Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Page 3 of 7 FirstFirst 1 2 3 4 5 ... LastLast
Results 21 to 30 of 65

Thread: แฟนโกหกกะเที่ยวผู้หญิง

  1. #21
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    156
    เลิกค่ะ

    อยูกับคนที่เค้ารักเรา และเห็นความสำคัญเรา

    ดีกว่าอยู่กับคนที่เรารัก
    ความทรงจำ คอยย้ำเตือน
    ..

  2. #22
    zaushi is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    17
    ลองชั่งน้ำหนักและไตร่ตรองระหว่างผลดี-ผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากเลือกแต่ละทาง
    รับได้กับทางไหนมากกว่า ก็เลือกทางนั้นค่ะ

    -------------------------------------------------------

    แต่สำหรับเรา
    เรื่องที่รับไม่ได้เลย คือ นอกใจนี่แหละค่ะ ขาดเป็นขาด ไม่ทนแน่นอน

  3. #23
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    91
    ในความเห็นเรา อยากให้ จขกท. ถามตัวเองก่อนว่า
    เรารับไม่ได้ ที่เค้า
    1. โกหกเรา หรือ
    2. ไปเที่ยวผู้หญิงหากิน และติดต่อกับผู้หญิงคนอื่น ๆ
    หรือ
    3. ทั้งคู่

    ถ้าเป็นข้อแรก ที่เค้าโกหกเรา ก็อยากให้จขกท. ชั่งน้ำหนักดูว่า เรายังรักเค้ามั้ย
    ถ้ายังรักอยู่ ก็ลองคุยแบบเปิดใจกับเค้าว่า ไม่อยากให้โกหกกัน ถ้าจะไปทำอะไร
    ยังไง ขอให้บอกกันด้วย เพราะเป็นการ respect ซึ่งกันและกัน และเป็นการเอา
    ใจเค้ามาใส่ใจเรา ถ้าคุณโกหกได้ ชั้นก็โกหกได้ใช่มั้ย นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องการรึป่าว
    อยู่กันแบบหลอกลวงกัน เพื่ออะไร?
    (ซึ่งส่วนตัวเรา เรารับไม่ได้ถ้าแฟนเราโกหกค่ะ แฟนเรา​ ณ ตอนนี้ มีบางครั้งที่จะ
    ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ตามเลาจน์ นาน ๆ ที เค้าก็จะบอกเราก่อน เราก็โอเคนะ ไป
    นั่งมองสาว ๆ คนอื่นบ้างก็คงจะกระชุ่มกระชวยดี แต่มองอย่างเดียวนะแก!!)

    ถ้าเป็นข้อสอง ก็คงต้องเลิกกัน เพราะคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ละ เจ้าชู้ยังไงก็คง
    จะเลิกไม่ได้หรอก

    ถ้าข้อสาม ก็ต้องเลิกกันอีกนั่นแหละ


    เอาใจช่วยนะคะ เราต้องรักตัวเองให้มากที่สุดค่ะ อะไรที่จขกท. คิดว่าดีกับตัวเอง
    ที่สุด ก็ตามนั้นเลยค่ะ
    fashion & style updates at::http://whatacatsaw.blogspot.com/

  4. #24
    orange's Avatar
    orange is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    6
    ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเรา มีอย่างเดียวค่ะ เลิก!!!
    ขนาดเป็นแฟนยังแบบนี้ ถ้าแต่งกันไป มีลูกเข้ามานัวเนียอีก เราเป็นผู้หญิงได้แต่ทนอย่างเดียว จะตัดขาดหรือจะอยู่ต่อ ต้องตัดสินใจก่อนแต่งงานนะคะ ไม่งั้นผู้หญิงเสีย กับเสีย ค่ะ
    มีแล้วยังอยากมีเพิ่ม ... STOP ME PLEASE!!

  5. #25
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0

    มีรักก็ย่อมมีทุกข์

    เคยโดนเหมือนกันค่ะ แต่ต้องถามตัวเองว่าขาดเขาแล้วเราโอเคไหม ถ้าไม่ก็คบต่อ ให้โอกาสค่ะ

  6. #26
    yai_625's Avatar
    yai_625 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    254
    โกหกนี่ไม่ไหวนะค่ะแล้วก็คงเปลี่ยนยากแล้วอีกหน่อยเอาโรคมาติดยิ่งไปกันใหญ่
    เปิดใจลองมองคนอื่นดูบ้างอาจเจอดีกว่า เจ็บตอนนี้คงเจ็บไม่นานหรอกค่ะดีกว่า
    ทนไปตลอดชีวิต

  7. #27
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    แนะนำว่าให้ใช้สติคิดทบทวนก่อนดีกว่าค่ะ ว่าถ้าหลังจากนี้เราต้องใช้ชีวิตร่วมกับเขา เราจะรับสภาพแบบนี้ได้อีกรึป่าว เพราะการที่เราแต่งงานกับใครสักคนแล้ว นั่นก็คือคนที่เราเลือกแล้วนะคะ เค้าจะต้องดีและมีคุณธรรมพอที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว ความซื่อสัตย์คือสิ่งที่ผู้หญิงต้องการจากคนรัก พอๆกับการที่ดูและเอาใจใส่ อยากให้จขกท. คิดทบทวนดีๆค่ะ บางทีอาจจะมีคนอื่นที่ดีกว่า พร้อมกว่าที่เรายังไม่เคยพบเจอก้ได้นะคะ สุ้ๆ

  8. #28
    KAN's Avatar
    KAN is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,782
    เหอ..เหอ...ฉันผ่านมาแหละ

    แฟนเราก้อเป็นลักษณะเหมือนคุณ จขกท. เรื่องมันเยอะอย่าไปใส่ใจเอาเป็นว่า
    ตอนคิดว่าตัดสินใจดีไหม เพราะอดีต เหลวร้ายน่าดู ปัจจุบันก้อยังทำอยู่บ้าง.....
    เอาหวะแต่งก้อแต่ง ความดีก้อมี อันคนนี้แหละมันต้องดูแลเราได้ (คงรักเราบ้าง)
    เพราะจากการศึกษากันมาคิดว่าก้อเป็นคนดีระดับหนึ่ง เอาเลยแต่งงาน แรกๆ ก้อดี
    สัก 5 ปี มีกิ๊ก (ก่อนแต่งก้อมีนะ) จับได้เลิกไป 2 ปี จากนั้น มีลูก 1 คน ทุกวันนี้
    ไม่รู้อนาคต แค่เรามีครอบครัวที่เห็นอกเห็นใจกัน เข้าใจกัน เอื้ออาทรต่อกัน และ...
    รักลูกที่เกิดจากเราสองคน แค่นี้เราก้อพอใจที่สุดแล้วค่ะ วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
    ไม่อยากคาดเดาทำวันนี้ให้ดีที่สุด เป็นพอค่ะ " ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน "

    คนเรามีกรรมติดตัวกันมาทุกคน ทำบุญทำทานตามกำลังศรัสทา
    และโอกาส ทุกวันนี้เราอยู่กันก็มีแต่กินบุญเก่า ชดใช้บาปเก่ากันอยู่ เผื่อว่า..
    เกิดชาติหน้าหนใดเราจะได้เจอแต่เรื่องดีๆ นะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
    โชคดีนะค่ะ
    [IMG]file:///C:/DOCUME%7E1/Owner/LOCALS%7E1/Temp/moz-screenshot-9.png[/IMG]
    ไม่มีไพร่ ไม่มีำอำมาตย์ มีแต่...พสกนิกร ปวงชนชาวไทย

  9. #29
    Meesook's Avatar
    Meesook is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    454
    Quote Originally Posted by ap_ap View Post
    เราเสียใจมากแต่ก็รักเขามากเช่นกัน เราโง่รึเปล่าที่ให้อภัยเขาอีกแล้ว ทั้งที่ข้อเสียของเขามันน่ากลัวมาก"โกหก ไม่ซื่อสัตย์ เที่ยวผู้หญิง"แต่ข้อดีเขาดูแลเราดีมาก ความคิดความอ่านทุกอย่างไปในทางเดียวกะเรา แถมสนิทกะครอบครัวเรามากด้วย...เราตาบอดรึเปล่าที่ให้อภัยผู้ชายแบบนี้ ตอนนี้เรามีโครงการณ์จะแต่งงานกะเขาปีหน้าด้วยสิ ..เราตัดสินใจถูกรึเปล่าเนี้ย...


    Quote Originally Posted by ap_ap View Post
    2 เดือนที่แล้ว ที่รับรู้ถึงข้อเสียของคนรักก็ร้องไห้ทุกวัน ร้องทั้งวันเป็นเวลา2อาทิตย์(น้ำหนักลดไป4 โล) ไอ้เราก็ดีใจว่าเรามีภูมิต้านทานโรคนอกใจได้แล้ว น้ำตาคงไม่มีเหลือให้กะสิ่งเลวร้ายแบบนี้อีก ที่ไหนได้...ตั้งแต่เมื่อคืนยังนอนไม่หลับเลยร้องไห้ตั้งแต่ตี2 จนถึง8โมง..ก็มานั่งระบายในsbn นี้ต่อ...จะปรึกษาป๋าแม่ ก็กลัวจะเกลียดพี่เขา หากอนาคตเราต้องแต่งงานกะพี่เขา จะระบายให้เพื่อนฟัง ก็กลัวเพื่อนเบื่อ แถมความคิดเพื่อนก็หลากหลายเหลือเกิน... เรารู้ว่าความคิดของเราเป็นสิ่งที่ดีที่สุด...แต่มันจะกลับมาฆ่าเรารึเปล่าก็ไม่รู้
    เสียใจด้วยนะคะ ที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นกับเจ้าของกระทู้ ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ

    ก่อนอื่นคุณต้องเรียกความมั่นใจในตัวเองกลับมาก่อนนะคะ คุณไม่ได้โง่ ไม่ได้ตาบอดหรอกค่ะที่ให้อภัยเค้า รักกันก็ให้อภัยกัน ไม่แปลกค่ะ และคุณก็ทำดีของคุณอยู่แล้ว ไม่ต้องโทษตัวเองนะคะ...

    ถ้าอึดอัดมากๆ ก็ปรึกษาคนรอบๆ ตัวก็ดีค่ะ อย่างเช่นพ่อแม่ ไม่ต้องกลัวว่าพ่อแม่จะเกลียดแฟนคุณหรอกค่ะ เพราะยังไง ถ้าใครได้ทราบเรื่องนี้ ก็ต้องโกรธแทนคุณอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ทำใจไว้เลยค่ะ (โทษทีพูดตรงไปหน่อย แต่ก็เป็นความจริงที่เลี่ยงไม่ได้ค่ะ) แต่คุณก็คงเข้าใจว่า ที่พ่อแม่โกรธแฟนคุณ เพราะพ่อแม่รักคุณ อย่างน้อย พ่อแม่พี่น้อง ก็ทำให้เราอุ่นใจได้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ยังไงก็ตามการตัดสินใจก็อยู่ที่คุณอยู่ดีค่ะ

    แล้วพอปรับอารมณ์ให้นิ่งๆ ได้แล้วคุณก็ค่อยคิดว่า สิ่งที่คุณต้องการจากชีวิตคู่คืออะไรบ้าง และสิ่งที่คุณรับไม่ได้เลยคืออะไร และมีจุดไหนที่พอจะอะลุ้มอะหล่วยไปได้บ้าง แล้วก็มาดูว่าแฟนคุณตอบโจทย์หรือเปล่า ซึ่งทั้งหมดนี้คุณต้องคิดเองทั้งหมดเลยค่ะ เพราะแต่ละคนก็มี list สิ่งที่ต้องการต่างๆ กันไป ไม่มีใครเหมือนใครค่ะ


    แล้วก็... (ถ้าเรื่องนี้คุณได้คิดไปแล้ว ก็อ่านผ่านๆ ไปนะคะ)
    อาจจะต้องลองคิดดูด้วยนะคะ ว่าคุณมีอะไรบกพร่องที่แฟนคุณไม่ชอบหรือเปล่า อาจจะมี แต่ไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ หรือไม่แฟนคุณก็ไม่กล้าบอก ถ้ามี ก็เปิดใจคุยกัน อะไรปรับได้ก็ปรับ ปรับตัว และปรับใจด้วยค่ะ

    แต่ปรับยังไง ก็ควรจะต้องให้เป็นตัวของตัวเองที่สุดค่ะ อย่าเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นในสิ่งที่คุณไม่ได้เป็นค่ะ รักตัวเองให้เยอะๆ นะคะ...

    ขอให้คุณผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ...
    .
    ...กรรมอยู่ที่เจตนา... ทำด้วยความตั้งใจดี แม้คิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ไม่หวั่นไหว ไม่ต้องกลัวอะไร... ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียกร้องอะไรด้วย...คนที่จิตใจพัฒนาแล้ว ย่อมแยกแยะได้ และในที่สุดคนพาลที่เจตนาไม่ดีก็ย่อมแพ้ภัยตัวเอง...

    วิธีตั้งกระทู้ตรวจสอบที่ได้ผล เพื่อคำตอบที่รวดเร็ว และมั่นใจ
    วิธีทำให้อ่านความเห็นได้เยอะๆ ต่อหนึ่งหน้า กระทู้นึงจะได้ไม่ต้องยาวเป็นยี่สิบหน้า อ่านได้ในกระทู้นี้ค่ะ http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=51805


  10. #30
    TUBTIM is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2
    ลองคิดอย่างนี้ดีไหมคะ ว่าปัจจุบันนี้ทุกข์มากกว่า หรือว่าถ้าเลิกแล้วจะทุกข์มากกว่า
    ถ้าคิดว่าเลิกแล้วทุกข์มากกว่า ก็อดทนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย
    แต่ขณะเดียวกันก็หาทางแก้ไขไปด้วย แต่ในใจลึก ๆ ให้ทำใจไปพร้อม ๆ กัน (ในกรณีว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้จริงๆ)

    แต่เห็นด้วยนะว่าถ้ายังไม่แน่ใจอย่าไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง เพราะว่าถ้าเคลียร์กันได้แล้ว
    ผุ้ชายจะติดลบในสายตาพ่อแม่เราตลอด แล้วต่อไปเกิดแต่งงานกัน
    ทั้งสองฝ่ายจะไม่สนิทใจกันค่ะ

    ส่วนเรื่องในคอมพ์น่ะ มันตั้งแต่ปี 07 ก้อทำใจลืม ๆ ไปก่อนดีมั้ย เพราะมันนานแล้วอ่ะ
    ลองให้โอกาสและนับเริ่มจากวันนี้ดูดีกว่าค่ะ

Page 3 of 7 FirstFirst 1 2 3 4 5 ... LastLast

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •