
Originally Posted by
bandalee
เซรามิค ที่นี่เลยจ้า เถ้าฮงไถ่ มีที่สยามดิส ด้วย แต่เราจะซื้อที่ราชบุรี สั่งทำเลย ตามที่เราต้องการ งามสวย ๆ ชอบ ๆ
ของแต่งบ้านค่อย ๆ เดินดูนะคะ อย่าใจร้อน เพราะของตกแต่งบ้านเนี่ยราคาไม่ใช่ย่อย เดี๋ยวจะเหมือนบันฯ เห็นปุ๊บ ซื้อ ๆๆ พอมาวาง ไม่ถูกใจ ยกออกไป หาอันใหม่มาอีก 555 นิสัยแบบนี้ไม่ดี
^
^
^
ก็เห็นพี่บันซื้อของแบบนี้ เหมือนซื้อกระเป๋าตามปกตินี่คะ ไม่ดีตรงหนายอ่า คริคริ
อ้าว เพิ่งเห็นถามเรื่องค่าแบบด้วย ตอบต่อจากคุณเดียละกันค่ะ ขอก๊อปที่เคยตอบในพันทิปมาตอบเน้อ โก้เป็นเต็คมาก่อน แต่ก็ทำอินทีเรียด้วย ตอนนี้อยากเขวี้ยงอาชีพทิ้งไปนั่งตกงานมากๆ เหนื่อย ฮ่าๆ
"ค่าออกแบบตกแต่งภายใน เท่าที่มีประสบการณ์มา มักมีสามแบบอ่ะค่ะ
1. Concept + Design คือทำออกแบบ พร้อมแบบก่อสร้าง ราคาคิดแบบ lump sum คือ คิดจากพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด ประมาณค่าก่อสร้างคร่าวๆ แล้วคิด % เอา โดยมีตั้งแต่ 3-15% ในบางกรณีก็อาจมีถึง 20% ขึ้นกับมูลค่างานและการตกลงค่ะ คนออกแบบก็จะออกแบบ แล้วก็ทำแบบก่อสร้างขึ้นมา เจ้าของก็ไปหาผู้รับเหมามาก่อสร้างตามแบบเอง ทั้งนี้ผู้ออกแบบจะมาคุมงานด้วยหรือไม่ขึ้นกับตกลงกันตอนแรกค่ะ
2. Design + Manage คือทำออกแบบ พร้อมคุมงานก่อสร้าง ตรงนี้ ค่าแบบอาจจะคิดต่างหากคือคิดเหมือนข้อ 1 โดยพิจารณาเป็น % จากมูลค่าการก่อสร้างโดยรวม บวกกับ % การควบคุมงานก่อสร้างต่างหาก หมายความว่าเมื่อเริ่มทำการก่อสร้าง ผู้ออกแบบจะลงคุมหน้างาน จัดตารางงาน และประสานงานระหว่างผู้รับเหมา เจ้าของ และผู้จัดจำหน่ายสินค้าเองค่ะ เจ้าของงานจะแค่ติดต่อกับผู้ออกแบบ และผู้ออกแบบก็จะเป็นคนปวดหัวในการจัดการแทนค่ะ ทั้งนี้ เจ้าของงานเป็นผู้จัดหาผู้รับเหมา เลือกสินค้า เลือกบริการต่างๆ เอง ผู้ออกแบบจะประสานงานให้เท่านั้น
3. Design + Built อันนี้หลังๆ นิยมกันมาก เพราะทำงานง่าย คือทั้งออกแบบ จัดหาผู้รับเหมา หาของทั้งหมดให้ เจ้าของทำหน้าที่แค่จ่ายเงินค่ะ แบบนี้ผู้ออกแบบจะนำทุกอย่างมาเสนอพร้อมงบประมาณ เจ้าของก็แค่พิจารณาเลือกหรือไม่เลือกแล้วก็จ่าย แต่การคำนวนค่าบริการแบบนี้จะ tricky นิดนะคะ คือบางเจ้าอาจยอมลดค่าบริการลง คือค่าแบบอาจจะเหลือแค่ 3% แล้วไปฟันค่าก่อสร้างเอา ถ้าเจ้าของไม่ค่อยรู้ราคากลางในตลาด จะเสี่ยงพอสมควร (จริงๆ ก็เสี่ยงหมดถ้าไม่รู้อะไรเลย เพราะดวงจะซวยมีอยู่มาก ในสังคมนี้ เห้อ) ตามปกติแล้วเรทของบริษัทจะอยู่ประมาณ ค่าออกแบบ 5-10% + 10% ค่าดำเนินการ ทั้งนี้ถ้าจะให้ fair คือ หากผู้ออกแบบ สามารถลดค่าก่อสร้างลงได้ ส่วนต่างจะมีการแบ่งกันระหว่างเจ้าของและผู้ออกแบบ อาจจะเป็น 50-50 60-40 70-30 ตามแต่ตกลงกัน ในกรณีนี้ ผู้ออกแบบก็จะระวังมากขึ้นในการจัดหาผู้รับเหมา รวมถึงสินค้าบริการอื่นๆ เจ้าของก็จะมีความสบายใจนิดนึงว่า จะไม่โดนฟันมาก เพราะถ้าทางผู้ออกแบบ save เงินได้ ก็จะได้เงินเพิ่มทั้งคู่ คือพยายามก่อให้เกิด win-win situation ค่ะ
ส่วนตัวที่เห็นในระบบธุรกิจก็จะมีประมาณนี้ค่ะ
ทั้งนี้ อย่าลืมระบุในสัญญาให้ละเอียดว่า ทางผู้ออกแบบ หรืออื่นๆ ตามแต่ตกลง ต้องส่งอะไรบ้างเพื่อให้ครบตามสัญญา ภายในวันไหน หากมีการล่าช้าจะจัดการอย่างไร ทำไว้ให้ครอบคลุมค่ะ เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่ลำบาก สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่จดทะเบียนบริษัท ถ้ามีก็ขอไว้ค่ะ เผื่อๆ
การทำสัญญาละเอียดจะสบายใจทั้งผู้จ้างและผู้ว่าจ้าง เพราะผู้ออกแบบก็กลัวเจ้าของเบี้ยวไม่จ่าย เจ้าของก็กลัวผู้ออกแบบเชิดเงินหนี ผู้รับเหมาทิ้งงาน ทิ้งบ้านไว้ครึ่งหลัง ถ้าสัญญาละเอียดมากๆ ที่เรียกว่าเคี่ยว (แต่แฟร์นะคะ) คนที่คิดจะทำไม่ดีจะได้หวั่นอ่ะค่ะ บางรายอาจถึงขั้นไม่รับงาน คนที่ดีๆ จะสบายใจรับงานเบิกบานทั้งผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้างค่ะ
แต่งเสร็จแล้วเอามาอวดมั่งนะคะ โชคดีค่ะ "
ขายของเก่าอีกแล้ว ฮาๆ
----:: Brief Olive / Vert Fonce ... i'm !oving u ::----