ที่ตั้งคำถามนี้ขึ้นมาเพราะตอนที่พี่คุยกันกับเพื่อนว่า ก่อนที่พี่จะไปทำคิ้ว (แบบกึ่งถาวร) เนี้ยพี่ศึกษาและหาข้อมูลเป็นเวลากว่าสามเดือนก่อนที่จะตัดสินใจทำ เหมือนกับที่ไปฉีดโบท๊อกซ์เหมือนกันก็ทั้งหาข้อมูล ศึกษาวิธีการทำการฉีดจากที่ต่างๆ ทั้งสอบถามจากเพื่อน จากผู้รู้เช่นคุณหมอหลายๆหมอด้วยรวมทั้งข้อมูลจากน้องเคท น้องแอน น้องไบร์ทและบรรดาน้องๆที่ทำงานในวงการยา (ต้องขอบใจมา ณ ที่นี้ด้วย) และหาข้อมูลจากอินเตอร์เนท ซึ่งก็ใช้เวลามากว่าสามเดือนเลยนะจนเจอคุณหมอที่คุยแล้วเราไว้ใจว่าเค้ารู้จริงและไม่คิดแต่เรื่องจะขายของหรือขายคอร์สให้เราอย่างเดียว ก่อนที่จะตัดสินใจทำแต่กับเพื่อนพี่อีกคนหนึ่งเนี้ยที่แทบจะเรียกว่าเป็น "เจ้าแม่ศัลยกรรม" เลยแหล่ะที่เวลาเค้าทำอะไรต่างๆอย่างเช่น Vaser, ฉีดคาร์บ๊อกซี่, เสริมหน้าอก, ทำตาสองชั้น ทำคาง เค้าไม่เห็นจะคิดหน้าคิดหลังอะไรเลยคือชั้นอย่างทำชั้นก้ทำและชั้นมีเงินด้วย อะไรแบบเนี้ย เคยไปยืนมองเธอทำ เทอร์มาจหน้าท้อง เธอนอนเอามือหนุนหัวเฉย ถามว่าไม่ร้อนเหรอเธอบอกว่า "เจ็บแต่ว่าทนได้ ป้าดดดดดด" เลยไม่เข้าใจว่า "ไม่กลัวหรืองัยวะค่ะ" เรานะกลัวแทบตายแค่ไปฉีดโบท๊อกซ์และคุณหมอแปะ "ยาชา"แล้วนะ ยังต้องหาคนมา"บีบมือ" เลยเพราะว่า "เสียว" จ้ะ ฮิๆๆๆ
เลยอยากรู้ว่า
1.สาวๆแถวนี้ใช้เวลาตัดสินใจกันนานมั้ยจ้ะ
2.ทำไม่ถึงคิดว่าเราต้องทำศัลยกรรมความงามแล้ว เช่น หางตาตก หรือว่าพุงยื่น, หรือว่าสามีบ่น
3.เหตุผลที่ตัดสินใจทำศัลยกรรมความงามกับคุณหมอคนนั้น เช่น คุณหมอหล่อ, ราคาถูกดี, เพื่อนทำที่นี้เยอะ
4.คิดว่าอายุซักเท่าไหรถึงจะสมควรทำศัลยกรรมความงาม
เอาของพี่ก่อนเลยนะ
1. ตัดสินใจมากกว่าสามเดือน
2. คิดว่าถึงเวลาที่ควรจะต้องไปเสริมความงามกันซักที เพราะทนมองความเหี่ยวของหน้าตัวเองไม่ไหว (ร่องแก้มเริ่มลึก หน้าผากและหว่างคิ้วเริ่มมีริ้วรอยเล้กน้อย)
3. ได้ไปลองคุยกับหลายหมอแล้วเชื่อว่าคุณหมอคนนี้แหล่ะที่ตอบโจทย์เราได้ทุกข้อ (เพราะว่าเจ้ ซักละเอียดจ้ะ)
4. คิดว่าอายุ 60 ค่อยทำแต่ว่าทนไม่ไหวแล้วจ้า![]()