดๆ
Botox จีน ขวดเล็กๆกว่าชาวบ้านเค้า ดูก๊องแก๊งๆ
Botox ไทย ยังไม่เคยเห็นเหมือนกันค่ะ แค่ดีเทลยาเค้าเล่าให้ฟัง
เท่านั้นก็จะรู้ค่ะ
Botox อันตรายมั๊ย ฉีดได้มากสุดเท่าไหร่
Botox เป้นสารที่ US FDA, Thai FDA Approved มาเกือบ 20 ปีแล้วค่ะ ดังนั้นวางใจในความปลอดภัยได้ค่ะ แต่ต้องฉีดกับแพทย์เท่านั้นนะคะ เผลอไปฉีดโดนเส้นประสาทแล้วแย่เลย อีกอย่างคือ ต้องไม่ใช้จำนวนที่มากไป ไม่งั้นจะตาตก ( เหมือนดาราคนนั้น ^.^") ดังนั้นเวลาจะฉีดควรบอกแพทย์ค่ะว่า ไม่ชอบเยอะๆๆๆๆ ย้ำๆไปเลยค่ะว่าไม่อยากให้ไม่เป็นธรรมชาติ ไรเงี๊ยะ หมอจะได้ระวังมากเป็นพิเศษคร่า ( แต่หมอก็ระวังอยู่แร้วน้า ^.^) โดยจำนวนที่ควรฉีดคือ ไม่เกิน 200 Unit ต่อครั้งนะคะ
สิ่งน่ารู้
Botox 1 ขวดมี 100 Units
Dysport 1 ขวดมี 250 Units ค่ะ
เลิศมากเลยค่าทั้งคุณkaithy และน้องแอน น่ารักที่สุด เดี๋ยวพี่ปักหมุดไว้ให้เลยดีป่ะจ้ะแต้งกิ้วสำหรับข้อมูลจ้ะ
โอ้..ลืมขอถามหน่อยจ้าที่บอกว่า บางตัวอย่าง Aquamid (5 ปี) นี่หมายความว่าฉีดแล้วอยู่ได้ 5 ปีเหรอค่ะ แล้วBotox เนี้ยเราฉีดเติมตรงร่องแก้มได้มั้ยค่ะ หรือว่าเราจะเอา Filler มาฉีดตรงที่เราอยากฉีดโบท๊อกซ์ อย่างที่หางตา หน้าผาก จะได้มั้ยค่ะคุณ kaithy
ขอบคุณนะค๊ะ ขอ้มูลทั้งหมดละเอียดมากค่ะทำให้คนที่กำลังคิดจะทำตัดสินใจได้เร็วขึ้นและถี่ถ้วนขึ้นค่ะ
เดียร์เด๋วพี่ไปลอง filler ก่อนนะแล้วจะมาบอกเล่ากันในนี้แหละว่ามันเจ็บแค่ไหน
แต่ต้องท่องไว้เป็นคาถา ว่าความสวยมันมักจะมากับความทรมาณ
http://www.bloggang.com/viewblog.php...roup=1&gblog=2
พอดีไปค้นมาจาก google ค่ะเลยเอามาลงเผื่อจะช่วยอะไรได้มั่ง
อิอิอิ ลองตามลิ้งไปนะค๊ะ
มาเกาะกระทู้ค่ะ แล้วมีใครทราบบ้างค่ะ ว่า Portrait เป็นยังไง เท่าที่พอจะทราบมาว่า เป็นพลังงานไนโตรเจนพลาสมา สร้างผิวขึ้นมาใหม่ พร้อมลดริ้วรอยนะค่ะ
Aquamid เป็น Filler ชนิด Polyacrylamide ซึ่งไม่เหมือนกับFiller ทั่วไปที่เป็น Hyarulonic ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติที่อยู่ได้นานกว่า เพราะหนืดกว่ามาก แต่นั่นก็แหละค่ะ หนืดมากก็ฉีดตรงที่มันเป็นจุดผิวหนังบางๆไม่ได้ เพราะอาจจะจับได้เป็นก้อน ดังนั้น Aquamid เหมาะกับการฉีดจมูก คาง ไรงี้ (ซึ่งอีชั้นได้ฉีดมาแร้นนนทั้งคู่^.^") ซึ่งอยู่ได้ 5 ปีจริงๆค่ะ ตอนนี้ฉีดจมูกมา 3 ปีแล้ว ยังไม่ลดลงเลย....
Botox ไม่สามารถฉีดเติมร่องแก้มได้ค่ะ แต่สามารถฉีดLiftหน้าได้ ซึ่งก็มีผลทำให้ร่องแก้มลดลง (ลองเอานิ้วชี้ดึงจุดที่นูนที่สุดของแก้มขึ้นเฉียงออก 45 องศาซิคะ จะเห็นว่าถ้าหน้ายกขึ้น ร่องแก้มจะลดลงค่ะ ) และการที่จะเอา Filler มาฉีดจุดที่หางตา หน้าผากนี่จะได้ในกรณีเดียวค่ะ คือการที่รอยย่นเหล่านั้นเป็น Deep Permanent Line คือการที่เกิดรอยลึกถาวรโดยไม่แสดงสีหน้า หรือเรียกว่าไม่ยิ้มก็ย่นแล้วหน่ะค่ะ นั่นคือ เกินBotox จะเยียวยา เราถึงจะค่อยมาใช้ Filler ค่ะ แต่โดยทั่วไปจะเติมแค่หน้าผาก และ หว่างคิ้วค่ะ ไม่ค่อยมีใครเติมหางตา เนื่องจากผิวหนังบางเกินไป และไม่ยือหยุ่นค่ะ
สรุปคือ ย่นๆ ร่องน้อยๆ ---- Botox
ร่องเห็นๆ ต้องการการ Fill-------Filler
มีอะไรถามได้จ้า