อเมริกาพับไปได้เลยค่ะเพราะตามกฎหมายไม่สามารถทำงานพิเศษที่เป็น off campus ได้ ทำได้แต่ on campus work เท่านั้นซึ่งหายากมากๆและค่าตอบแทนไม่มากพอที่จะเป็นค่าครองชีพได้ ยิ่งถ้าหนูไปเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษอย่างเดียวแทบจะไม่มี on campus work เลย ที่เห็นทำๆกันนั่นผิดกฎหมายทั้งนั้นค่ะ พี่อิมลงเมื่อไหร่โชคดีก็ได้หยุดงานไปสองสามวันแล้วก็มาทำใหม่ ร้ายหน่อยก็ต้องหาร้านหรืองานใหม่ ปะเหมาะเคราะห์ร้ายโดนส่งกลับ ถูกยกเลิกวีซ่าและแถม bar คือห้ามเข้าประเทศไปอีก 5 ปีมั้งถ้าจำไม่ผิด แต่ถ้าอยากเสี่ยงไป ตามร้านอาหารเขาก็รับคนเรื่อยๆนะคะ แต่ขึ้นอยู่กับจังหวะด้วย timing is everything ค่ะถ้าต้องพึ่งเงินจากงานถ้าไม่มีงานจะอยู่ยังไง และถ้าไปต้องเลือกเมืองใหญ่เท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้งานถี่หน่อย ข้อเสียคือค่าครองชีพสูงและพี่อิมลงบ่อย คนไทยเยอะภาษาไทยจะพัฒนากว่าภาษาอังกฤษ
ออสเตรเลียนักเรียนสามารถทำงาน part time ได้ 20 ชม./สัปดาห์ตามกฎหมายก็จะสบายตัวสบายใจ ไม่ต้องหลบพี่อิมแต่ประเทศเค้าจะไม่มีประชากรหนาแน่นเหมือนอเมริกา วิถีชีวิตและบรรยากาศไม่หวือหวา ออกเหงาด้วยตามเมืองทั่วๆไป ตามเมืองใหญ่ๆ เช่น Sydney หรือ Melbourne จะเห็นหน้าเหลืองผมดำทั้งนั้น บางครั้งไม่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองนอกเมืองฝรั่ง
สำหรับแคนาดาต้องเรียนหลักสูตรหลักและต้องเรียนไปแล้วกว่าครึ่งปีถึงจะมีสิทธิ์ทำงาน part time ได้ งานมีไม่ค่อยมากถ้าไม่ใช่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ อากาศหนาวและบินนานกว่าไปอเมริกา การเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยยากกว่าในอเมริกาเพราะมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เป็นรัฐบาล เกณฑ์การรับเข้าจึงมีมาตรฐานที่สูงและใกล้เคียงกันหมด นักเรียนไทยเลยไม่นิยมเท่า