ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า คัลเลน ทุกคน จะมีเครื่องประดับที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลใส่ติดตัวกันตลอดนะคะ เห็นว่าต่างประเทศเค้าทำออกมาเป็นเครื่องประดับจริงๆ ด้วยล่ะค่ะ แพงเอาการเลยทีเดียว ^^
.
.
มาว่าต่อกันด้วยความนัยที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการเลือกภาพมาทำ cover book นะคะ (สปอยล์อย่างรุนแรงโดยไม่มีข้อสงสัยค่ะ...อิอิ)
Twilight and "The Forbidden Fruit"
"แอปเปิ้ล" นั้นสื่อถึง "แอปเปิ้ลแห่งสวนอีเดน" (The Forbidden Fruit) เป็นผลไม้แห่งการรู้ดีรู้ชั่ว ซึ่งในความหมายในด้าน idiom หมายถึง สิ่งที่ไม่ได้รับอนุญาต (เนื่องจากน่าสนใจมาก)
ซึ่งใน Twilight เป็นการสื่อถึงความลึกลับน่าค้นหา ความรักต้องห้ามของมนุษย์และแวมไพร์ การที่แอปเปิ้ลเป็นผลไม้แห่งการรู้ดีรู้ชั่วแล้วก็ดูจะเข้ากันได้ดีสำหรับเบลล่าที่ในตอนจบของเล่มได้รู้ซึ้งถึงสิ่งดีงามและความชั่วร้าย
และเมเยอร์เองก็เห็นว่ามีเรื่องเล่าหรือวรรณกรรมที่มีการใช้แอปเปิ้ลเป็นอุปมาอุปมัยอีกหลายเรื่อง เช่น สโนว์ไวท์ หรือ The Judgement of Paris (ที่ตัดสินให้แอโฟรไดท์ได้แอปเปิ้ลทองคำแลกกะเฮเลน) ด้วย ทำให้แอปเปิ้ลค่อนข้างที่จะเป็นผลไม้ที่มีความหมายอยู่ในตัวมันอย่างหลากหลาย
สำหรับ เมเยอร์ "แอปเปิ้ลแห่งสวนอีเดน" คือ "ทางเลือก" (Choice)
New Moon and "Estella Rijnveld"
New Moon ตามความหมายของชื่อเรื่องคือ "คืนเดือนมืดที่มืดมิดที่สุด" สื่อถึงช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของเบลล่า มีการตีความหมายไปหลายทางมากถึงหน้าปกของเรื่อง เป็น Bloody Flower ตีความถึงตอนเบลล่าล้มลงไปบนอ่างแจกันดอกไม้ (ตอนโดนแจสเปอร์จะกินเลือด) หรือสื่อถึงชีวิตที่ร่วงโรยของเบลล่า หรือ Wilting Flower ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาเมื่อขาดเอ็ดเวิร์ด (ดอกไม้ที่ใกล้ตาย)
แต่จริงๆแล้วมันไม่มีความหมายหรอก...ทางสนพ.เขาเลือกมาเพราะมันสวย..แค่ดอก Ruffled Tulip แค่นั้น
แต่จากการค้นข้อมูลบอกว่า Tulip นี้คือ "Estella Rijnveld" มีตำนานของเปอร์เซียเล่าว่า ดอกทิวลิบดอกแรกผลิดอกออกมาจากเลือดของคู่รักคู่หนึ่ง นานวันเข้าทิวลิปนี้จึงการเป็นสัญลักษณ์ของ "การปฎิญาณสาบานรัก" (รักแท้) เหมือนที่เบลล่าได้รู้ว่าเอ็ดเวิร์ดรักเธอมากกกกกจริงๆ เพราะเขาถึงกับจะจบชีวิตอมตะของตนเองเมื่อตอนที่ได้ทราบ (นึกว่า) เบลล่ากระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย
Eclipse and "Torn Ribbon"
"ริบบิ้นที่กำลังจะขาด" (Torn Ribbon) หมายถึง สายสัมพันธ์ของความเป็นมนุษย์ที่กำลังจะขาดลง เป็นทางเลือกของเบลล่าว่าจะเลือกทางไหน กล่าวคือ เลือกแวมไพร์ ริบบิ้นจะขาดลงชีวิตความเป็นมนุษย์สูญสิ้นครอบครัวเพื่อนๆ สายสัมพันธ์เหล่านี้จะจะขาดออกจากกัน หรือ เลือกหมาป่า เธอจะได้ชีวิตมนุษย์คืนมาทั้งยังครอบครัวเพื่อนพ้องด้วย
แต่ในอีกนัยยะหนึ่งริบบิ้นที่ใกล้จะขาดยังบ่งบอกได้ว่าเธอยังลังเล ไม่แน่ใจและอาวรณ์ถึงชีวิตแบบมนุษย์ธรรมดาอยู่แม้ว่าได้ตัดสินใจไปแล้วเมื่อตอนท้ายเล่ม New Moon แต่ใน Eclipse เธอเริ่มมีอาการลังเล (ตลอดเล่มเลยก็ว่าได้) แต่แนวคิดนี้ไม่เฟิร์มเพราะชาวบ้านเขาตีความกันไม่ใช่ นักเขียนนะค่ะ^^
Breaking Dawn and "From the Pawn to the Queen"
"จากเบี้ยสู่ราชินี" ในหน้าปกของเล่ม 4 เป็นการสื่อถึงเบลล่าที่ตั้งแต่เริ่มเรื่องเธอเป็นเพียงมนุษย์ที่อ่อนแอที่สุดในกระบวนทัพ เป็น เบี้ย เป็นเบ้ คอยแต่ให้เขามาปกป้อง แต่ในเล่ม 4 เบลล่าจะปฏิวัติเปลี่ยนตนเองมาสู่ การเป็นราชินีของกองทัพแวมไพร์ (ครอบครัวคัลเลน)
เบลล่าในรูปลักษณ์แวมไพร์ กลายเป็นแวมไพร์ที่มีแข็งแกร่งที่สุดของครอบครัว ทั้งจากที่เธอเป็น New Born ที่จะแข็งแรงที่สุด เบลล่ายังมีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ความเป็นแวมไพร์พัฒนาความสามารถของเธอให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเบลล่าเปี่ยมไปด้วยเมตตา มีจิตใจดีเสมอ ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง จะเห็นว่าเวลาคับขันน้องจะฉลาดเอาตัวรอดสุดๆ ยิ่งเป็นแวมไพร์แล้วยิ่งเข้มแข็งขึ้นอีกขั้น
จิตใจที่ปิดกั้นความสามารถที่ส่งผลต่อจิต อย่างความสามารถของ เอ็ดเวิร์ด เจน และอาโร พัฒนากลายเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเบลล่าที่เรียกว่า "เกราะพลังจิต" (Mind Shield) ที่สามารถขยายวงไปล้อมรอบคนที่เธอต้องการปกป้องได้ด้วย (เพราะเหตุที่เธอชอบห่วงชาวบ้านเขาก่อนเลยกลายเป็นความสามารถแบบนี้) ทำให้คนที่อยู่ในวงล้อมไม่โดนทำร้ายจากการทำร้ายทางจิต (น้องเจนจ๋อยไปเลยค่า 555)
ทำให้เธอกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพ เป็นราชินีของกระดานหมากรุก และกลายเป็นผู้ปกป้องบุคคลอันเป็นที่รักและครอบครัวที่สำคัญ อย่างที่เธอต้องการมานานแสนนาน
Credit: http://solma.exteen.com