คิดว่าบางคนคงเห็น/อ่านข่าวนี้บ้างแล้ว แต่อยากนำมาลงเผื่อคนที่ไม่ทราบน่ะค่ะ
ทั้งสงสาร ทั้งรู้สึกแย่...นี่หรือคือการกระทำของมนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ?
เอาเปรียบ คดโกงกันปกติก็ว่าแย่แล้ว แต่นี่!! ไม่รู้จะเปรียบการกระทำกับอะไรดี
(พยายามหารูปที่ลงนสพ.คมชัดลึกแล้วแต่หาไม่เจอ ไปเจอรูปอื่นที่แบบ...เห็นแล้วขนลุกจนต้องปิดค่ะ สงสารจนน้ำตาไหล T^T)
เหลือบสังคมมีให้เห็นอยู่ทุกวงการ แม้แต่เด็กพิการหัวโตยังถูกรุมทึ้ง บริเวณระเบียงบ้านไม้ 2 ชั้น เลขที่ 101 ซอยสามวา 25 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ถูกใช้เป็นที่นอนของ ด.ช.ธันวา อินทร์จันทร์ หรือน้องปังปอนด์ วัย 2 ขวบ และได้ต้อนรับขับสู้เหลือบสังคมมาแล้วอย่างน้อย 3-4 ราย ที่ทำทีเป็นยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็เป็นได้เพียงการหลอกลวงขอเงินบริจาคเข้ากระเป๋าตัวเองเท่านั้น
น้องปังปอนด์เกิดมาพร้อมกับอาการผิดปกติของศีรษะที่โตกว่าเด็กทั่วไป หัวของเขาใหญ่ขนาดพัดลม 18 นิ้ว และมีน้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัม เป็นบุตรของ "ลอย อินทร์จันทร์" กับ "ปวีณา เล็กนิยม" ด้วยขนาดของหัวที่ใหญ่โต ทำให้น้องปังปอนด์ไม่สามารถขยับเขยื่อนได้
จึงต้องนอนอยู่บนเบาะตลอดเวลา ส่งผลให้บริเวณหัวด้านหลังมีแผลที่เกิดจากการกดทับ เป็นหนอง ต้องเข้ารับการรักษาที่ รพ.นวมินทร์ เป็นระยะๆ ในขณะที่ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน รายได้เดียวของครอบครัวนี้มาจากการขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างของหัวหน้าครอบครัวเท่านั้น
ปัจจุบันครอบครัวน้องปังปอนด์กำลังต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ ไม่ว่าจะด้านเงินทองหรือของใช้จำเป็น เช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูป นมผง ผ้าพันแผล และอื่นๆ ที่จำเป็น ใครที่ต้องการช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ "ลอย อินทร์จันทร์" หมายเลขโทรศัพท์ 08-5066-2841 หรือที่บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย สาขามีนบุรี ชื่อบัญชี นายลอย อินทร์จันทร์ หมายเลข 261-0-62181-7 ลอยย้ำว่าหากพบเจอเว็บไซต์ขอรับบริจาคเงินที่มีรูปของน้องปังปอนด์ หรือ ด.ช.ธันวา อินทร์จันทร์ โดยที่ชื่อบัญชีไม่ใช่ "ลอย อินทร์จันทร์" อย่าได้หลงเชื่อเป็นอันขาด
>>> ข่าวโดย Nationchannel.com
ขอเพิ่มข้อมูลที่อ่านมาจากนสพ.อีกหน่อยค่ะ
พวก"เหลือบ"นี้ใช้วิธีการติดต่อไปทางคุณพ่อของน้องค่ะ แล้วบอกว่าสงสารต้องการช่วยเหลือ โดยขอให้คุณพ่อให้รูปน้องปังปอนด์มาเพื่อเอาไปลงขอความช่วยเหลือจากทางเนต แล้วจะนำเงินบริจาคทั้งหมดมามอบให้วันที่4 ธ.ค. แต่ก็ไม่เคยมา....
บ่อยครั้งที่คุณพ่อ คุณแม่พาน้องไปโรงพยาบาลก็จะมีคนเข้ามาทักว่าเห็นเรื่องของน้องตามเว็บ
มีอยู่คนนึงมาคุยกับคุณพ่อว่าได้ช่วยบริจาคเงินเข้าทางบช.ที่แจ้งไว้ในเนต ซึ่งคุณพ่อก็ชี้แจงว่าไม่ใช่บช.ของคนในครอบครัว
คุณพ่อบอกว่าเสียใจมาก จนไม่อยากขอความช่วยเหลือใครอีกแล้ว (หัวอกคนเป็นพ่อน่ะค่ะ)
นอกจากนี้ยังเคยมีคนไปหาถึงที่บ้าน แล้วเสนอเงินให้คู่สามีภรรยาขายน้องปังปอนด์ในราคาประมาณ 2-3 แสนบาท!!! ซึ่งทั้ง2ก็ยืนยันว่า ถึงแม้น้องจะเกิดมาผิดปกติ และแม้ครอบครัวลำบากยากจนยังไง ก็รักลูกคนนี้ ไม่เคยคิดจะขายลูกตัวเองกิน...จะเลี้ยงดูน้องต่อไปจนกว่าความตายจะมาพราก
คุณแม่น้องบอกว่าปกติน้องปังปอนด์จะเป็นเด็กอารมณ์ดีโดยเฉพาะเวลาดื่มนม เวลามีใครมาที่บ้านก็จะยกมือไหว้ ไม่่ค่อยโยเย ยกเว้นเวลาที่ต้องผลิกตัวน้องเพื่อลดการกดทับบริเวณหลังหัว น้องจะร้องเพราะว่าเจ็บค่ะ T^T
ทำให้กลับมาคิดค่ะว่ายังมีเด็ก คนพิการ และผู้สูงอายุที่ประสบชะตากรรมเดียวกันนี้อีกมาก ตัวเราเองเห็นข่าวแบบนี้กันทุกวันๆๆๆ แต่มีกี่ครั้งกันที่เรายื่นมือเข้าไปช่วย?แล้วคนที่ไม่ได้ออกข่าวล่ะ? ไม่ได้อยู่บ้านพัก/องค์กรต่างๆ เค้าก็ยังต้องลำบากต่อไปเหรอ?
ถ้าเกิดวันนึงเราได้ฟังหรือเจอกับคนที่ประสบชะตากรรมแบบนี้ อย่ารอที่จะช่วยเลยค่ะ
ไม่ต้องรอให้ถึงวันเกิดหรือปีใหม บางทีแค่เงินหรือเวลาที่ดูเล็กน้อยสำหรับเรา อาจจะช่วยต่อชีวิตให้คนๆนึงได้อีกหลายวัน......
(ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับความสมัครใจ และความเห็นส่วนตัวของแต่ละคนนะคะ ไม่ว่ากัน)
ใครมีความประสงค์ที่อยากจะช่วยเหลือน้องปังปอนด์ ติดต่อเบอร์ในข่าวเลยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาอ่านค่ะ
"Never worry about numbers.
Help one person at a time
and always start with the person nearest you."
Mother Teresa