Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 9 of 9

Thread: อ่านก็ได้ ฟังก็ได้ ธรรมะใกล้ตัว ......

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking อ่านก็ได้ ฟังก็ได้ ธรรมะใกล้ตัว ......

    คลิ๊ก เข้าเพื่อฟังเสียงอ่าน นิตยสารธรรมะใกล้ตัว
    ฉบับที่ ๐๓๘ พฤหัสบดีที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๑
    http://dungtrin.com/mag/?38.editor

    แปลกดีไหมคะ ช่วงต้นมีนาที่ผ่านมา
    ถ้าใครจำได้ ทั้งที่เป็นฤดูแดดจ้าฟ้าใสไปไหนก็มีแต่ไอร้อนแท้ ๆ
    อยู่ ๆ ฟ้าก็ครึ้ม ฝนก็ตกซู่ โปรยปรายความชุ่มฉ่ำให้กรุงเทพฯ ขึ้นมาช่วงหนึ่งเสียอย่างนั้น
    ปกติพกร่มฤดูนี้เสียที่ไหนล่ะคะ เลยต้องวิ่งเปียกปอนแทบแย่กว่าจะกลับมาจากร้านข้าวแกง : )

    บางที ที่เห็นชีวิตมีความสุขราบรื่น งานก็เดิน เพื่อนก็ดี เงินก็มี แฟนก็รัก ยิ้มแย้มไปวัน ๆ นั้น
    ก็ไม่ได้แปลว่า พรุ่งนี้ มรสุมและพายุฝนที่โหมกระหน่ำจะมาเยือนเราอย่างฉับพลันไม่ได้นะคะ
    จะแปลกอะไรที่ฝนจะตกผิดฤดู จะแปลกอะไรที่อยู่ ๆ ความทุกข์จะสามารถมาแรงแซงโค้ง
    เบียดความสุขตกกระเด็น และเล่นเอาเราฟุบลงไปกอง อย่างไม่บอกไม่กล่าวเมื่อไหร่ก็ได้

    ทุกคน ย่อมมีเหตุการณ์ที่ "ทุกข์สาหัส" ผ่านเข้ามาอย่างน้อยในช่วงหนึ่งของชีวิต
    แต่อาจจะน้อยคน ที่ยอมรับ และหาเส้นทางเดินออกจากมันด้วยความเข้าใจจริง ๆ

    เวลาทุกข์ท้อราวกับไม่มีหนทางต่อสู้ จึงอาจไม่แปลกนัก ที่จะเห็นตัวละครในหนัง
    แหงนหน้าตะโกนตัดพ้อต่อว่าเทวดาฟ้าดิน ว่าทำไมสิ่งเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นกับฉัน...
    อาจด้วยความรู้สึกที่ว่า มีบางสิ่งบางอย่างที่เหนือการควบคุมอยู่เบื้องบน
    เหมือนชีวิตตกอยู่ใต้อำนาจของมือที่มองไม่เห็น ได้แต่พร่ำเพียงว่า มันไม่ยุติธรรม...

    ทั้งที่จริงแล้ว กฎแห่งกรรมนั้น เป็นกฎที่มีความยุติธรรมอย่างที่สุด
    และมือมืดที่บังคับควบคุมชีวิตเราเบื้องบนก็ไม่มี
    เราทุกคนล้วนเป็นผู้วางหมากให้ชีวิตตัวเองทั้งสิ้น

    เพียงแต่ธรรมชาติปิดหูปิดตาให้เราหลงลืมสิ่งที่เคยทำไว้ในกาลก่อน
    ถ้าย้อนกลับไปเห็นตัวเองในอดีตได้ว่า เคยให้ความหวังใครแล้วทิ้งเขาได้อย่างไม่ไยดี
    เราก็คงยอมรับได้ว่า มันก็ยุติธรรมแล้ว หากเราจะได้รับความรู้สึกแบบเดียวกันนั้นกลับคืน
    ถ้าเห็นได้ว่า ตัวเองเคยชอบพูดจากระแทกแดกดันให้คนอื่นรู้สึกเสียดแทงมาก่อน
    เราก็คงเข้าใจว่า ทำไม วันนี้เราจึงต้องเจอคนที่ทำให้เราต้องรู้สึกในสภาพแบบเดียวกัน
    ฯลฯ

    เพียงแค่เราพลิกมุมมอง มีความเข้าใจ และตระหนักในกฎและกติกาของธรรมชาติว่า
    ผลย่อมเกิดแต่เหตุ เราทุกคนล้วนเป็นทายาทแห่งการกระทำของตนเอง
    เข้าใจในเหตุ และยอมรับในผลที่กำลังเกิดขึ้นโดยดุษณี
    ความดีดดิ้นเพ่งโทษคนอื่นสิ่งอื่นในยามที่ทุกข์มาเยือน ก็อาจบรรเทาเบาบางลงได้แล้ว

    เพราะตรงที่เรา "ยอมจำนน" นี่เอง
    ที่ใจมันเกิดการยอมรับสภาพ และเริ่มหยุดการดิ้นรน
    ความทุกข์เกิด ก็เพราะใจที่มันดิ้นรนนี่แหละค่ะ
    คือยึดอยู่กับสภาพที่อยากให้เป็น ไม่ยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เผชิญ

    ไม่มีใครชอบอยู่ในสภาวะที่คับข้องใจ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นทุกข์นี่หรอกนะคะ
    คนเราจึงหาทางหลีกหนีจากความทุกข์กันตลอดเวลา
    ไปดูหนังบ้าง ไปฟังเพลงบ้าง ไปทุ่มเททำกิจกรรมอื่น ๆ บ้าง
    กระทั่งมีคนคิดไอเดียแปลกใหม่ เปิดร้านสำหรับคนที่อัดอั้นจากทุกข์อย่างนี้โดยเฉพาะ

    คุณผู้อ่านเคยรู้จักร้าน "Love Sick" ไหมคะ
    ร้านอาหารสไตล์ผับที่ว่านี้ เปิดขึ้นด้วยคอนเซปต์เก๋ไก๋เพื่อเอาใจคนอกหักโดยเฉพาะ
    มีโซนที่เปิดเพลงตอกย้ำความรู้สึก และห้องกระจกที่เปิดให้ปล่อยโฮร้องไห้ได้เต็มที่
    มีห้องที่มีช่องไว้ให้ตะโกนระบายอารมณ์ได้สุดเสียงเท่าที่อยากจะตะโกน
    มีห้องปาขวด ที่สามารถเอารูปคนที่เราผิดหวังมาฉายใส่โปรเจคเตอร์ แล้วปาใส่เป้าได้
    ฟังดูแล้ว ก็น่าจะเป็นร้านเป้าหมายสำหรับคนที่กำลังอยู่ในอารมณ์เดียวกับชื่อร้านได้อยู่

    แต่ถามว่า... ความทุกข์ที่แท้จริง หายไปกับขวดที่ปาและสุ้มเสียงที่ปล่อยออกไปไหม
    เราอาจจะเดินกลับออกจากร้านมาด้วยความโล่งระดับหนึ่งชั่วครู่ เพียงเพื่อจะพบว่า
    รุ่งขึ้นยังทรุดตัวตาบวมได้เหมือนเดิม เพราะต้นเหตุแห่งทุกข์นั้นยังไม่ได้หายไปไหนเลย
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking ต่อครับ .........................

    "เรารักสิ่งใด สิ่งนั้นจะทำให้เราทุกข์"
    หลวงพ่อปราโมทย์ท่านพูดชวนให้นึกตามไปในซีดีอย่างนั้น ว่ามันจริงอย่างที่ว่าไหม

    ไม่ว่าเราจะรักรถ รักหนุ่ม รักสาว รักหมา รักแมว กระทั่งรักตัวเอง
    เมื่อไหร่ที่มันไม่เป็นไปอย่างใจ เมื่อไหร่ที่มันแปรเปลี่ยนสภาพ ใจเราจะทุกข์ทันที
    ทั้ง ๆ ที่ทุกสิ่งล้วนมีธรรมชาติเดียวกันทั้งหมดคือ ไม่เที่ยงแท้ และต้องแปรปรวนไปเสมอ

    แม้กระนั้น ใจเราก็พึ่งพิงสิ่งอื่น พึ่งพิงคนอื่นตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
    แต่ความจริงก็คือ ที่พึ่งภายนอกนั้น จะไม่สามารถให้ความสุขที่เที่ยงแท้ถาวรแก่เราได้เลย
    ตราบใดที่เรายังต้องแสวงหาเหยื่อล่อภายนอก ยังต้องพึ่งพิงสิ่งอื่น
    เราก็ยังต้องเป็นทาสของสิ่งนั้น และเป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้นอยู่ร่ำไป

    แต่ก็ยังนับเป็นโชคดี ที่ชีวิตนี้เรายังทันได้รู้จักกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
    หลวงพ่อปราโมทย์ท่านเทศน์ไว้นะคะว่า

    ความทุกข์... ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมของชีวิต
    และศาสนาพุทธก็เป็นศาสนาเดียวที่สอนให้เรากล้าเผชิญหน้ากับมัน
    พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เราวิ่งหนีทุกข์ ไม่ได้สอนให้เราวิ่งหาความสุข
    แต่สอนให้เข้าไปทำความรู้จักกับมัน
    เพื่อที่จะได้เป็นอิสระจากมัน

    และความทุกข์ก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล
    ทุกข์ไม่ได้อยู่ที่คนที่ทิ้งเรา ไม่ได้อยู่ที่ศัตรู ไม่ได้อยู่ที่คำพูดบาดหู ไม่ได้อยู่ที่ก้อนหนี้
    แต่อยู่ที่ตรงนี้ ...ที่จิตที่ใจของเรานี้เอง

    อย่างที่คุณดังตฤณเคยเขียนเอาไว้ในนิยายเรื่อง กรรมพยากรณ์ ตอน ชนะกรรม ว่า

    หลายเรื่องในโลกแก้ไขจากข้างนอกไม่ได้ แต่ปรับปรุงดัดแปลงที่ภายในเราเองได้
    คนอื่นนั้นต่อให้ตัดแขนตัดขาหั่นร่างกายเราออกเป็นชิ้น ๆ
    เราจำเป็นต้องทุกข์แค่ที่กายเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีทุกข์ทางใจเลย
    โดยมากจะอยู่ในรูปที่คนอื่นทำร้ายเราด้วยปากหรือมือไม้สิบนาที
    แต่เรามาทำร้ายตัวเองด้วยความคิดเสียสิบชั่วโมง

    ครูบาอาจารย์ท่านถึงว่า คนเรา "ทุกข์เพราะความคิด"

    และการทำความรู้จักกับทุกข์อย่างที่ว่านั้น ก็ไม่มีอะไรมากกว่า การใช้ชีวิตตามปกติ
    แล้วมีสติคอยตามรู้กาย ตามรู้ใจ ของเราไปเรื่อย ๆ อะไรเกิดก็รู้ทันมันให้มาก ๆ
    สุข เศร้า เหงา เครียด เกลียด กลัว มัว ซึม ขรึม เพ่ง เซ็ง ดีใจ เสียใจ ก็คอยรู้มันไป
    ดูไปก็จะค่อยเห็นความไม่เที่ยงแท้แปรปรวนหมุนเวียนเปลี่ยนสลับอยู่อย่างนี้
    ไม่มีแก่นสารสาระอะไรเลย เห็นอย่างนี้บ่อยเข้า ๆ ถึงวันหนึ่ง ใจก็จะเลิกอยากเลิกยึด
    เมื่อเลิกยึดก็ปล่อยวาง พอปล่อยวางแล้วความทุกข์ก็หลุดร่วงไปจากจิต
    และเมื่อนั้น ก็จะเป็นอิสระจากทุกข์ อันเกิดจากความสำคัญมั่นหมายผิด ๆ นั่นเอง

    ฟังดูเหมือนเป็นของตื้นเพียงเท่านี้เองนะคะ
    แต่กว่าจะศึกษาจนจิตเห็นและยอมรับความจริงนี้ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
    แต่หากค่อยฝึกปฏิบัติไปตามลำดับ ก็จะพบว่าไม่มีอะไรคุ้มค่าต่อการศึกษาเท่านี้อีกแล้ว
    เพราะนี่เป็นวิธีเดียวที่จะสามารถบั่นสายโซ่แห่งทุกข์ให้ขาดสะบั้นลงได้

    หากใครเคยผ่านสถานการณ์อันเป็นทุกข์อย่างที่สุดของชีวิต และยังจำความรู้สึกนั้นได้
    ก็จดจำและตระหนักไว้เถิดค่ะว่า ตราบเท่าที่เรายังต้องเดินทางเกิดตายไม่รู้จบ
    ทุกข์แบบนั้น หรือทุกข์ที่ยิ่งกว่านั้น จะกลับมาให้เราต้องเผชิญอีกนับครั้งไม่ถ้วน
    เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบและหน้าตาไปเท่านั้น

    ดังนั้น จะว่าไป ทุกข์ที่จรผ่านมาในชีวิต ก็มีข้อดีเหมือนกัน
    หากเรามองมันอย่างเข้าใจ อย่างที่คุณดังตฤณเคยเขียนไว้ครั้งหนึ่งว่า

    ถ้าไม่ทุกข์บ้าง ก็คงไม่มีใครอยากออกจากสังสารวัฏหรอก
    ฉะนั้น อย่าเห็นแต่โทษของความทุกข์
    เพราะความทุกข์เท่านั้น ที่ผลักดันให้เราเลือกทางเดินไปสู่ความพ้นทุกข์

    ที่พึ่งที่แท้จริงนั้นไม่มีหรอกนะคะ พ่อแม่ คนรัก ลูกหลาน ทรัพย์สิน ศฤงคาร ฯลฯ
    ทุก ๆ คน และทุก ๆ สิ่ง มาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเราเพียงชั่วคราว
    และวันหนึ่งจะถูกธรรมชาติทวงคืนไปทั้งสิ้น
    ความสุขที่ผ่านมาจะผ่านไปเสมอ ความทุกข์ที่ผ่านมาก็จะผ่านไปเสมอ
    และผู้คนที่เดินผ่านมาในวันนี้ ก็จะเดินผ่านไปวันหนึ่งเสมอ
    สิ่งที่อยู่นอกขอบเขตของกายใจ ล้วนแล้วแต่เป็น "ของหลอก" ทั้งสิ้น

    หากจะหวังพึ่งอะไรสักอย่าง ที่พึ่งที่แท้จริง ย่อมไม่มีอะไรประเสริฐไปกว่า
    การปฏิบัติ ฝึกฝน อบรมตนเอง ให้เป็นที่พึ่งเพื่อต่อสู้ในทะเลทุกข์แห่งนี้
    นั่นคือ แทนที่จะปล่อยตัวเองให้เวียนว่ายไปอย่างไร้จุดหมาย
    ก็เอาการเจริญสติเพื่อศึกษากายใจของเรานี้แหละ เป็นที่พึ่งที่อาศัย

    แล้วเราก็จะพบด้วยตัวเองว่า ธรรมะช่วยเราในยามทุกข์ได้จริง
    และกระทั่งช่วยเราให้เป็นอิสระจากทุกข์โดยสิ้นเชิง ไม่กลับกำเริบได้จริง
    และหากตั้งใจจริง ก็จะสามารถประจักษ์ได้ด้วยตนเอง ภายในเวลาไม่เนิ่นช้าด้วย...

    ขออนุโมทนา กับผู้อ่านทุก ๆ ท่าน ครับ
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  3. #3
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    โมทนาสาธุ ค่ะ

    ที่นำสิ่ง ดี ๆ มาให้อ่าน

  4. #4
    Join Date
    May 2010
    Posts
    4,386
    ขอบคุณค่ะ คุณลุง

  5. #5
    due's Avatar
    due is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    64
    Quote Originally Posted by @ลาสเวกัส@ View Post
    ขอบคุณค่ะ คุณลุง

    โถ!น้องhutเป็นคุณลุงไปแล้วหรอ
    งั้นพี่ดิวก็ต้องเป็นคุณยายอะดิ แงแงแง

    ขอบคุณน้องhutสำหรับบทความดีๆนะจ๊าาา!
    สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
    เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
    เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
    ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา

  6. #6
    Join Date
    May 2010
    Posts
    4,386
    Quote Originally Posted by due View Post
    โถ!น้องhutเป็นคุณลุงไปแล้วหรอ
    งั้นพี่ดิวก็ต้องเป็นคุณยายอะดิ แงแงแง

    ขอบคุณน้องhutสำหรับบทความดีๆนะจ๊าาา!
    สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
    พี่ดิวยังคงเป็นพี่ค่ะ ส่วนคุณฮัทยังไงก็ต้องเป็น "ลุง" 555

  7. #7
    barumbum is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    ขอบคุณมากค่ะ

    ชอบอ่านๆๆๆๆๆๆๆ

  8. #8
    wawe's Avatar
    wawe is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    685
    แม่นแล้ว ถ้าใจของใครรู้ทุกข์ รู้เหตุให้เกิดทุกข์ รู้ทางกำหนดจิตเพื่อดับทุกข์ได้ นั่นแหละ เป็นใจที่ประเสริฐ อนุโมทนาสำหรับบทธรรมดี ๆ แบบนี้นะคะ
    ความง่ายอยู่ที่ปาก ความยากอยู่ที่ทำ
    การรู้จักปล่อยวาง เป็นวิถีทางแห่งความสุขสงบ
    มนุษย์ย่อมได้รับผลของการกระทำของตนเสมอ อาจจะเร็วหรือช้าเท่านั้น

  9. #9
    lordbarbie's Avatar
    lordbarbie is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    125

    Smile

    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

    ขอบคุณมากนะค่ะ


    ✿.。.:* *.:。✿*゚¨゚✎・ ✿.。.:*Thank You SBN Mak Mak ka✿.。.:* *.:。✿*゚¨゚✎・ ✿.。.:*
    My Wish ....

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •