ว๊ายยย ขอโต๊ดคร๊า... พึ่งจาเห็น...
หมวยเคยถามหมอมานะคะ เค้าบอกว่า emax ต้องขยันทำอะค่ะ คือเเทอร์มาททำแค่หนเดียวก็รู้ผลเลย แต่ emax ต้องทำหลายหนหน่อยแล้วในระยะยาวผลก็ใกล้เคียงกันมากค่ะ เช่นเทอร์มาททำหนเดียวก็เห็นผลแล้วผลอยู่ไปประมาณ 1-2 ปี แต่ emax จะต้องทำประมาณ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อยผลถึงจะใกล้เคียงเทอร์มาทค่ะ ช่วงแรกๆ ทำห่างกันประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ พอมันอยู่แล้วก็ทำเดือนละหน แล้วก็สองเดือนหนค่ะ ถ้าเทียบแล้วนะคะ ทำทุกๆ 2 เดือนต่อให้ทำไป 2 ปี ก็ยังถูกกว่าเทอร์มาทหนึ่งครั้งที่อยู่ได้ 2 ปีอะค่ะ สรุปคือ ในจำนวนเงินที่จ่ายไปเท่ากัน เช่น ถ้าจ่ายไปกันเทอร์มาท 8 หมื่นบาท จะอยู่ได้อย่างมากที่สุดประมาณ 2 ปี แต่คนปกติปีครึ่งก็เริ่มหมดแล้วค่ะ แต่สำหรับ emax ถ้าจ่าย 8 หมื่น หมวยมองว่าอยู่ได้เกิน 2 ปีค่ะ คือจำนวนครั้งมันทำได้เยอะกว่า ไปย้ำทุก 2-3 เดือนเพื่อคงสภาพมัน ช่วงท้ายๆก็ยังถูกอะค่ะ 3 เดือนหนๆ มันก็ต่ออายุไปเรื่อยๆ แต่มันจะหนักช่วงแรกอะค่ะ คือ2 เดือนแรกอาจจะหมดไปเลย 4 หมื่น เพราะทำเดือนละ 2 หน ไรงี้อะค่ะ แต่อีก 4 หมื่นหลังมันทำ 3 เดือนหน มันเลยอายุยาวมากๆ เงินนี้มันก็อยู่ไปอีก 2 ปี แต่มันลำบากช่วงแรกๆต้องไปบ่อยหน่อย บางคนอาจจะขี้เกียจทำอะค่ะ พอทำได้ระยะแล้วก็นานๆ ไปทีก็ได้แล้วค่ะก็จะสบายขึ้น ส่วนราคาหมวยกะเอาคร่าวๆ นะคะ
ส่วนอันนี้คือจากที่น้องที่เป็นหมอผิวหนังเอธิบายให้ฟัง ซึ่งหมวยก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรเรื่องวิธีการทำงานของมัน... ยังไงก็เทอร์มาทน่าจะยิงได้ลึกกว่าอะค่ะ แต่ข้อเสียคือลักษณะที่มันทำลายคอลลาเจนเพื่อให้มันสร้างขึ้นมาใหม่ ดังนั้นคนที่มีคอลลาเจนอยู่แล้วมันก็จะทำลายไปด้วยเพื่อการสร้างใหม่ แต่ emax มันไม่แรงเท่าเทอร์มาทคือมันไม่ทำลายก่อน(อันนี้ฟังแล้วก็งงเหมือนกัน) สรุปแล้วคือถ้าหน้าเหี่ยวมากๆ ใช้ emax มันอาจจะเห็นผลน้อยกว่าเทอร์มาท แต่ถ้าหน้าไม่เหี่ยวมากผลจะใกล้เคียงกันมากถึงเท่ากันได้เลย และจะดีกว่าด้วยสำหรับคนที่ยังพอมีคอลลาเจนตัวเองเหลืออยู่ มันจะได้ไม่ไปทำลายก่อนค่ะแล้วอีกหน่อยมันจะเหมือนอยู่ด้วยตนเองไม่ได้มั๊งคงจะประมาณนี้ คือหมวยก็งงๆ