เสียความรู้สึก
ใครไม่เคยเสียความรู้สึกบ้าง?.... ต้องตอบว่าเราเคยเสียความรู้สึกด้วยกันทั้งนั้น
“ เสียความรู้สึก ” หรือ ความรู้สึกเสีย ?
ก็คือ แต่เดิมเรารู้สึกดีแต่คราวนี้รู้สึกไม่ดี.. ถามว่า เราควรจะทำอย่างไรดี ?...
ถ้าเปรียบเป็นสิ่งของ...ของนั้นก็ต้องเป็นของเสีย ของนั้นเป็นของบูดเน่า... เราจะต้อง ทำอย่างไร. . ?
เราต้องรีบเททิ้ง เพราะเป็นของไม่ดี ......เพราะอาจจะมีกลิ่นรบกวน อาจจะกลายเป็นอาหาร ของหนู แมลงสาบ...
คราวนี้เราจะต้องเจอกองทัพสัตว์ที่น่ารังเกียจ สกปรก มีเชื้อโรคอีกด้วยใช่ไหม.? หนักเข้าไปใหญ่เลยคราวนี้
ดังนั้นเราต้องรีบทิ้งของนั้นไปเสียโดยเร็วที่สุด เพื่อความสะอาดเพื่อความปลอดภัยของเราและคนในครอบครัว...
ใจเราก็เหมือนกัน...ใจที่เสีย... เป็นใจไม่ดี เป็นไปกับโทสะ... เป็นบาป
น่าแปลกนัก.....ที่บุคคลทั้งหลายกลับเฝ้ากอดรัดความรู้สึกที่เสียๆนั้นไม่ยอมเลิกรา... เคยเห็นคนที่เขาเสียใจกำลังเสียความรู้สึกคนหนึ่ง...เขาบอกว่า...ยังบอกไม่ได้ว่าจะทำใจ (ยอมรับ)ได้หรือไม่...เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาอีกนาน...
เห็นไหม ?.. คนส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้ ใจดี ๆไม่เอา ชอบใจที่เสีย ๆ... ยิ่งเป็นการทำร้ายใจตัวเองเท่าไหร่...ให้ต้องมาคอยคิดเรื่องที่น้อยอกน้อยใจอย่างนั้นละก็....ชอบนัก...
คิดให้ปวดใจเล่นลึก ๆไปซะอย่างนั้น...ไม่รู้ว่าตัวสะบักสะบอมหัวใจสักแค่ไหน...แต่ก็ยังไม่ยอมละกลับเฝ้าสงวนความรู้สึกแย่ ๆนั้น ราวกับของมีค่า ?..
แปลกแต่จริง...เรามักเกิดความรู้สึกอย่างนี้กับผู้ที่เรารักหรือพูดอีกนัยหนึ่งคือคนที่เราอยากให้เขารักเรา มาชอบเรานั่นแหละ...อยากให้เขาแสนดีกับเรา ....
ส่วนเราจะเป็นมารร้ายแค่ไหน เขาต้องยอมรับถ้าเขาไม่ยอมรับ... เราก็จะโกรธ น้อยใจ เสียใจ เสียความรู้สึกนั่นแหละ...
เขาจะทำดีกับเราร้อยครั้ง พันครั้ง....แต่แค่เพียงเขาทำเรื่องที่เราไม่ถูกใจ พูดอะไร ไม่ถูกหูซักครั้งเดียวหรือเขาไปชื่นชมคนที่เราเกลียด....
เราก็จะโกรธ น้อยใจ เสียความรู้สึกเอาง่าย ๆอย่างนั้นแหละ...
แต่ถ้าหากเราทำอะไรไม่ดีกะเขาไปบ้าง....เราก็จะเฝ้ารำพันว่าเราสู้อุตส่าห์ทำความดีมากมาย..... ฉันทำไม่ดีเพียงแค่นี้ทำไมเธอช่างใจร้ายไม่ให้อภัยฉันเลย...
เราก็เฝ้าอยากให้เขาให้อภัยเห็นอกเห็นใจเรา..... หากเขาทำไม่ได้... เราก็จะเสียใจ เสียความรู้สึกกับเขา...แต่หากเป็นทีของเราบ้าง เขาจะแสนดีอย่างไร เราก็ยิ่งอยากให้แสนดีอยู่อย่างนั้นหรือดียิ่งกว่านั้น...
เพียงเรื่องที่เราไม่ถูกใจเราก็โกรธริมเป็นริมตาย อภัยให้ไม่ได้...
ลืมความดีนับร้อยของเขา... เก็บงำแต่ความไม่ดี เพ่งโทษนั้นจนเป็นเรื่องใหญ่โต เจ็บจำไม่มีวันลืม...ผูกโกรธไม่มีวันลืม... เรื่องดี ๆ ลืมหมด เรื่องไม่ดีละไม่มีวันลืม...แค้นแสนแค้น...
เห็นไหม...คนขาดปัญญานี่ชีวิตเต็มไปด้วยขยะ... ท่านเปรียบเหมือนตระกร้าของคนบ้า... เพราะเก็บงำแต่เรื่องที่เป็นโทษคนแบบนี้เรื่องที่เป็นประโยชน์แก่จิตใจนั้นไม่เอาเลย... ตรงกันข้ามกับคนมีปัญญาท่านเรียกตระกร้าของคนดี...เพราะเลือกของดีเก็บไว้ ของไม่ดีไม่เอา...
ทีนี้ ให้เราถามตัวเองว่าเราจะเป็นตระกร้าของคนบ้าหรือเป็นตระกร้าของคนดี ?...
ปัญหานี้...หากจะว่ากันจริงๆ คือเรารู้..รู้ว่าเวลาเราทุกข์ เราโกรธ เราเสียใจ น้อยใจนั้นเป็นเรื่องไม่ดี
เราเองก็อยากจะพ้นไปจากความรู้สึกอย่างนั้นแต่เราไม่รู้วิธีที่จะพาใจของเราออกมาให้พ้นจากใจที่เสีย...เรื่องนี้เป็นเรื่องของปัญญา..ปัญญาที่จะต้องขึ้นมาเป็นผู้พิจารณา
คนถามหา“ ผล ” นั้นได้กิเลส...คนถามหา “ เหตุ ” ได้ปัญญา
อย่างไร ชื่อว่าถามหาผล?...ก็ที่เราโดยมากมักจะทำกัน...เราจะถามตัวเองในใจเสมอๆ
ถามว่า ทำไม เธอจึงไม่รักฉัน...ทำไมเธอจึงทิ้งฉันไป...ทำไมเธอช่างใจร้ายใจดำ
ทำไมเธอไม่เห็นความดีของฉัน..ทำไมเธอถึงไม่ให้อภัยฉันทำไมเธอจึงไปมีเมียน้อย?
โอโฮ ! ....คำถาม “ ทำไม ” ร้อยแปดเข้ามาในหัวของเรา
อย่างนี้ ชื่อว่าเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ...เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีวันได้คำตอบ
เป็นการถามที่อยากให้ผลที่ต้องการนั้นเกิดขึ้นคนที่ถามอย่างนี้ได้กิเลส...เพราะเหตุใด? ก็เพราะว่า ผลอย่างที่ต้องการหรือแม้แต่คำตอบคำอธิบาย จะไม่มีแน่นอน... หรือมีก็ไม่ใช่ความจริง....เขาอยู่กับเรา เขาเป็นทุกข์เขาก็ต้องไปอื่น...
เรื่องที่เราต้องยอมรับแล้วหักใจออกมาเสีย..เราจะมีความสุขด้วยเหตุแห่งความรักของคนอื่น...เราจะต้องทุกข์และหวั่นไหว ทั้งชาติ..เพราะต้องพึ่งปัจจัยของคนอื่น
เหมือนเราพึ่งตัวเองไม่ได้เราต้องคอยเขาป้อนข้าวป้อนน้ำให้
หากวันใดเขาไม่สามารถป้อนข้าวป้อนน้ำเราได้..เราจะเดือดร้อนเป็นทุกข์อย่างที่สุด
เขาไม่รักเรา..แต่เราต้องรักตัวเราเอง
เขาไม่เห็นความดีของเรา..เราต้องเห็นความดีของตัวเองหรือทำให้ความดีของเราเกิดขึ้น มีมากขึ้นๆ จนกระทั่งเราเคารพตัวเราเองได้
เขาทิ้งเราไป..แต่เราต้องไม่ทิ้งตัวไม่ทิ้งชีวิตที่แสนดีของเราด้วยการเฝ้าเพรียกหาความรักความเข้าใจของคนอื่น..แต่เราเข้าใจตัวเราเองเป็นที่สุด
เขาไม่เห็นประโยชน์ของเรา..แล้วเราเห็นประโยชน์ตัวเราเองหรือยัง?
เรารู้หรือไม่ว่าเราได้อัตภาพแห่งความเป็นมนุษย์นั้น ประเสริฐเพียงใด?
ประเสริฐตรงที่เราทำให้ชีวิตของเรามีค่าประเสริฐยิ่งๆขึ้นได้
สามารถทำประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน
สามารถเข้าถึงประโยชน์ชาตินี้ประโยชน์ชาติหน้า และได้สร้างปัจจัยแห่งประโยชน์อย่างยิ่ง
นี้..เรารู้ได้ ทำได้เพราะได้ศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาที่เราสามารถรู้หนทางแห่งประโยชน์ทั้งสามได้..ด้วยปัญญาที่เกิดขึ้นจากการฟังการศึกษาเล่าเรียน
เริ่มทำประโยชน์เสียตั้งแต่บัดนี้...ทิ้งใจที่เสีย สร้างใจที่ดีหันหน้าเข้าสู้ ไม่ใช่หันหนี
เราต้องเข้มแข็งไม่ใช่อ่อนแอ...เพราะเรารักตัวเองเป็น....
เสียความรู้สึกได้แต่อย่าเสียนาน..รีบหันกลับ....เพ่งเอาประโยชน์ ไม่เพ่งเอาโทษ..
แล้วเราจะมีความสุขได้ ด้วยตัวเราเอง...เพราะเรามีใจเป็นเพื่อนที่แสนดีของเราโดยเราจะไม่เรียกร้องหาเพื่อนจากที่อื่นจนตัวเราเดือดร้อน......
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก รักษาธรรมะ . คอม