รับทราบค่ะ รอสเต็ปที่สามต่อไป ผู้หญิงอย่าหยุดสวยนะคะ
รับทราบค่ะ รอสเต็ปที่สามต่อไป ผู้หญิงอย่าหยุดสวยนะคะ
จากเสต็ปที่ Concealer กับ Foundation เราก้อมาเริ่มขั้นตอนของแป้งกันนะจ้ะ
Step 3 Powder สำหรับใต้ดวงตา การไม่ให้ Concealer จับเป็นคราบแต่ว่าติดทนนานให้ลงแป้งฝุ่นสีออกเหลือง และใช้สีออกขาว สำหรับคนที่ผิวขาวมาก ทับลงไป Concealer โดยใช้แปรง eye blender หรือ mini powder puff
ปัดแป้งที่เหลือโทนสีเดียวกับผิวให้ทั่วหน้าส่วนที่เหลือด้วย Powder puff หรือแปรง powder
ถ้ารู้สึกว่าผิวแห้งให้ปัดแป้งเฉพาะบริเวณรอบๆจมูกและหน้าผากเท่านั้น
Step 4 Blush ใช้วิธีการยิ้มแล้วปัดสีแก้มโทนธรรมชาติลงบนบริเวณพวงแก้มด้วยแปรง blush ปัดขึ้นไปจนถึงไรผมและวปัดลงเพื่อให้สีกลมกลืน
เพื่อให้สีติดทนนาน ปัดแก้มในโทนสีสว่าง ลงบนพวงแก้มเท่านั้น ทับลงบนสีธรรมชาติที่ปัดไว้ครั้งแรก ถ้าต้องการเพิ่มความสดใสให้กับผิวให้ปัด Shimmer ลงบนโหนกแก้มด้วย
เคล็ดลับคือ เคาะสีปัดแก้มส่วนเกินออกจากแปรงก่อนที่จะปัดลงบนแก้ม สำหรับคนที่ผิวแห้ง blush แบบครีมก้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเช่นกัน
Step 5 Lipstick/Gloss เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดและทำให้ริมฝีปากเรียบเนียน โดยการที่ใช้ผ้าเปียกน้ำมาถูลงบนริมฝีปากเบาๆเพื่อขัดลอกเซลผิวที่ตายแล้วให้หลุดไป
ลิปสติกโทนสีกลางๆ ลิปเชียร์ ลิปกลอส สามารถทาได้จากแท่งโดยตรง ส่วนสีที่เข้มๆหรือโทนสีที่สว่างให้ใช้แปรงในการทาเพื่อความเรียบเนียนของสี
Step 6 Lip liner เพื่อที่จะให้รอมฝีปากดูเป็นธรรมชาติและป้องกันไม่ให้สีของลิปสติกเลยขอบปาก ให้วาดขอบปากด้วยดินสอเขียนขอบปาก "หลังจาก" ทาลิปสติกแล้ว ใช้แปรงเกลี่ยและทำให้สีขอบที่เข้มดูเนียนขึ้น
เคล็ดลับ ใช้ริมฝีปากธรรมชาติ (ด้านใน) ของคุณเป็นแนวทางในการเลือกสีลิปสติก สีที่สวยทีสุดสำหรับคุณคือ สีที่เป็นสีเดียวกับริมฝีปากคุณหรือเข้มกว่าเล็กน้อย
สำหรับคนที่ริมฝีปากบาง เลือกใช้โทนสีลิปสติกใน โทนสีอ่อนหรือปานกลางและหลีกเลี่ยงโทนสีเข้มที่จะทำให้ปากคุณยิ่งดูเล็กลงไปอีก
ถ้าต้องการให้ลิปสติกหรือกลอสติดทนนานให้วาดขอบปากและเตอมสีด้านมนด้วยดินสอเขียนขอบปากก่อนทาลิปคัลเลอร์
มารอพี่นีน่าพร่งนี้ด้วยคนคะ ^^
^^ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีนะคะ ^^
Step 7 Brows ใช้แหนบปลายแหลมถอนขนคิ้วที่ไม่เป็นระเบียบบริเวณหัวคิ้วและใต้ท้องคิ้วออก โดยให้ถอนในทิศทางเดียวกับที่เส้นขนคิ้วขึ้นด้วยความรวดเร็ว
ตกแต่งคิ้วโดยใช้แปรงเขียนคิ้วแตะสีอายชาโดว์ที่ใกล้เคียงกับสีผมตามธรรมชาติปัดลงบนคิ้ว สำหรับคนที่คิ้วบางให้ใช้แปรงเติมสีที่คิ้วแทน
วิธีการลงสีเริ่มจากหัวคิ้วแล้วปัดไปตามธรรมชาติของคิ้วโดยปัดลงไปอย่างเบามือ (หัวจาง หางเข้ม)
เคล็ดลับ ถ้าต้องการให้คิ้วเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นให้ปัดอายชาโดว์แบบฝุ่นทับลงไปอีกชั้นหนึ่ง ถ้าสีของคิ้วดูแข็งเกินไปให้ใช้ พัฟกดแป้งฝุ่นทับลงไปบนคิ้วเพื่อให้สีจางลง และดูเป็นธรรมชาติขึ้น
Step 8 Eye shadow ใช้แปรงปัดสีอายชาโดว์อ่อนตั้งแต่แนวขนตาไปจนถึงใต้ท้องคิ้ว ปัดอายชาโดว์สีกลางลงบนเปลือกตาจนถึงชั้นพับตาด้วยแปรงอายชาโดว์
เคล็ดลับ ทาแป้งฝุ่นลงบนเปลือกตาก่อนลงอายชาโดว์ จะช่วยทำให้การตกแต่งดวงตาดูเรียบเนียนและป้องกันไม่ให้สีอายชาโดว์จับเป็นคราบ ถ้าต้องการการติดทนนานตลอดทั้งวัน ให้ลองใช้ ครีมอายชาโดว์ลงก่อน อายชาโดว์แบบฝุ่น
Step 9 Eye liner วาดขอบตาบนด้วยอายชาโดว์สีเข้มโดยใช้แปรง eye liner แต่ถ้าต้องการให้ดูติดทนนาน ให้แตะแปรงโดนน้ำสักเล็กน้อยก่อนที่จะแตะสีอายชาโดว์
หลังจากเขียนขอบตาบนแล้วให้ลองมองตรงๆ ถ้ายังมีช่องว่างระหว่างขนตาอยู่ให้เติมสีลงไปเพิ่ม สำหรับคนที่ต้องการเขียนขอบตาล่างให้ดูด้วยว่าเส้นของขอบตาบนและขอบตาล่างมาบรรจบกันพอดีที่หางตาหรือเปล่า
เคล็ดลับ การเขียบขอบตาด้วยสีดำนั้นเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ดวงตาของคุณมีเสน่ห์มากขึ้น ลองเขียนขอบตาสีดำลงบนสีปกติที่คุณใช้ดูแล้วจะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน
Step 10 Mascara เลือกใช้สูตรมาสคาราตามความต้องการของคุณ เวลาปัดมาสคารา ให้ถือแปรงมาสคาราขนานกับพื้นแล้วปัดจากโคนขนตาไปจนถึงสุดปลายขนตา หมุนด้ามแปรงไปด้วยเพื่อทำให้เส้นขนตากระจายออกและไม่จับเป็นก้อน
เคล็ดลับ ให้ดัดขนตาก่อนปัดมาสคาทุกครั้งเพื่อป้องกันขนตาหักงอได้ มาสคาราสีดำจะทำให้ดวงตาของคุณดูโดดเด่น ส่วนสีน้ำตาลจะทำให้ดวงตาของคุณดูนุ่มนวล
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดี ๆ ค่ะ จะเอาไปเลียนแบบ....![]()