>>> Japan'Spective เที่ยวญี่ปุ่น ชมใบไม้แดงค่า<<<

[cocoa]

ญี่ปุ่นก็มีปางอุ๋งเหมือนกัน ฮ่าๆ เห็นปีนี้ฮิตจัง ขอปางอุ๋งกับเค้ามั่ง



จริงๆ ถ่ายจากหน้า onsen ที่ไปพักตรงเชิง active volcano Mt. Aso อ่ะค่ะ onsen สวยมาก เป็นห้องปูเสื่อ tatami แบบญี่ปุ่นแท้ ห้องน้ำเล็กๆ มีอ่างลึก ประมาณว่าลงไปยืนแล้วจะสูงประมาณเอว มีน้ำแร่ให้แช่ในห้องได้ ส่วนห้องรวมเป็นแบบ indoor + outdoor คือมีทั้งสองแบบ แยกชายหญิง ไปอาบแล้วรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในความเป็นจอแบนอย่างแรง เพราะงั้นไม่ลงรูปนะคะ ฮึก ฮึก

ที่ญี่ปุ่นจะเรียก Mt. Aso ว่า Asosan คำว่า -san แปลว่าคุณในเชิงที่ให้เกียรติของญี่ปุ่น ส่วนมากใช้กับผู้ที่อาวุโสกว่า หรือตำแหน่งทางหน้าที่ หรือทางสังคมสูงกว่า ภูเขาหลายๆ แห่งในญี่ปุ่นจึงต่อท้ายด้วยคำนี้เหมือนภูเขาเป็นปูชนียบุคคลน่ะค่ะ อย่างที่ได้ยินบ่อยๆ ก็ Asosan, Fujisan

MT. ASO, Kumamoto
เป็น active volcano ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และติดอันดับในโลกด้วย แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าอันดับที่เท่าไหร่ ต้องขึ้น cable car ไปข้างบน เพื่อดูปากปล่อง วันที่ไปโชคดีมีเกล็ดน้ำแข็ง (เหมือนลูกเห็บเล็กๆ) ตกด้วย แต่ตอนไปดูน่ากลัวมากๆ นอกจากกลัวความสูงเป็นปกติแล้ว ยังกลัวมันปะทุอีกต่างหาก เค้าก็มีทำคล้ายๆ เพิงหินหลบภัยไว้รอบๆ แต่ว่าที่ปิดมีแต่หลังคา ยังงงว่า ถ้าลาวาไหลมา มันจะกันอะไรได้น้อ

[cocoa]

วิวระหว่างทางค่ะ



มีได้ไปขึ้นเรือ ferry ด้วย เดินทางจาก Beppu ไป Osaka ไอ้เราก็นึกไปถึงเรือพวก ferry ข้ามฟากแบบบ้านเรา ก็ยังนึกว่าจะนอนค้างคืนยังงัยเนี่ย ที่ไหนได้ ใหญ่เบ้งอย่างแรง แต่ห้องที่ไปนอนเป็นห้องเตียงสองชั้น นอนได้สี่คน มีอ่างล้างหน้าในตัว แต่ห้องน้ำ กับห้องอาบน้ำต้องไปใช้รวม เรือใหญ่แค่ไหน ก็ต้องบอกว่า ในเรือมีห้องอาบน้ำแร่ด้วยอ่ะ ... แม่เจ้า ห้องอาบน้ำแร่ลอยน้ำ ยังมึนๆ ว่า มันเป็นเรือ แล้วน้ำมันจะแร่ได้ยังงัย น่าจะเป็นห้องอาบน้ำต้ม 555



เรือใหญ่มาก แบบขนรถกับรถบรรทุกเพียบเลย ค้างหนึ่งคืนเรื่องเดียวที่คิดในหัวคือ Titanic สรุปว่านอนไม่หลับเลย บ้ามาก ฮ่าๆ


ไปถึง Osaka ตอนเช้าตรู่ แอบหวั่นเพราะอากาศดูไม่ดีเลย ตอนอยู่บนเรือก็ฝนตกตลอด เพราะทริปทั้งหมดนี้ climax อยู่ที่ Osaka ตามรอยหนังสือนำเที่ยวเล่มนั้นก็เพราะจะมา Osaka นี่แหละ ถ้าฝนตกก็จบกันเลย T^T



แวะทานข้าวเช้าที่ปราสาท Osaka กันก่อนนะคะ ขอตัวไปทานข้าวเที่ยงแร้น หิววววววว
OSAKA CASTLE, Osaka

[GangatoppU]

เค้า จะ ไป กิน ขนมมมมม


อยากจะกิน ทุกชิ้นเลย (ทุกร้านด้วย....น่ากินทั้งนั้นนนน)

[tulip]

ตัวช่วยมาแล้วค่า มันคือวัด Asakusa ค่า

ยอมรับว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีมนต์สเน่ห์จริงๆค่ะ
พูดแล้วก็อยากจะกลับไปอีกจังงงง

แต่คราวนี้คงไปดูดอกซากุระ กับเค้าบ้าง
เพราะไปทีไรก็ช่วงใบไม้แดงตลอดเลย

พามาเที่ยววัดที่ดังที่สุดในโตเกียว แบบถ้ามาถึงโตเกียวแล้วต้องมาค่ะ ไม่อย่างนั้นเหมือนมาไม่ถึง จำชื่อญี่ปุ่นไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวไปหาข้อมูลก่อนหรือใครจำได้มาบอกทีค่ะ แต่ใครๆเรียก วัดโคมแดง เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นเป็นสง่ามากๆค่ะ








อีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ คือร้านขายของที่ระลึกรอบๆวัด ที่เดินกันได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ แบบมีแต่ของน่ารักๆ เก๋ๆ แล้วเจ้าของร้านก็นิยมมานั่งทำโชว์กันจะจะเลยค่ะ แบบแฮนด์เมดจริงๆจ้า






คุณลุงเจ้าของร้านขายภาพวาด ซึ่งภาพที่จำหน่ายในร้านเกือบทั้งหมด คุณลุงวาดเอง เรายังซื้อกลับมาเลย เดี๋ยวหาเจอแล้วจะถ่ายรูปมาอวดนะค๊ะ ว่าฝีมือสุดยอดจริงๆค่ะ





ร้านขายโคมญี่ปุนค่ะ

[aor777]

รูปสวยมากเลยค่า ทั้งคุณแอน และคุณโก้ ถ่าย(รูป) เก่งจัง คิดถึงเมื่อตอนไปมาเมื่อห้าหกปีก่อน (นานมากกกกกกกแล้ว)

อยากไปอีกกกกกก อยากกิน cake มากกกกกกกกกก อร่อยที่ซู้ดดดดดดดดดด

รูปท้องฟ้าสวยจังเลยค่ะคุณโก้

เอาอีก เด๋วมารอดูใหม่นะคะ

trip ในดวงใจเลย

[cartoon]

รูปสวยมากๆเลยค่ะ ได้บรรยากาศเหมือนเดินตามไปเที่ยวด้วยเลย เห็นแบบนี้แล้วก็คิดถึงอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งจัง.....

แต่เอาตังค์ไปซื้อน้องเป๋ากะนาฬิกาแล้วหมดแล้วอ่ะ

[cocoa]

และแล้วก็ถึง trip ที่ทำให้ตัดสินใจไปญี่ปุ่นเพิ่มเติมในปีนี้ คือจะไป Mino-o (มิโน่) เห็นรูปจากหนังสือท่องเที่ยวอะไรสักอย่าง จำไม่ได้แล้ว เห็นแล้วสวยมากมาย ต้องไปให้ได้ ก็ดั้นด้นไป ในหนังสือบอกอะไรบ้าง จำไม่ได้ เพราะดันลืมหนังสือไว้ที่บ้านซะงั้น เดินไปถาม reception โรงแรม พนักงานดีใจหาย ทำหน้ามึน แบบว่าไม่รู้จัก แล้วก็หายไปหลัง counter ประมาณสิบห้านาที เดินออกมาพร้อมกระดาษปึกนึง เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Mino-o ทั้งหมดพร้อมแผนที่ทางเดินรถไฟ อยากจะขอบคุณเป็นภาษากรีก เพราะทุกอย่างที่บอกมา เป็นภาษาญีปุ่นทั้งหมด 555 ตรูหน้าเหมือนญี่ปุ่นมากเลยนะ แหม ... ให้เค้าแปลชื่อสถานีรถไฟเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็บอกลา จะไปลุยแล้วจ้า ถ้าพรุ่งนี้ไม่เห็นชั้นมาทานข้าวเช้า แจ้งความคนหายด้วยเน้อ ฮ่าๆ

ออกเดินทางโดยรถไฟของ Osaka ไปต่อรถไฟท้องถิ่น เป็นรถโบราณๆ น่ารักมาก




พอไปถึงก็มึนๆ หน่อย ถามทางนายสถานีพอเป็นพิธี แล้วก็เดินดุ่ยๆ ไป ตอนอ่านหนังสือมา เค้าบอกว่าเดินปกติ 20 นาทีถึง แต่บางคนก็เดินชั่วโมง ถึงสองชั่วโมงเพราะเพลิดเพลินชมธรรมชาติ

พอไปถึงทางเข้า แม่เจ้า เขียนไว้ว่า 5.6 กิโล ... มันเดินยังงัย 20 นาทีฟระ มองซ้ายมองขวาเห็นสาวๆ ใส่บู้ทส้นเข็มสูงเดินกันเช้ย เรามันกะเหรี่ยงไม่ใช่คนพื้นถิ่นซินะ หน้าถึงไม่เด้ง รองเท้าบู้ท platform ยังเดินขาแทบลาก

เดินๆ ไปมีทางแยกและป้ายมากมาย แน่นอนว่า เป็นภาษาญี่ปุ่น แถมแต่ละทางก็มีคนเดินไปเท่าๆ กัน แต่โบราณว่าให้เดินทางสายกลาง ก็เลือกตรงกลาง อีกอย่างเพราะเดินขึ้นเขา หรือลงข้างล่างไม่ไหวแล้ว ขอทางราบละกัน เดินด้วยความประหวั่นกลัวไปผิดทาง (ก็อ่านไม่ออกนี่) และแล้วก็เห็นมุมที่เค้าถ่ายมาลงหนังสือ กรี๊ด ดีใจที่มาถูกทาง ถ้าต้องเดินย้อนไปอีกสองโลขอลากลับบ้านดีกว่า ขาลาก

ฟ้าหลัวไปหน่อย (รายการพยากรณ์อากาศก็มีประโยชน์นะเนี่ย ฮ่าๆ ฟ้าหลัว)




ถึงแร้นนนนนน ถ้าร้อนกว่านี้สงสัยเป็นหมาหอบแดด 555

MINO-O WATERFALL, Osaka
จากหนังสือเล่มนึง สุดท้ายก็ทำให้เป็นจริงได้ ดีใจมากๆ เกิดมาไม่เคยตามรอยหนังสือเล่มไหนสำเร็จเลย



ตอนขากลับเดินออกมาประมาณครึ่งทางฟ้าก็แจ่ม แต่ให้เดินกลับไปอีกสองโลเพื่อถ่ายรูปใหม่คงไม่ไหวแล้ว เด๋วต้องเรียกรถพยาบาลกลับโรงแรมเปล่าๆ ฮ่าๆ

มุมนี่แหละ ที่ตรึงตา ประทับจิต ทำให้เกิดทริปนี้จนสำเร็จ ^^


เดินท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีนี่มันสุดยอดจริงๆ


ขากลับเหนื่อย และหิว เลยอุดหนุนคุณป้าขาย momiji ทอด (ใบเมเปิ้ล) เลยจัดไป อร่อยมากๆ ไม่รู้ที่ญี่ปุ่นใส่อะไรในแป้งทอด พวกชุปแป้งทอดถึงได้อร่อยมากๆ ส่วนใบเมเปิ้ลรสชาติเป็นยังงัยก็ไม่ทราบเหมือนกัน รสแป้งกลบมิด ฮ่าๆ

[ratkatu]

สวยมากๆเลยค่ะ ...เอ่อเห็นตู้ขนมแล้วอยากโดดเข้าไปในจอเลยค่ะ

[cocoa]

มา Osaka ก็ต้องมุม classic กับป้าย Mr. Glico
DōTONBORI, Osaka


ปูอร่อยมาก และแพงมาก นึกว่าเอาเงินนี้ไม่ซื้อปูม้า น่าจะเหมาแผงได้เลย 555 แต่แอบเสียดาย อยากลองปลาปั๊กเป้ามากๆ ไม่มีใครเอาด้วย อุตส่าห์มาถึงแหล่งแล้วยังไม่ได้กินเลย เฮ้อออ คราวหน้าละกัน (หาเรื่องกลับไปอีกละ อิอิ)

แต่ถ้าทาน okonomiyaki กับ tagoyaki อันโด่งดัง เข้าคิวยาวเหยียดครึ่งชม. แถมด้วยว่างกสั่งพิเศษต้องรอนาน โดนคนสั่งธรรมดาแซงคิวแหลก ฮือๆ ทานแล้วอร่อยมากๆ ให้เครื่องแบบตอนเห็นเอาผักกระหล่ำลงแล้วตกใจ ว่ามันตบๆ ยังงัยให้มันแบนได้เนี่ย


สาวๆ แถวนั้นแต่งตัวกันได้ใจมาก นึกว่าถ้าพี่ๆ ผู้ชายมาสงสัยหันกันเป็นพัดลมเลยทีเดียว เลือกไม่ถูกอ่ะ หนาวก็หนาวนะ แต่หนาวนุ่งสั้นจ้า สุดยอดดดดด เพื่อนบอกว่า หน้าหนาวยังขนาดนี้ เรามาหน้าร้อนกันดีกว่า ต้องเหลือแต่บิกินี่เดินตามถนนแน่ๆ ... หื่นได้อีก ฮ่าๆ


Osaka ตอนกลางวันช่างแตกต่าง

[cocoa]

และแล้วก็มุมมหาชน... คนเยอะมากถึงมากที่สุด นักเรียนทัศนศึกษากันตรึม เพราะช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่เค้าทัศนศึกษากัน ทั้งเด็ก ทั้งแม่บ้าน ทหารบก ทริปสาวแก่แม่ม่าย ทัวร์ปาจิงโกะ ลุงสูบไปป์

นี่มันญี่ปุ่นนะ บ้านตัวเองแท้ๆ มาดูอะไรอีก แง่งๆ

KINKAKUJI CASTLE, Kyoto
ปราสาททอง และสระกระจก ค่ะ ไม่รู้ทำสระยังงัยน้ำนิ่ง ใส สะท้อนสุดยอด กระจกเงาที่บ้านยังไม่ใสขนาดนี้เลย


อีกหนึ่งศาลามหาชน ... ไม่มีมุมใดที่ไม่มีหัวคน T^T

KIYOMIZU TEMPLE, Kyoto
ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องให้พรความรัก โดยตรงทางเข้าจะมีทวนเหล็กอยู่สองหรือสามอันนี่แหละ คนที่สามารถยกทวนขึ้น จะได้ครองรักกับคนที่ต้องการ จะบอกว่า ทวนหนักมาก เห็นน้องๆ นักเรียนชายต้องยกด้วยกันสี่ห้าคน หวังว่าคงไม่ได้แปลว่าสี่ห้าคนนั้นจะครองรักร่วมกันนะ ฮ่าๆ