^
^
^
เก่งจังเลยคุณนู๋ อายุ 11-12 เรายังโดดหนังยางอยู่เลย 15 มีบัตรประชาชน
คุณหนูแฮมคิดซะว่า อยู่เพื่อคุณแม่ มันน่าจะง่ายกว่าเพื่อตัวเอง
ตั้งใจเรียนให้จบ แล้วไปทำงานใกล้แม่นะคะ ทำบุญสวดมนต์เยอะๆ ให้คุณพ่อคุณแม่
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
^
^
^
เก่งจังเลยคุณนู๋ อายุ 11-12 เรายังโดดหนังยางอยู่เลย 15 มีบัตรประชาชน
คุณหนูแฮมคิดซะว่า อยู่เพื่อคุณแม่ มันน่าจะง่ายกว่าเพื่อตัวเอง
ตั้งใจเรียนให้จบ แล้วไปทำงานใกล้แม่นะคะ ทำบุญสวดมนต์เยอะๆ ให้คุณพ่อคุณแม่
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
รักในหลวง และ ครอบครัว...
ให้กำลังใจตัวเองอ่ะค่ะ
เวลาผิดหวัง เหงา เสียใจ
จะชอบคุยกับตัวเอง ให้กำลังใจตัวเองอ่ะค่ะ
ถ้าเหงาก้อจะออกไปข้างนอกเดินเที่ยว
พอนานวันเข้าก้อจะเข้มแข็งเองอ่ะค่ะ สู้ๆนะค่ะ เป็นกำลังใจค่ะ
~ Falling In Love With Juliet and Comme Comme ^_^" ~
เป็นกำลังใจให้มากๆเหมือนกันคะ
เพราะจริงๆแล้วเราก็เพิ่งเสียคุณพ่อไปเหมือนกัน
เมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน เราก็เศร้ามากๆเหมือนกัน
วิธีของเรา เวลาเราเศร้า คือเราจะพยายามทำอย่างอื่น
ไม่นั่งเฉยๆ เพราะถ้านั่งเฉยๆ สมองมันก็จะคิดไปไกล
ยิ่งทำให้เศร้ามากๆ
สวดมนต์ นั่งสมาธิก็ช่วยได้มากๆนะคะ
มันจะทำให้จิตใจเราสงบขึ้น
แล้วยังได้แผ่เมตตาให้คุณพ่อด้วย
ช่วงแรกๆที่คุณพ่อเสีย เราหนีตัวเองออกจากสังคมเลย
ปิดมือถือ ไม่คุยกับใครทั้งนั้น รู้สึกไม่มีอารมณ์รื่นเริงใดๆ
แต่พอทำอย่างนั้นไปซักพัก เริ่มรู้สึกชีวิตห่อเหี่ยวเกินไป
พ่อคงไม่สบายใจ ถ้าเราเป็นแบบนี้ เราต้องกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมให้มากที่สุด
ทำตัวเองให้มีความสุข ให้พ่อสบายใจ
และพยายามทำตัวให้น่ารัก เป็นลูกที่ดีของแม่มากที่สุดคะ
“On ne nait pas femme, on le de vient”
ถ้าเป็นเรานะคะ เราจะพยายามหาอะไรทำให้ลืมๆๆ ไปซะ ไป Fitness อะไรก็ได้ค่ะ
แต่จะไม่ใช้วิธีอยู่กับเพื่อน เพราะบางทีถ้าเค้าพูดจาในเรื่องที่เราไม่อยากฟัง เราก็จะยิ่งแย่ ยิ่งเหงา
จะใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากกว่า แต่หากิจกรรมเพลินๆทำ ลองดูค่ะ เผื่อช่วยด้วย
ลองทำสวยดูก็ได้ พอกหน้า อ่านหนังสือ รัยเงี๊ยะ
เดี๋ยวขอไปตามตัวพ่อกับตัวแม่(เราสถาปนาของเราเองนะ)ก่อนต้องมีคำแนะนำดีๆแน่นอน
ห่างๆกันบ้าง (ก็น่าจะ) ดี เสียตังค์ตะ-หลอด เร๊ยยยยยยย (^^)'
เมื่อวานไม่ได้เข้าwebเลยเพราะพาลูกไปเรียนพิเศษ
ต้องขอบคุณที่ให้เกรียติดิวเป็นอาทตัวแม่นะคะ อิอิออ
(ทุกวันนี้คุณสามีก็เรียกแบบนี้เหมือนกัน 555)
เรื่องของน้องแฮม เป็นเรื่องที่เราทุกคนหนีไม่พ้นหรอกค่ะ
แล้วก็ห้ามไม่ให้ทุกข์ก็ไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่พระอรหันต์
อยู่ที่ว่าเราต้องพยายามทำใจอย่าให้ทุกข์มากจนเกินไป
ให้รู้จักปล่อยวาง ให้รู้เท่าทันจิตของเรา ว่าเรานี้กำลังทุกข์
แล้วก็วางมันลงซะ รู้ค่ะว่า ทำยาก แต่ต้องหัด แล้วก็ต้องทำให้ได้
เพราะชีวิตเราไม่เจอเรื่องทุกข์ๆแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว
เพราะเรายังมีคนที่รักอีกหลายคน ถ้าต้องเกิดการพลัดพรากอีก
ใจคงสลาย เพราะฉนั้นต้องพยายามฝึกจิตให้เข้มแข็ง
อยากแนะนำให้ศึกษาเรื่องมรณสติให้เยอะๆ จะได้ไม่กลัว
ความตาย และเข้าใจในความตายมากขึ้น ว่าแท้จริงแล้ว
ความตายนั้นไม่ได้น่ากลัวเลย เมื่อเรารู้จักความตายดีแล้ว
เราก็จะไม่กลัวตาย แล้วเมื่อความตายมาถึงเราก็จะมีสติ
ไม่ทุรนทุราย แม้จะสูญเสียคนที่รัก เราก็เข้าใจและ
ยอมรับความตายนั้นได้ว่าเป็นสัจจะธรรม และก็รู้ว่าชีวิต
หลังความตายนั้นไม่ได้สูญสลาย แต่ยังมีภพชาติรออยู่
ถ้าเราเชื่อเรื่องภพชาติ เราก็จะไม่กลัวตาย เร่งสร้างความดีไว้เยอะๆ
ก็เหมือนเรากำลังสร้างวิมานในภพภูมิที่สูงกว่านี้ จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่กลัว
แต่ถ้าเราไม่แน่ใจว่าคนที่เรารักจะได้ไปสบายรึเปล่า ก็อยากแนะนำให้
ทำบุญ แล้วอย่าลืมกรวดน้ำไปให้เค๊า เค๊าก็จะได้รับ แต่ถ้าอยาก
ให้ได้รับบุญเยอะๆ อันนี้ต้องปฏิบัตวิปัสสนากรรมฐาน อานิสงค์
มากกว่าสร้างวัดสร้างโบสถ์อีก เวลากราดนำ้ไปให้ผู้ที่ล่วงลับ
ท่านก็จะได้รับบุญนั้นด้วย
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้สามารถผ่านช่วงนี้ไปได้อย่างมีสติ
และเข้มแข็งนะคะ
เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์
คำพูดนี้เป็นคำที่พระพุทธเจ้าสอนนางวิสาขา
ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ นะ
คือนางวิสาขาเสียหลานไปคนหนึ่ง นางรักหลานคนนี้มาก
พระพุทธเจ้าก็ถามว่า ที่ร้องไห้เพราะอะไร
นางวิสาขาบอก เพราะหลานคนนี้ตาย
พระพุทธเจ้าถามอีกว่า หลานคนอื่นตาย ทำไมไม่เห็นร้องขนาดนี้
นางบอกว่า หลานคนนี้รักมาก เป็นแก้วตาดวงใจ
ท่านถามอีกว่า ถ้าสมมุติมีหลานที่นางวิสาขารักแบบนี้
แบบเดียวกันนี้ อีก ๑๐๐ คน จะไม่อกแตกตายเหรอ
นางวิสาขาก็คิดได้ว่า เออ... ใช่ มันเป็นไปได้ที่เราจะรักใครได้มากขนาดนี้
บางคนรักหมายิ่งกว่าผัว คือตัวความรักมันแสดงให้เห็นว่า
ไม่ว่าจะรักใคร จะรักอะไร มันคือความทุกข์
มันไปยึด รักแบบไปยึด ไม่ใช่รักแบบเมตตา
รักแบบเมตตาคือปรารถนาดี
รักแบบกรุณาคือมีความคิดอยากจะช่วย
รักแบบพลอยยินดีไปกับเขา อนุโมทนาไปกับเขาด้วย
รักแบบมีความเข้าใจ มีเหตุผล
คือทุกอย่างที่มาที่ไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดา
ถ้ารักแบบนี้ จะหลุดพ้นจากความรักแบบยึด
จะเป็นรักแบบที่มีคนอื่นเป็นที่ตั้งของความรัก
ไม่ใช่ตัวเราเป็นที่ตั้งของความรัก
รักแล้วต้องร้องไห้ คือมีเราเป็นที่ตั้งของความรักนะ
มีตัวเราได้ประโยชน์จากความรัก
มีตัวเราเป็นผู้รับผลประโยชน์จากความรัก
แต่รักแบบมีคนอื่นเป็นที่ตั้งของความรักนี้ ผลประโยชน์ไปตกกับเขา
เราปรารถนาดีกับเขา อยากช่วยเขา พลอยยินดีไปกับเขา
เราเข้าใจเหตุ เข้าใจผล ที่เขาต้องเป็นไปอย่างหนึ่ง ๆ
เขาตายไปก็เข้าใจว่าถึงเวลาที่เขาต้องไป
ความรักแบบนั้นไม่ทำให้เราเป็นทุกข์ เพราะว่ารักแบบไม่ยึด
เป็นข้อสรุปที่พระพุทธเจ้าบอกนางวิสาขา
วิสาขา... มีรักหนึ่งก็ทุกข์หนึ่งนะ
มีรักสิบก็ทุกข์สิบ มีรักร้อยก็คือทุกข์ร้อย
แล้วถ้าหากว่าไม่มีรักเลย ก็ไม่มีทุกข์เลย
รักแบบโลก ๆ
แต่ถ้ารักด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
แบบนี้มีได้ไม่มีประมาณ
และก็เป็นสุขได้ไม่มีประมาณ
ที่มา:http://larndham.net/index.php?showtopic=32322&st=240
เรารักอะไรก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น
เพราะว่าสิ่งทั้งหลายล้วนแปรปรวนทั้งสิ้น
ไม่มีอะไรคงที่อยู่ได้ตลอดเวลา
เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ ตอนที่คุณพ่อเราเสียใหม่เราก็เป็นแบบนั้นค่ะ
วิธีที่ดีค่ะ พึ่งธรรมะค่ะ สวดมนต์ทุกวันน่ะค่ะ ก่อนนอนค่ะ
Email :: phacharamon.p19@gmail.com
ฟังแล้วเข้าใจเลยค่ะ
อย่าไปเศร้า เสียใจกับอดีตค่ะ
ลองนั่งสมาธิ แผ่เมตตาดูค่ะ
แล้วก็เอาเวลามานั่งอ่านหนังสือทบทวนตำราดีกว่า จได้คะแนนดีๆ
จบไวๆ แล้วก็กลับบ้านไปหาคุณแม่ค่ะ
สู้ๆ
ก่อนอื่นก็คงเป็นกำลังใจให้นะครับเหมือนกับทุกคนที่มาเป็นกำลังใจให้น้องแฮมครับ
คงไม่ใครบอกไม่เสียใจที่ต้องเสีย คนที่เรารักและรักเราไป แต่ขอให้น้องแฮมลองกลับมามองความเป็นจริงอย่างนึงนะครับ หลายคนในที่นี้เชื่อเรื่องภพชาติ มีเกิดก็ต้องมีแก่ มีเจ็บ มีตาย ครับ คุณพ่อคงไม่มีความสุขแม้ท่านอาจไปเกิดในภพเบื้องบน แล้วท่านเห็นลูก และภรรยาอันเป็นที่รัก ของท่านไม่มีความสุข น้องว่าจริงมะ แทนที่เราจะมานั่งเสียใจในการจากไป ของท่าน พี่ว่าตอนนี้มันเป็นโอกาส ที่น้องแฮมจะได้เป็นคนดูแลแม่แทนท่าน นะ เรายังมีคุณแม่อีกคน ถ้าเรามานั่งเศ้รา อยู่ แล้วอีกคนที่เศ้ราเหมือนเราคงไม่พ้นคุณแม่แน่นอน พี่ว่าน้องแฮมเอาเวลานี้ไปทำหน้าที่ลูกที่ดีหาเวลาว่างพาคุณแม่ออกไปเที่ยวพักผ่อนนอกบ้าน ไปทานข้าวบ้าง ไปวัดทำบุญ ดีกว่านะ พี่คิดว่าการที่เราทำตัวเองให้มีความสุขก่อน คนรอบๆ ข้างก็จะได้มีความสุขตามมานะ และคิดว่าคนที่เรารักเค้าก็มีความสุขกับเราด้วย .....ลองดูนะครับ
เรื่องทุกข์มันมาแล้วมันก็ไป แต่การมาของมันบางครั้งมันทำให้เราเลือกที่จะได้ทำสิ่งดี ๆ เพิ่มนะ ....แค่เราเปลี่ยนมุมมอง...ขอใหน้องสู้ สู้ และผ่านความเศร้าใจไปได้นะครับ ..
พี่พึ่งลงบทความไว้ลองเข้าไปอ่านดูนะ ครับ ...
http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=112229
ขอให้ลองสละเวลาซัก 1 ชั่วโมงนะครับ ฟัง อันนี้ดู http://dhamma.atspace.com/life_compass.htm สู้ สู้ ครับ
ทุกข์มันมาเพื่อให้เราเจอความสุขอันยิ่งใหญ่นะครับ ........
บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา
ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81