Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 8 of 8

Thread: เสียความรู้สึก อย่างแรง...

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking เสียความรู้สึก อย่างแรง...

    เสียความรู้สึก

    ใครไม่เคยเสียความรู้สึกบ้าง?.... ต้องตอบว่าเราเคยเสียความรู้สึกด้วยกันทั้งนั้น
    เสียความรู้สึก หรือ ความรู้สึกเสีย ?
    ก็คือ แต่เดิมเรารู้สึกดีแต่คราวนี้รู้สึกไม่ดี.. ถามว่า เราควรจะทำอย่างไรดี ?...
    ถ้าเปรียบเป็นสิ่งของ...ของนั้นก็ต้องเป็นของเสีย ของนั้นเป็นของบูดเน่า... เราจะต้อง ทำอย่างไร. . ?
    เราต้องรีบเททิ้ง เพราะเป็นของไม่ดี ......เพราะอาจจะมีกลิ่นรบกวน อาจจะกลายเป็นอาหาร ของหนู แมลงสาบ...
    คราวนี้เราจะต้องเจอกองทัพสัตว์ที่น่ารังเกียจ สกปรก มีเชื้อโรคอีกด้วยใช่ไหม.? หนักเข้าไปใหญ่เลยคราวนี้
    ดังนั้นเราต้องรีบทิ้งของนั้นไปเสียโดยเร็วที่สุด เพื่อความสะอาดเพื่อความปลอดภัยของเราและคนในครอบครัว...
    ใจเราก็เหมือนกัน...ใจที่เสีย... เป็นใจไม่ดี เป็นไปกับโทสะ... เป็นบาป
    น่าแปลกนัก.....ที่บุคคลทั้งหลายกลับเฝ้ากอดรัดความรู้สึกที่เสียๆนั้นไม่ยอมเลิกรา... เคยเห็นคนที่เขาเสียใจกำลังเสียความรู้สึกคนหนึ่ง...เขาบอกว่า...ยังบอกไม่ได้ว่าจะทำใจ (ยอมรับ)ได้หรือไม่...เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาอีกนาน...
    เห็นไหม ?.. คนส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้ ใจดี ๆไม่เอา ชอบใจที่เสีย ๆ... ยิ่งเป็นการทำร้ายใจตัวเองเท่าไหร่...ให้ต้องมาคอยคิดเรื่องที่น้อยอกน้อยใจอย่างนั้นละก็....ชอบนัก...
    คิดให้ปวดใจเล่นลึก ๆไปซะอย่างนั้น...ไม่รู้ว่าตัวสะบักสะบอมหัวใจสักแค่ไหน...แต่ก็ยังไม่ยอมละกลับเฝ้าสงวนความรู้สึกแย่ ๆนั้น ราวกับของมีค่า ?..
    แปลกแต่จริง...เรามักเกิดความรู้สึกอย่างนี้กับผู้ที่เรารักหรือพูดอีกนัยหนึ่งคือคนที่เราอยากให้เขารักเรา มาชอบเรานั่นแหละ...อยากให้เขาแสนดีกับเรา ....
    ส่วนเราจะเป็นมารร้ายแค่ไหน เขาต้องยอมรับถ้าเขาไม่ยอมรับ... เราก็จะโกรธ น้อยใจ เสียใจ เสียความรู้สึกนั่นแหละ...
    เขาจะทำดีกับเราร้อยครั้ง พันครั้ง....แต่แค่เพียงเขาทำเรื่องที่เราไม่ถูกใจ พูดอะไร ไม่ถูกหูซักครั้งเดียวหรือเขาไปชื่นชมคนที่เราเกลียด....
    เราก็จะโกรธ น้อยใจ เสียความรู้สึกเอาง่าย ๆอย่างนั้นแหละ...
    แต่ถ้าหากเราทำอะไรไม่ดีกะเขาไปบ้าง....เราก็จะเฝ้ารำพันว่าเราสู้อุตส่าห์ทำความดีมากมาย..... ฉันทำไม่ดีเพียงแค่นี้ทำไมเธอช่างใจร้ายไม่ให้อภัยฉันเลย...
    เราก็เฝ้าอยากให้เขาให้อภัยเห็นอกเห็นใจเรา..... หากเขาทำไม่ได้... เราก็จะเสียใจ เสียความรู้สึกกับเขา...แต่หากเป็นทีของเราบ้าง เขาจะแสนดีอย่างไร เราก็ยิ่งอยากให้แสนดีอยู่อย่างนั้นหรือดียิ่งกว่านั้น...
    เพียงเรื่องที่เราไม่ถูกใจเราก็โกรธริมเป็นริมตาย อภัยให้ไม่ได้...
    ลืมความดีนับร้อยของเขา... เก็บงำแต่ความไม่ดี เพ่งโทษนั้นจนเป็นเรื่องใหญ่โต เจ็บจำไม่มีวันลืม...ผูกโกรธไม่มีวันลืม... เรื่องดี ๆ ลืมหมด เรื่องไม่ดีละไม่มีวันลืม...แค้นแสนแค้น...
    เห็นไหม...คนขาดปัญญานี่ชีวิตเต็มไปด้วยขยะ... ท่านเปรียบเหมือนตระกร้าของคนบ้า... เพราะเก็บงำแต่เรื่องที่เป็นโทษคนแบบนี้เรื่องที่เป็นประโยชน์แก่จิตใจนั้นไม่เอาเลย... ตรงกันข้ามกับคนมีปัญญาท่านเรียกตระกร้าของคนดี...เพราะเลือกของดีเก็บไว้ ของไม่ดีไม่เอา...
    ทีนี้ ให้เราถามตัวเองว่าเราจะเป็นตระกร้าของคนบ้าหรือเป็นตระกร้าของคนดี ?...
    ปัญหานี้...หากจะว่ากันจริงๆ คือเรารู้..รู้ว่าเวลาเราทุกข์ เราโกรธ เราเสียใจ น้อยใจนั้นเป็นเรื่องไม่ดี
    เราเองก็อยากจะพ้นไปจากความรู้สึกอย่างนั้นแต่เราไม่รู้วิธีที่จะพาใจของเราออกมาให้พ้นจากใจที่เสีย...เรื่องนี้เป็นเรื่องของปัญญา..ปัญญาที่จะต้องขึ้นมาเป็นผู้พิจารณา
    คนถามหาผล นั้นได้กิเลส...คนถามหา เหตุ ได้ปัญญา
    อย่างไร ชื่อว่าถามหาผล?...ก็ที่เราโดยมากมักจะทำกัน...เราจะถามตัวเองในใจเสมอๆ
    ถามว่า ทำไม เธอจึงไม่รักฉัน...ทำไมเธอจึงทิ้งฉันไป...ทำไมเธอช่างใจร้ายใจดำ
    ทำไมเธอไม่เห็นความดีของฉัน..ทำไมเธอถึงไม่ให้อภัยฉันทำไมเธอจึงไปมีเมียน้อย?
    โอโฮ ! ....คำถาม ทำไม ร้อยแปดเข้ามาในหัวของเรา
    อย่างนี้ ชื่อว่าเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ...เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีวันได้คำตอบ
    เป็นการถามที่อยากให้ผลที่ต้องการนั้นเกิดขึ้นคนที่ถามอย่างนี้ได้กิเลส...เพราะเหตุใด? ก็เพราะว่า ผลอย่างที่ต้องการหรือแม้แต่คำตอบคำอธิบาย จะไม่มีแน่นอน... หรือมีก็ไม่ใช่ความจริง....เขาอยู่กับเรา เขาเป็นทุกข์เขาก็ต้องไปอื่น...
    เรื่องที่เราต้องยอมรับแล้วหักใจออกมาเสีย..เราจะมีความสุขด้วยเหตุแห่งความรักของคนอื่น...เราจะต้องทุกข์และหวั่นไหว ทั้งชาติ..เพราะต้องพึ่งปัจจัยของคนอื่น
    เหมือนเราพึ่งตัวเองไม่ได้เราต้องคอยเขาป้อนข้าวป้อนน้ำให้
    หากวันใดเขาไม่สามารถป้อนข้าวป้อนน้ำเราได้..เราจะเดือดร้อนเป็นทุกข์อย่างที่สุด
    เขาไม่รักเรา..แต่เราต้องรักตัวเราเอง
    เขาไม่เห็นความดีของเรา..เราต้องเห็นความดีของตัวเองหรือทำให้ความดีของเราเกิดขึ้น มีมากขึ้นๆ จนกระทั่งเราเคารพตัวเราเองได้
    เขาทิ้งเราไป..แต่เราต้องไม่ทิ้งตัวไม่ทิ้งชีวิตที่แสนดีของเราด้วยการเฝ้าเพรียกหาความรักความเข้าใจของคนอื่น..แต่เราเข้าใจตัวเราเองเป็นที่สุด
    เขาไม่เห็นประโยชน์ของเรา..แล้วเราเห็นประโยชน์ตัวเราเองหรือยัง?
    เรารู้หรือไม่ว่าเราได้อัตภาพแห่งความเป็นมนุษย์นั้น ประเสริฐเพียงใด?
    ประเสริฐตรงที่เราทำให้ชีวิตของเรามีค่าประเสริฐยิ่งๆขึ้นได้
    สามารถทำประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน
    สามารถเข้าถึงประโยชน์ชาตินี้ประโยชน์ชาติหน้า และได้สร้างปัจจัยแห่งประโยชน์อย่างยิ่ง
    นี้..เรารู้ได้ ทำได้เพราะได้ศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาที่เราสามารถรู้หนทางแห่งประโยชน์ทั้งสามได้..ด้วยปัญญาที่เกิดขึ้นจากการฟังการศึกษาเล่าเรียน
    เริ่มทำประโยชน์เสียตั้งแต่บัดนี้...ทิ้งใจที่เสีย สร้างใจที่ดีหันหน้าเข้าสู้ ไม่ใช่หันหนี
    เราต้องเข้มแข็งไม่ใช่อ่อนแอ...เพราะเรารักตัวเองเป็น....
    เสียความรู้สึกได้แต่อย่าเสียนาน..รีบหันกลับ....เพ่งเอาประโยชน์ ไม่เพ่งเอาโทษ..
    แล้วเราจะมีความสุขได้ ด้วยตัวเราเอง...เพราะเรามีใจเป็นเพื่อนที่แสนดีของเราโดยเราจะไม่เรียกร้องหาเพื่อนจากที่อื่นจนตัวเราเดือดร้อน......

    ขอบคุณบทความดี ๆ จาก รักษาธรรมะ . คอม
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking

    ความเอ๋ย ความรัก
    รักเอย..จริงหรือที่ว่าหวาน...?
    คนเราเกิดมาทุกคนล้วนแต่แสวงหาความรัก....เราเป็นสัตว์โลกที่ต้องเกี่ยวพันกับความรักมีเอนกประการ...รักแม่ รักพ่อ รักญาติ รักเพื่อน คนรัก รักสามี รักภรรยารักบุตรธิดา...ฯลฯ..ความรักนั้นเป็นดอกไม้แสนสวยทั้งหอมและหวานบนโลกใบนี้แต่กระนั้น..ความรักกลับฆ่าบุคคลทั้งหลายอย่างเลือดเย็นทำให้มีคนมากมายเดือดร้อนเป็นทุกข์ เพราะความรัก.....รักที่ไม่ประกอบ "ปัญญา" นั้นย่อมทำให้คนที่มีรักนั้น หรือแม้แต่คนที่ถูกรักเป็นทุกข์เดือดร้อน..จนต้องมีคำถามว่า..รักเอย..จริงหรือที่ว่าหวาน.. ? รักมากดีไหม ? รักมาก ก็ทุกข์มาก...
    แต่เราก็ชอบใจที่เรารักใครมากๆซักคน...ยิ่งถ้าเราถูกใครรักมากๆแล้วเรายิ่งชอบใจใหญ่....
    ความรักทำให้เรา "ลืม" ความทุกข์เพราะความหอมหวาน นั่นแหละ ที่ทำให้เราลืมว่ารักนั้นจะทำให้เราต้องตรอมใจในเวลาต่อมาหากรักแล้ว...ไม่สมรัก ก็เป็นทุกข์...
    แม้ว่าสมรักแล้วนั่นแหละ..ใจก็ยังหวั่นไหวว่าจะสูญเสีย คนที่รักนั้นไป...ใจก็เดือดร้อนเป็นทุกข์โดยไม่รู้ตัว
    พระพุทธองค์ทรงรับสั่งว่า "การประสบสิ่งไม่รัก เป็นทุกข์... ปรารถนาสิ่งใดไม่สมปรารถนาเป็นทุกข์"งานนี้ทุกข์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องอยู่ในสภาพต้องพบต้องเจออารมณ์หรือบุคลคลที่ตนไม่ชอบ ก็เป็นทุกข์หรือแม้ไม่สมรักก็เป็นทุกข์..เราจึงต้องบริหารความรัก และบริหารใจเราด้วยปัญญาจึงจะสามารถพาจิตใจของตนให้พ้นจากความทุกข์ทั้งหลายได้... ผู้ใดมีปัญญาย่อมมีความสุขทางใจอย่างยิ่ง... เราจะเห็นได้ว่า บางคนมีเงินทองมากมาย รูปสวยรวยทรัพย์ แต่ก็หาความสุขทางใจไม่ได้ เดือดร้อนทุรนทุรายอยู่มิเว้น...
    เพราะเราไม่เคยรู้ว่า.....ที่ว่าเรารัก "คนอื่น" น่ะ จริง ๆ แล้วเรารักใคร.. ? พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า"รักอื่นเสมอรักตนนั้นไม่มี"จึงมีบัณฑิตท่านขยายว่าการที่เราเป็นผู้รักตนมากนั่นเองจึงปรารถนาให้คนอื่นมารักตัวเองอย่างที่เราอยากจะให้เขามารักตน..ลองคิดดูว่าจริงไหม.. ?
    เราทนไม่ได้......ที่เขาไม่รักเราอย่างที่เราอยากจะให้มารัก ...
    เราทนไม่ได้......ที่เขาไม่มาใส่ใจเราเท่าที่เราต้องการ...
    อะไร ๆ ก็วิ่งกลับมาไม่พ้น รักตน นั่นเอง...
    ถ้ารักคนอื่นจริง ๆ แล้วละก็ .........เขาเป็นสุขอย่างไรก็ต้องมีใจมุฑิตา ยินดีในความสุขของเขาตามแต่ที่เขาจะเป็นมิใช่หรือ? ทำไมต้องดึงให้กลับมาหา..ตัวเอง.. ด้วยเล่า.. ?
    ก็เพราะเหตุที่เรา "รักตน"ยิ่งกว่าสิ่งใดมิใช่หรือ.. ? นี้เป็นความจริงที่เราต้องยอมรับ..เมื่อเห็นความจริงอย่างนี้แล้ว เราควรถามตัวเองอีกว่า ที่เรารักตัวเองนั้นเรารักอย่างมีปัญญา หรือรักแบบคนตาบอด
    คนมีปัญญาย่อมรักตัวเป็น....กตัญญูต่อตัวเองเป็น... เมตตาตัวเอง ...ไม่ทำร้ายตัวเองด้วยการใส่ใจในสิ่งที่ไม่ควร... จนจิตใจหมองไหม้เป็นทุกข์ตลอดเวลา...เพราะว่าวางใจไม่ถูก...
    เรานั้นมักเฝ้าเพรียกหาคนอื่นมาปลอบใจตัวเรา ทั้ง ๆที่เราเองไม่คิดจะช่วยเหลือตัวเองให้พ้นจาก ทุกข์และโทษเลย...ถ้าเรารักตัวเราเป็นแล้ว ..ใยจึงต้องปล่อยใจตัวเองให้ตกจมไปกับทุกข์อย่างนั้นด้วย?. ขนาดเรายังไม่รักตัวเองเลย ประสาอะไรจะให้คนอื่นมารักเราเล่า..? ถ้าเรารักตัวเราเองจริงๆ แล้วละก็เราจะทำร้ายใจตนเองอยู่ทุกวี่ทุกวัน ได้อย่างไร?
    เหตุกับผลไม่ตรงกันเลย...หากเราเป็นคนที่รักตัวเอง เมตตาตัวเองเราต้องทำให้ตัวเองมีค่า....
    เมื่อเรารักตัวเองได้แล้ว...เราก็จะไม่ถวิลหาคนอื่นให้มารักเราอย่างที่เป็นอยู่... ทำได้แล้วเราจะเป็นสุข...สุขที่มีตนเป็นที่พึ่งไม่ต้องพึ่งรักจากคนอื่น
    เลิกทำร้ายตัวเอง หันกลับมารักตัวเองให้เป็นด้วย "ปัญญา" เถิดแล้วเราจะตระหนักถึงคุณค่าแห่งชีวิตอันประเสริฐของเรา.....

    ขอบคุณบทความดี ๆ จากรักษาธรรมะ . คอม
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  3. #3
    RrabbitZ's Avatar
    RrabbitZ is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    3,096
    ธุจ้า พี่ฮัท

    มีประโยชน์มากจริงๆค่ะ ขอบคุณนะคะ

  4. #4
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    94

    Talking

    โอ๊ยยยยยย จริงที่สุดคุณฮัท..แทงใจดำอีกต่างหาก (^_^) อยากให้
    คนแถวบ้านมาอ่านเจอจังเล้ย ขอบคุณมากๆๆๆเลยค่ะ ขออนุญาตเซฟ
    ไปเผยแผ่ต่อเลยแล้วกันนะคะ เรื่อง "เสียความรู้สึกเนี่ย" โดนจายยยย
    ห่างๆกันบ้าง (ก็น่าจะ) ดี เสียตังค์ตะ-หลอด เร๊ยยยยยยย (^^)'

  5. #5
    Join Date
    May 2010
    Posts
    4,386
    สุดยอดคุณฮัท แต่ละกระทู้ได้ข้อคิดดี ๆ ทุกครั้ง มิเสียแรงที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าห้องเพลงจริง ๆ เวลาสมาชิกเล่นแล้วตีกัน งัดธรรมะมาจัดการโลด

  6. #6
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    ขอบคุณคุณฮัทจ้า ได้ข้อคิดใหม่เพียบเรย ^^
    I believe we all have one true love
    Somewhere in this world, I do

  7. #7
    barumbum is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    ขอบคุณมากค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

  8. #8
    huahorm's Avatar
    huahorm is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2,880
    จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล บอกไว้)

Similar Threads

  1. +*+* แม่น อย่างแรง เป็นยังไงบ้าง แชร์กันหน่อยน้า+*+*
    By Irean in forum HUMAN; All General Interests เรื่องสนใจส่วนตัว ชมรม ทั่วไป
    Replies: 12
    Last Post: 05-04-2009, 08:18 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •