คอลลาเจนคือ ที่เรียกกันว่าคอลลาเจนนั้นมันมีรากศัพท์มาจากภาษากรีก Kolla ซึ่งแปลว่ากาว เนื่องจากมันมีหน้าที่เป็นกาวเชื่อมเซลล์แต่ละเซลล์เข้าด้วยกัน แต่ความจริงแล้วคอลลาเจนเป็นประเภทหนึ่งของโปรตีนที่พบได้ในเซลล์ต่าง ๆ ของสัตว์หลายเซลล์และเป็นโปรตีนที่พบมากในสัตว์เลือดอุ่นและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเป็นโปรตีนหลักในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissues) ในคนเราจะมี คอลลาเจน ในปริมาณมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกายเราเอง เมื่อส่องกล้องดูจะเห็นคอลลาเจนมีลักษณะเป็นเส้นใยยาว ๆ อยู่ในรูปของคอลลาเจนไฟเบอร์ (collagen fibers) จะทำให้เซลล์ต่างๆ คงรูปร่างได้ และเนื่องจากมันเองมีความสามารถในการทนแรงดึงสูง จึงทำให้เป็นองค์ประกอบสำคัญในกระดูก กระดูกอ่อน ฟัน และทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นสูง คอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหน้า จึงทำหน้าที่เป็นส่วนคล้ายสปริงที่มีหน้าที่ในการสร้างความตึงให้กับผิวหน้า ซึ่งคุณสามารถสัมผัสกับความตึงของคอลลาเจนได้ โดยลองจับแก้มเด็กตัวเล็กๆ จะสัมผัสได้ทันทีถึงความสดใสเต่งตึงที่ผิวแก้ม หรือเด็กวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มสาวจะเห็นว่าผิวพรรณสดใส เด้งดึ๋งๆ เลยทีเดียว คอลลาเจนทำหน้าที่อะไรในร่างกายเรา คอลลาเจนนี้ในร่างกายคุณจะทำหน้าที่เสริมความเรียบตึงของผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรงและเรียบเนียน เต่งตึง ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ลดการเกิดริ้วรอย และจุดด่างดำต่างๆ จะอยู่คู่กับโปรตีนที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง คือ อิลาสติน Elastin ในขณะที่คอลลาเจนมีหน้าที่เสมือนโครงสร้างของผิว และทำให้ผิวเต่งตึง ส่วนอิลาสตินจะมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว ซึ่งทำให้ผิวไม่มีริ้วรอยและเรียบเนียน
การดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใส และคงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เฝ้าแสวงหา เพราะไม่ว่าใคร ๆ ก็อยากสวยใสเป็นธรรมชาติ แต่เมื่อธรรมชาติไม่เป็นใจ ผิวหน้าที่เริ่มแปรสภาพทั้งสิว ฝ้ากระ รอยตีนกา ร่องแก้ม ปรากฏให้เห็นเด่นชัดจนนับตัวเลขได้ ใครจะยอมอยู่นิ่งเฉย ผิวหน้าเป็นส่วนที่บอบบางและอ่อนแอที่สุดในบรรดาผิวทุกส่วน และเมื่อวัยมากขึ้น ผิวยิ่งอ่อนแอซึ่งมีสาเหตุมาจากคอลลาเจนเริ่มเสื่อมสภาพลง จึงส่งผลให้ผิวเกิดอาการหย่อนคล้อย ประกอบกับกล้ามเนื้อบนผิวหน้าเป็นส่วนเดียวของร่างกายที่ไม่เกาะกับกระดูก แต่เกาะกับผิวหน้าแทน ดังนั้น เมื่อผิวหน้าแสดงความรู้สึกไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว ฯลฯ กล้ามเนื้อก็จะขยับเขยื้อนไปมาด้วย ในวัยเด็ก การแสดงความรู้สึกต่าง ๆยังไม่ส่งผลใด ๆ ต่อผิวหน้า เพราะคอลลาเจนยังทำงานได้ดี แต่เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะหยุดผลิตคอลลาเจน เมื่อยิ้ม หัวเราะ หรือทำอะไรกับใบหน้าแรง ๆ ผลที่เกิดขึ้นก็คือริ้วรอยเหี่ยวย่น และเกิดรอยตีนกานั่นเอง ต้นเหตุแห่งการเกิดรอยเหี่ยวย่นของผิวหนัง มาจากการขาดคอลลาเจน ใช่ไหม แต่เมื่อกาลเวลาผ่านผันภายหลังอายุ 25-30 ปีขึ้นไป ร่างกายคุณจะลดการสังเคราะห์คอลลาเจน โดยลดลงไป 1-1.5% ในทุกๆ ปี และจะหยุดผลิตคอลลาเจนโดยสิ้นเชิงเมื่ออายุ 45 ปี เมื่อคอลลาเจนเสื่อมสภาพลง หรือในคุณๆวัยหนุ่มสาวที่ไม่ดูแลผิวทำให้ร่างกายมีคอลลาเจนไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงทำให้ชั้นผิวหนังมีการยุบตัวลงปั้บ ครานี้จึงเป็นปฐมเหตุแห่งการเกิดรอยเหี่ยวย่นของผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นริ้วรอยตามส่วนต่างๆและความชราของผิวพรรณ ริ้วรอยชราที่พบได้บ่อยมากมักเป็นรอยตีนกา เหตุเพราะผิวหนังรอบดวงตามีความบอบบางอย่างมาก อีกทั้งกล้ามเนื้อรอบดวงตาก็เป็นกล้ามเนื้อวงกลมไม่มีอะไรยึด ผิวรอบดวงตาจึงแห้งเหี่ยวย่นได้ง่ายกว่าผิวที่อื่นๆ การรับประทานรวมไปทั้งการฉีดคอลลาเจนจะช่วยชะลอความเหี่ยวย่นและช่วยลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นได้ คอลลาเจนมีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อกระชับไม่หย่อนยาน ผิวหนังไม่เหี่ยวย่น อีกทั้งยังบำรุงเล็บและเส้นผมให้มีสุขภาพดีอีกด้วย