มีเพื่อนส่งมาให้อ่านค่ะ อ่านแล้วเห็นว่าใกล้ตัวเลยเอามาแบ่งกันอ่านค่ะ ยาวหน่อยนะค่ะ แต่อ่านเถอะค่ะ


Subject: FW: เรื่องเล่าจากพันทิป
>
>
>>
>> เรื่องราวที่ผมจะเล่าให้ฟังนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทผมคนหนึ ่ง
>> เมื่อวานนี้เราโทรศัพท์คุยกันเรื่องไฟไหม้ที่ ซานติก้า ผับ
>> ขออนุญาตเล่าเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนที่เข้ามาอ่านครับ
>>
>> ปีใหม่ที่ผ่านมาผมไปโคราชมาจึงไม่ได้อยู่เค้าน์ดาวน์กับเพื่อนสนิทคนนี้แล
>> ะเมื่อวานผมก็ต้องกลับมาทำงานตามปกติ เลยมีเวลาแค่โทรคุยกัน
>> บทสนทนาที่ทั่วไปผมขอตัดออกไปนะครับ
>> แต่ส่วนมากเราจะคุยกันเรื่องซานติก้า ที่ไฟไหม้
>>
>> เอก : ทำไมแกดูติดใจกับเรื่องนี้จังอ่ะ
>> ผม : ไม่รู้สิ บอกไม่ถูก ฉันว่ามันอยู่ใกล้ตัวเรามากเลยนะ
>> แล้วถ้าวันหนึ่งมันเกิดกับเราหล่ะ
>> เอก : ถ้าเป็นฉัน ฉันคนจมกองเพลิงตายอยู่ในนั้นหน่ะแหล่ะ ไม่รอด
>> ผม : แต่ถ้าเป็นฉันนะ
>> ฉันจะท่องไว้จนนาทีสุดท้ายจนกว่าจะหมดลมหายใจเลยว่า ต้องรอด
>> เอก : แล้วถ้ามันไม่มีทางจะรอดล่ะ....?
>>
>> จากนั้นเราก็พูดคุยกันถึงข่าวต่างๆ รวมถึงวิธีเอาตัวรอดขณะเกิดเพลิงไหม้
>> บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมผมถึงพูดเรื่องนี้ไม่จบไม่สิ้น
>> บอกทุกอย่างที่ตัวเองรู้มาให้เพื่อนฟัง
>> ไม่ว่าจะเป็นอย่าแตกตื่น หาผ้าชุบน้ำปิดจมูก หมอบต่ำ
>> อย่าวิ่งกรูตามคนไปให้นึกให้ออก
>> ว่าทางไหนพอจะหนีออกมาด้านนอกได้ คุยกันเกือบชั่วโมง
>> หมดช่วงพักผมก็ไปทำงานของผมต่อ
>>
>> เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อระหว่างปี งานที่บริษัทจึงเยอะมาก
>> เมื่อวานผมกลับบ้านเกือบห้าทุ่ม
>> ช่วงสามทุ่ม เอกโทรหาผม
>> แต่ผมมั่วแต่ง่วนเดินไปเดินมาอยู่กับงานเลยไม่ได้ยิน
>> พอมาเห็นมิสคอล ก็ไม่คิดจะโทรกลับเพราะคิดว่าเลิกงานค่อยโทรกลับไปแล้วกัน
>>
>> ประมาณเกือบๆ สี่ทุ่มมาเห็นมิสคอลเอกอีกครั้ง
>> ผมก็ยังไม่โทรกลับเพราะเร่งจะทำงานให้เสร็จ
>> จะได้รีบๆ กลับบ้านพักผ่อน
>> จนสี่ทุ่มครึ่งกำลังจะออกไปขับรถกลับบ้านแม่ก็โทรเข้ามา
>>
>> แม่ : นี่ๆ ตะกี๊เอกโทรมาหา ถามว่าเราอยู่ใกล้ๆ แม่หรือเปล่า
>> แม่บอกว่าเรายังไม่กลับจากที่ทำงาน
>> ผม : อ้าวหรอ มันมีอะไรหล่ะ เห็นโทรมาเหมือนกัน แต่พอดียุ่งๆ อยู่
>> แม่ : ไม่รู้เหมือนกัน แม่ไม่ได้ถาม แต่เสียงเจี๊ยวไปหมด
>> เที่ยวอยู่ที่ไหนสักที่ละมั้ง
>>
>> เราเองก็แอบนึกในใจว่าสงสัยชวนไปหานั่งกินไรอีกละมั้ง
>> พอสตาร์ทรถเปิดวิทยุฟัง
>> ได้ยินข่าว เสือป่า พลาซ่าไฟไหม้ ก็นึกในใจว่าเอาอีกแล้ว
>> ปีนี้มันปีอะไรนักหนาเนี่ย
>> จน อาร์ท เพื่อนสนิทอีกคนโทรเข้ามา
>>
>> อาร์ท : โทรหาเอกยัง
>> ผม : ยังว่ะ มีไร
>> อาร์ท : แก มันติดอยู่ในตึกที่ไฟไหม้อ่ะที่ข่าวออกตอนนี้
>> จำซาวน่าที่่มันชอบไปได้ป่าว
>> ผม : หา อะไรอ่ะ ซาวน่ามันอยู่ในตึกนั้นหรอ
>> อาร์ท : เออ ตะกี๊มันโทรมาหาฉันบอกว่าติดอยู่ในนั้นออกไม่ได้
>>
>> ผมเริ่มร้อนใจ รีบกดโทรศัพท์หาเอก
>>
>> รอบแรกไม่รับสาย
>> รอบที่สองไม่รับสาย
>> จนกดรอบที่สามนั่นแหล่ะ ถึงได้รับ
>>
>> ผม : เฮ้ย เป็นไงมั่ง
>> เอก : ทำไม meung ไม่รับสาย ku ( เสียงสั่นๆ )
>> ผม : โทษว่ะ งานยุ่งมากเลย เป็นยังไงมั่ง
>> เอก : (ร้องไห้) ku นึกว่า ku จะไม่รอดออกมาหาพวก meung แล้ว ku นึกถึง
>> meung มากเลยนะ
>> ทำไมไม่รับสาย ku kuนึกว่าจะตายอยู่ในนั้นแล้ว
>> นี่รอกระเช้าอยู่กะลังจะปีนลง เดี๋ยวลงไปได้จะโทรหาอีกทีนะ
>> รับสาย ku ด้วย !!!
>>
>> หลังจากเอกลงมาได้ และพอตั้งสติได้ก็โทรกลับมาหาผม
>> เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผมฟังว่า
>> ตอนมันกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากซาวน่า ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนว่าไฟไหม้ๆ
>> ซึ่งอาคารเสือป่าพลาซ่า
>> มีทั้งหมด 10 ชั้น ชั้น 1,2,3 เป็นส่วนของขายมือถือ ชั้น 4,5,6 เป็น
>> เกสเฮาท์ ชั้น 7,8,9 เป็นซาวน่าและนวดแผนไทย
>>
>> ที่จริงไฟเริ่มไหม้ตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ แต่เอกบอกว่าชั้น 7
>> ส่วนของล็อคเกอร์เปลี่ยนเสื้อผ้าเพิ่งโวยวายกันตอนสองทุ่มกว่าๆ
>> มันเลยรีบเก็บทรัพย์สิน โทรศัพท์ วิ่งลงมาด้านล่าง
>> ตอนนั้นมันบอกว่าควันเริ่มหนามากและเป็นควันของพลาสติกไหม้
>> (กรอบมือถือ) เริ่มสำลักควัน พอลงมาถึงชั้น 4 ก็วิ่งลงมาต่อไม่ไหวแล้ว
>> ก็เลยวิ่งย้อนกลับขึ้นมา
>> มันรีบกดโทรศัพท์หาผม เพราะคิดว่าผมจะให้คำแนะนำอะไรมันได้บ้าง
>> (เขียนมาถึงตรงนี้รู้สึกผิดจัง)
>> พอผมไม่รับสายมันก็นึกถึงคำที่ผมบอกว่าต้องรอดสิ ถ้าคิดจะรอด
>> มันเลยวิ่งกลับขึ้นมาที่ชั้น 7
>> คว้าผ้าขนหนูวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วจุ่มน้ำอดจมูกแล้วยืนนิ่งๆ
>> คิดต่อว่าจะเอายังไงดี
>>
>> ระหว่างนั้นมันบอกว่าคนวิ่งกันอลหม่านมาก ชนกันล้มก็มี
>> มันตัดสินใจวิ่งขึ้นชั้น 8-9-10 แล้วปีนขึ้นมาบนดาดฟ้า
>> ช่วงที่มันมาถึงบนดาดฟ้ามีคนอยู่ด้านบนแล้วสิบกว่าคน ทุกคนดีมาก
>> ช่วยกันดึงกันขึ้นไป หลายคนร้องไห้
>> มีผู้หญิงคนหนึ่งนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว มันเลยถอดเสื้อให้เขาใส่
>> หันไปอีกด้านมีผุ้ชายคนหนึ่งใส่ กกน. ตัวเดียว
>> ถอดผ้าขนหนูมาอุดจมูกมันก็เลยถอดกางเกงยีนส์ให้เขา
>> ตัวมันเองใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียว
>>
>> ช่วงที่นั่งรอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อยู่บนดาดฟ้า
>> มันก็พยายามกดโทรศัพท์หาผมอีกรอบหนึ่ง
>> (บาปอีกแล้วผม) มันบอกว่าในใจก็คิดแค่ว่าจะรอดไหม จะรอดไหม
>> พยายามอยู่นิ่งๆ รอการช่วยเหลือ
>> ดีกว่าลงไปวิ่งเป็นหนูติดจั่นสำลักควันอยู่ด้านล่าง
>> ดาดฟ้าที่มันปีนขึ้นไปด้านบนอีกทีหนึ่งเป็นเพลิงๆ เริ่มสั่น
>> เหมือนจะรับน้ำหนักเอาไว้ไม่อยู่ ติด่อยู่บนนั้นเป็นชั่วโมง
>> คนข้างบนเริ่มสำลักควัน
>> มันเลยตัดสินใจวิ่ง่ลงมาเพื่อเอาผ้าชุบน้ำอีกครั้ง
>> ระหว่างนั้นน้ำประปาเริ่มไม่ไหลแล้วครับ
>> มันก็เลยวิ่งไปที่ตู้ปลาแล้วเอาผ้าจุ่มลงไปในตู้ปลา
>> แล้ววิ่งกลับขึ้นมาบนดาดฟ้าอีกครั้ง
>>
>> โชคดีที่เอกอยู่กับกลุ่มคนที่ส่วนมากมีสติ
>> หลายคนพยายามโทรติดต่อเจ้าหน้าที่
>> คนติดอยู่บนดาดฟ้านับสิบแต่กระเช้าที่ขึ้นมาช่วยสามารถลงได้เพียงทีละคนสองคน
>> ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงผูกเชื อกให้ผู้ประสบเหตุไต่ตามเชือก
>> ปีนลัดเลาะไปยังตึกใกล้เคียง
>> เอกบอกว่ามืดและควันเยอะมากจนมองไม่เห็นอะไร
>> อาศัยจับเชือกแล้วเดินไต่ไปอย่างเดียว
>> ระหว่างที่มันไต่ลงมา หม้อแปลงไฟฟ้าแถวนั้นก็ดันระเบิด
>> มันบอกว่าช่วงที่ปีนขึ้นปีนลง มันล้มตกลงมาหลายครั้ง
>> และเจ้าหน้าที่ให้มันลงมาได้เป็นคนสุดท้ายเพราะหม้อไฟมาระเบิดตอนที่มันกำ
>> ลังลงพอดี
>> คนต่อไปเลยไม่ได้ลงเพราะเจ้าหน้าที่เกรงว่าจ ะอันตราย
>>
>> พอรอดลงมาได้มันร้องไห้โทรคุยกับผม กว่าจะตั้งสติได้ก็หลายนาทีอยู่
>> ผู้คนที่ไม่รู้จักกันกอดกันร้องไห้ วันนี้มันเลยต้องลางาน
>> อาเจียนออกมาเป็นสีเทาดำ
>> คงเป็นเขม่าควันที่สูดเข้าไปตอนกำลังหาทางหนี
>>
>> ผมดีใจที่เพื่อนผมรอดมาได้
>> อยากฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์กับเพื่อน
>>ในว่าสิ่งที่เราไม่คาดคิดไม่ใช่ว่ามันจะไม่เกิดขึ้่นกับเรา
>> หรือคนที่เรารัก ถ้าเอกไม่รอดผมคงเสียใจไปทั้งชีวิต
>> แม้แต่นาทีเป็นนาทีตาย เพื่อนยังนึกถึงเรา
>> เพื่อนอยากคุยกับเราและหวังเราเป็นที่พึ่งคนหนึ่ง วันนี้ผมนั่งนึกเล่นๆ
>> ถ้ามันไม่รอด แค่นึกผมก็น้ำตาไหลแล้ว
>> ผมคงต้องเสียเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตไป
>>
>> ขอให้เรื่องทีเป็นตัวอย่างกับหลายๆ คน
>> ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับผมโดยตรง
>> แต่ขอให้เพื่อนๆ จงใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
>> ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอให้เราตั้งสติให้ได้และมีสติ
>> ไม่ว่าจะเป็นภัยด้านใด ไฟไหม้ รถชน ตกน้ำ
>> หรืออะไรก็ตามขอให้มีสติอยู่กับตัวเสมอ
>>
>> สำหรับผม ต่อไปนี้ผมจะเอาโทรศัพท์ติดตัวไว้ตลอดเวลา
>> จะรับทุกสาย ถ้ารับไม่ได้จะรีบติดต่อกลับให้เร็วที่สุดโดยจะไม่คิดแค่ว่า
>> "คงไม่มีอะไร" อีกแล้ว
>> เพราะเราไม่อาจรู้เลยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เรารักและรักเรา
>>
>> สุดท้ายนี้ขอให้ปีใหม่นี้คุณพระคุณเจ้า
>> คุ้มครองเพื่อนในบอร์ดทุกคนให้ปลอดภัยและมีแต่ความสุขนะครับ
>>
>> ด้วยรัก...