ชอบมากกกกก เหมือนกันค่ะ
รู้สึกว่ายิ่งเล่ม 2 3 4 วลีการแต่งยิ่งดีขึ้นมากๆ อ่านแล้วติดมากๆ
เลยค่ะคุณพาย
อยากรู้ 4.2 อะคุณพาย เป็นไงต่อคะ
ชอบมากกกกก เหมือนกันค่ะ
รู้สึกว่ายิ่งเล่ม 2 3 4 วลีการแต่งยิ่งดีขึ้นมากๆ อ่านแล้วติดมากๆ
เลยค่ะคุณพาย
อยากรู้ 4.2 อะคุณพาย เป็นไงต่อคะ
อิ่ม....................
กรี๊ดส์ๆๆๆๆๆๆๆๆ
อยากได้น๊า...
Classic jumbo caviar GREY โซ่ทอง(สงสัยต้องมือสอง) // Classic jumbo caviar GREY โซ่เงิน(นี่ก็คงต้องมือสอง) // GST caviar GREY โซ่เงิน(รอมือสองอีกแหง) // GST caviar RED lipstick
ตอนหนังสือภาค 4.2 ยังไม่ออก แอบไปอ่านที่เค้าแปลเล่นๆเองที่เวบนี้ค่ะ
http://solma.exteen.com/
แต่ตอนนี้เค้าลบที่เคยแปลไปแล้วค่ะ
![]()
อยากได้น๊า...
Classic jumbo caviar GREY โซ่ทอง(สงสัยต้องมือสอง) // Classic jumbo caviar GREY โซ่เงิน(นี่ก็คงต้องมือสอง) // GST caviar GREY โซ่เงิน(รอมือสองอีกแหง) // GST caviar RED lipstick
พี่แหม่มขา แสดงว่าตอนนี้ 4.2 มาแล้วใช่ไหมคะ
ทำไมตูนตกข่าวอ่า ตามมาตั้งนาน โหย ว่าแต่เล่มภาษาไทยนะคะ
ต้องไปหา ต้องไปหา
ขอบคุณพี่แหม่มค่า
อิ่ม....................
ดีค่ะคุณตูนนนน
ดีค่ะพี่แหม่ม
ดีใจจังเลย...มีเพื่อนแล้ว 55555
ตอบคุณตูน...
เล่ม 4.2 ภาษาไทย ออกมาสักพักหย่ายๆ แล้วล่ะค่ะ อ่านเล่มสองแล้วก็อิจฉาเบลล่ามากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ขนาดกลายมาเป็นแวมไพร์ก็ยังมีความพิเศษ มีพรสวรรค์ติดตัวมาได้อีก.....เล่นเอา edword ปลื้มและทึ่งไปเลยทีเดียว เป็นการชดเชยความอ่อนแอและโชคร้ายที่เจอแต่แวมไพร์คอยตามล่าในภาคก่อนๆ ได้ดีเลยค่ะ เล่มสองนี้ เบลล่าจะได้ปกป้องครอบครัว และคนที่เธอรักด้วยตนเองอย่างแท้จริงเลยล่ะค่ะ อ่านแล้วลุ้นแทบทุกหน้าเลยค่ะ กลัวว่าจะมีใครต้องตาย..... ^^
ของเก่าไป ของใหม่มา (มาเยอะด้วย) ><''
โว้วววววว คุณพาย
ตูนไปขุดรูที่ไหนอยู่มาเนี๊ยะ ร้านหนังสือก็เข้าเกือบทุกวันน้า
โหย พรุ่งนี้ต้องไปตามล่าซะแล้ว
ขอบคุณมากๆๆๆๆค่ะคุณพาย ว่าแต่เจคกับลูกเบลเค้าผูกวิญญาณกันปะคะ
อิ่ม....................
ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า คัลเลน ทุกคน จะมีเครื่องประดับที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลใส่ติดตัวกันตลอดนะคะ เห็นว่าต่างประเทศเค้าทำออกมาเป็นเครื่องประดับจริงๆ ด้วยล่ะค่ะ แพงเอาการเลยทีเดียว ^^
.
.
มาว่าต่อกันด้วยความนัยที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการเลือกภาพมาทำ cover book นะคะ (สปอยล์อย่างรุนแรงโดยไม่มีข้อสงสัยค่ะ...อิอิ)
Twilight and "The Forbidden Fruit"
"แอปเปิ้ล" นั้นสื่อถึง "แอปเปิ้ลแห่งสวนอีเดน" (The Forbidden Fruit) เป็นผลไม้แห่งการรู้ดีรู้ชั่ว ซึ่งในความหมายในด้าน idiom หมายถึง สิ่งที่ไม่ได้รับอนุญาต (เนื่องจากน่าสนใจมาก)
ซึ่งใน Twilight เป็นการสื่อถึงความลึกลับน่าค้นหา ความรักต้องห้ามของมนุษย์และแวมไพร์ การที่แอปเปิ้ลเป็นผลไม้แห่งการรู้ดีรู้ชั่วแล้วก็ดูจะเข้ากันได้ดีสำหรับเบลล่าที่ในตอนจบของเล่มได้รู้ซึ้งถึงสิ่งดีงามและความชั่วร้าย
และเมเยอร์เองก็เห็นว่ามีเรื่องเล่าหรือวรรณกรรมที่มีการใช้แอปเปิ้ลเป็นอุปมาอุปมัยอีกหลายเรื่อง เช่น สโนว์ไวท์ หรือ The Judgement of Paris (ที่ตัดสินให้แอโฟรไดท์ได้แอปเปิ้ลทองคำแลกกะเฮเลน) ด้วย ทำให้แอปเปิ้ลค่อนข้างที่จะเป็นผลไม้ที่มีความหมายอยู่ในตัวมันอย่างหลากหลาย
สำหรับ เมเยอร์ "แอปเปิ้ลแห่งสวนอีเดน" คือ "ทางเลือก" (Choice)
New Moon and "Estella Rijnveld"
New Moon ตามความหมายของชื่อเรื่องคือ "คืนเดือนมืดที่มืดมิดที่สุด" สื่อถึงช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของเบลล่า มีการตีความหมายไปหลายทางมากถึงหน้าปกของเรื่อง เป็น Bloody Flower ตีความถึงตอนเบลล่าล้มลงไปบนอ่างแจกันดอกไม้ (ตอนโดนแจสเปอร์จะกินเลือด) หรือสื่อถึงชีวิตที่ร่วงโรยของเบลล่า หรือ Wilting Flower ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาเมื่อขาดเอ็ดเวิร์ด (ดอกไม้ที่ใกล้ตาย)
แต่จริงๆแล้วมันไม่มีความหมายหรอก...ทางสนพ.เขาเลือกมาเพราะมันสวย..แค่ดอก Ruffled Tulip แค่นั้น
แต่จากการค้นข้อมูลบอกว่า Tulip นี้คือ "Estella Rijnveld" มีตำนานของเปอร์เซียเล่าว่า ดอกทิวลิบดอกแรกผลิดอกออกมาจากเลือดของคู่รักคู่หนึ่ง นานวันเข้าทิวลิปนี้จึงการเป็นสัญลักษณ์ของ "การปฎิญาณสาบานรัก" (รักแท้) เหมือนที่เบลล่าได้รู้ว่าเอ็ดเวิร์ดรักเธอมากกกกกจริงๆ เพราะเขาถึงกับจะจบชีวิตอมตะของตนเองเมื่อตอนที่ได้ทราบ (นึกว่า) เบลล่ากระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย
Eclipse and "Torn Ribbon"
"ริบบิ้นที่กำลังจะขาด" (Torn Ribbon) หมายถึง สายสัมพันธ์ของความเป็นมนุษย์ที่กำลังจะขาดลง เป็นทางเลือกของเบลล่าว่าจะเลือกทางไหน กล่าวคือ เลือกแวมไพร์ ริบบิ้นจะขาดลงชีวิตความเป็นมนุษย์สูญสิ้นครอบครัวเพื่อนๆ สายสัมพันธ์เหล่านี้จะจะขาดออกจากกัน หรือ เลือกหมาป่า เธอจะได้ชีวิตมนุษย์คืนมาทั้งยังครอบครัวเพื่อนพ้องด้วย
แต่ในอีกนัยยะหนึ่งริบบิ้นที่ใกล้จะขาดยังบ่งบอกได้ว่าเธอยังลังเล ไม่แน่ใจและอาวรณ์ถึงชีวิตแบบมนุษย์ธรรมดาอยู่แม้ว่าได้ตัดสินใจไปแล้วเมื่อตอนท้ายเล่ม New Moon แต่ใน Eclipse เธอเริ่มมีอาการลังเล (ตลอดเล่มเลยก็ว่าได้) แต่แนวคิดนี้ไม่เฟิร์มเพราะชาวบ้านเขาตีความกันไม่ใช่ นักเขียนนะค่ะ^^
Breaking Dawn and "From the Pawn to the Queen"
"จากเบี้ยสู่ราชินี" ในหน้าปกของเล่ม 4 เป็นการสื่อถึงเบลล่าที่ตั้งแต่เริ่มเรื่องเธอเป็นเพียงมนุษย์ที่อ่อนแอที่สุดในกระบวนทัพ เป็น เบี้ย เป็นเบ้ คอยแต่ให้เขามาปกป้อง แต่ในเล่ม 4 เบลล่าจะปฏิวัติเปลี่ยนตนเองมาสู่ การเป็นราชินีของกองทัพแวมไพร์ (ครอบครัวคัลเลน)
เบลล่าในรูปลักษณ์แวมไพร์ กลายเป็นแวมไพร์ที่มีแข็งแกร่งที่สุดของครอบครัว ทั้งจากที่เธอเป็น New Born ที่จะแข็งแรงที่สุด เบลล่ายังมีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ความเป็นแวมไพร์พัฒนาความสามารถของเธอให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเบลล่าเปี่ยมไปด้วยเมตตา มีจิตใจดีเสมอ ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง จะเห็นว่าเวลาคับขันน้องจะฉลาดเอาตัวรอดสุดๆ ยิ่งเป็นแวมไพร์แล้วยิ่งเข้มแข็งขึ้นอีกขั้น
จิตใจที่ปิดกั้นความสามารถที่ส่งผลต่อจิต อย่างความสามารถของ เอ็ดเวิร์ด เจน และอาโร พัฒนากลายเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเบลล่าที่เรียกว่า "เกราะพลังจิต" (Mind Shield) ที่สามารถขยายวงไปล้อมรอบคนที่เธอต้องการปกป้องได้ด้วย (เพราะเหตุที่เธอชอบห่วงชาวบ้านเขาก่อนเลยกลายเป็นความสามารถแบบนี้) ทำให้คนที่อยู่ในวงล้อมไม่โดนทำร้ายจากการทำร้ายทางจิต (น้องเจนจ๋อยไปเลยค่า 555)
ทำให้เธอกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพ เป็นราชินีของกระดานหมากรุก และกลายเป็นผู้ปกป้องบุคคลอันเป็นที่รักและครอบครัวที่สำคัญ อย่างที่เธอต้องการมานานแสนนาน
Credit: http://solma.exteen.com
ของเก่าไป ของใหม่มา (มาเยอะด้วย) ><''