Quote Originally Posted by thongchai9309 View Post
ฮืม การลดน้ำหนัก โดยทั่วไปแล้วต้องเข้าใจก่อนว่า การที่น้ำหนักตัวเพิ่มมีสาเหตุจากอะไร จริงๆแล้วแทบจะเรียกได้ว่ามีสาเหตุเดียวคือการทานอาหาร (ในคนปกติที่ไม่ได้เป็นโรคนะครับ) ส่วนใหญ่ผู้หญิงมักจะโทษว่า 1-มีลูกเลยอ้วน 2-พ่อแม่อ้วนเป็นกรรมพันธ์ 3- ทานยาคุม ฉีดยาคุม 4-ทานยาลดน้ำหนัหยุดยาเลยอ้วน 5-ทำหมันเลยอ้วน ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดมาตลอด
วิธีการลดน้ำหนักมีวิธีเดียว(เท่านั้น) คือ...การคุมอาหาร โดยทั่วไปผมแนะนำผู้ที่จะลดน้ำหนักทำดังนี้(ไม่ได้บังคับนะครับ)1-คือของเหลวต่างๆให้ทานน้ำเปล่าเป็นน้ำเย็นน้ำอุ่นน้ำแข็งก็ได้แต่ให้เป็นน้ำเปล่า งดให้หมดเลยชา กาแฟน้ำอัดลมทุกชนิด นมจืด นมเปรี้ยว ชาเขียวไมโล โอวัลติน โยเกิร์ต นมพร่อง มันเนย ชาเย๊นโอเลี้ยง น้ำเต้าหู้(แม้จะไม่ใส่น้ำตาลก็ตาม) แก้วมังกร น้ำสำรอง สรุปถ้าไม่ใช่น้ำเปล่าต้องไม่ทานนะครับ 2-มื้อเย็นให้งดจริงๆ ไม่ใช่งดข้าวแล้วไปทานผักผลไม้ ส้มตำ ขนมปังแทน ผมยืนยันว่าการไม่ทานมื้อเย็นไม่ส่งผลเสียใดๆทั้งสิ้นในการกำรงชีวิต เพียงแต่ในช่วงแรกๆ ผู้หญิงมักหงุดหงิน(แทบขาดใจตาย) ให้สังเกตพระดูก็ได้ เพียงแต่ช่วงแรกๆค่อยๆฝึกงดเท่านั้นเองแล้วจะชิน ข้อ2 ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะทำได้ยากมากครับเป็นปกติอยู่แล้ว 3-งดทานของจุกจิกทุกอย่าง
ส่วนการลดน้ำหนักโดยใช้ตัวช่วยต่างๆเช่น การเข้า M..F หรือที่โฆษณาอื่นๆ แม้กระทั่งยาลดยืนยันว่าไม่มีความจริง ถ้าจริงคนรวยก็ผอมได้ทุกคน หรือ ถ้าจริงลองใช้บริการดูก็ได้ โดยที่เราไม่คุมอาหารเลยลองดูว่าจะลดไหม หรือลองสังเกต คนรวยๆ ทำไมเขาไม่ผอมหุ่นสวยๆ ทั้งที่จ่ายได้ทุกๆอย่าง แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือการคุมอาหารนะครับ
สิ่งที่ผมอธิบายไปส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะทำไม่ค่อยได้ เพราะเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่ส่วนใหญ่ชอบการรับประทาน ลองสังเกตุดูก็ได้นะครับ เวลาจะทานอะไรก็ตาม ผู้หญิงมักมีเหตุผลในการทานเช่น วันนี้ทานไปก่อนพรุ่งนี้ค่อยงด อันนี้เป็นผักผลไม้ทานแล้วไม่อ้วน อันนี้ทานนิดเดียวไม่อ้วน คือพยายามต่อรองกับตัวเองเพื่อที่จะทานอาหารนั้นๆ เพราะฉะนั้นสังเกตุว่า คลินิกความงามเปิดที่ไหนก็รวยครับ ส่วนเรื่องยาลดน้ำหนัก ถ้าจะทานแนะนำว่า ยาเป็นแค่ตัวช่วยให้ทานได้น้อยลง ทานยาแล้วเรารู้สึกไม่หิวมีปากแห้งคอแห้งให้ทานน้ำมากๆ อันตรายไม่มีถ้ารับการรักษาจากแพทย์นะครับ การหยุดยาไม่มีผลกับน้ำหนักนะครับ ถ้าไม่ทาน พร่ำเพรือยังไงน้ำหนักก็ไม่ขึ้นนะครับ เพียงแต่เวลาหยุดยาจะหิวมากๆ เรียกว่าโหยก็ได้ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะคุมความหิวได้ให้ไปหาหมอเพื่อลดขนาดยาลงหรือที่เรีบกว่าตัดยานะครับ ส่วนการนวดตัว หรือสถานความงามต่างๆ จะกี่แสนหรือกี่ล้านก็ตามก็ต้องคุมอาหาร เหมือนกันนะครับ ส่วนการออกกำลังกายจริงแล้วดีมากแต่เวลาพูดแล้วเหมือนจะทะเลาะกันเพราะ คนที่จะลดต้องสมัครใจทำมากกว่าที่จะบังคับให้ออกกำลังกาย ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับ คุมคุมคุมอาหาร

ถูกต้องเรยค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบ

สรุปนะครับ...
1. ควบคุมอาหาร
2. ออกกำลังกาย
3. วัดสัดส่วนด้วยสายวัด อก เอว สะโพก ต้นขา ต้นแขน อย่าชั่งแต่น้ำหนักครับ

อันนี้เด่นอ่านๆ มาแล้วก็วิเคราะห์นะครับ
สิ่งที่ทุกคนทำในการลดน้ำหนักคือ "การอดอาหาร" เด่นว่าผิดนะครับ

ที่ถูกต้องคือ การควบคุมอาหาร และ การออกกำลังกาย

ทำไมบางคนอ้วนง่าย?? ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการอดอาหารครับ เวลาเราอดอาหาร ร่างกายจะปรับกระบวนการเผาผลาญให้น้อยลง เพื่อให้เราอยู่รอดครับ

เพราะฉะนั้น ถ้าเราอดอาหาร ผลคือ
1. ผอม
2. ระบบเผาผลาญต่ำ

ถ้ากลับมาทานปกติ ก็อ้วนครับ เพราะว่าที่ทานไป ร่างกายเผาผลาญไม่หมดครับ

สิ่งที่ต้องทำควบคู่การควบคุมอาหารคือ การทำให้ระบบเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น วิธีการก็คือการออกกำลังกายครับ

กลับมาที่การวัดสัดส่วน ทำไมเด่นถึงบอกว่าเราวัดแต่น้ำหนักไม่ได้? นั่นเป็นเพราะว่าการออกกำลังกายจะทำให้ไขมันหายไป แต่จะมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมาครับ

ปกติมวลกล้ามเนื้อจะหนักกว่าไขมันครับ นั่นหมายความว่า คนที่หุ่นนักกีฬารูปร่างเพรียว สามารถมีน้ำหนักเท่าคนที่อวบกว่าได้ครับ

ถ้าชั่งแต่น้ำหนักอาจจะหมดกำลังใจนะครับ ว่าทำไม ทั้งควบคุมอาหาร และ ออกกำลังกายแล้ว น้ำหนักไม่ลด? จริงๆ ไขมันหายไปแล้วนะคับ แต่มีกล้ามเพิ่มขึ้นมา และระบบเผาผลาญก็ดีขึ้นครับ

ยังไงก็ลองวิเคราะห์และปฎิบัติดูนะคับ จะได้หุ่นดีๆ ระบบเผาผลาญแจ่มๆ กันคับ