Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 10 of 10

Thread: "กฎแห่งกรรม"

  1. #1
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking "กฎแห่งกรรม"

    กฎแห่งกรรม คือ กฎแห่งการกระทำ หมายถึงการกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา หรือความตั้งใจจงใจ ที่เราทำไว้เอง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน แล้วเราก็รับผลแห่งกรรมนั้น เรียกว่า"กฎแห่งกรรม"

    เรื่องของกรรม เป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนมากลำพังปุถุชนคนธรรมดา ไม่อาจที่จะรู้ให้ตลอดสายได้ อย่าว่าแต่กรรมในอดีตที่ข้ามภพข้ามชาติหลายชาติเลย แม้กรรมในปัจจุบันเราก็ยังรู้ได้ยาก เช่นบางคนทำแต่ความดีมาตลอด แต่ก็ได้รับความทุกข์ หรือความเดือดร้อนต่างๆ เป็นต้นบางคนทำแต่ความชั่ว แต่ก็ได้รับยกย่อง มีเกียรติ เป็นต้น


    การไม่เชื่อกรรมหรือกฎแห่งกรรม มีผลเสียมาก ที่บางคนท้อใจไม่อยากทำดีก็เพราะไม่เข้าใจกฎแห่งกรรมอย่างถูกต้อง เมื่อไม่เข้าใจก็ไม่อยากทำความดีเมื่อไม่ทำความดี ชีวิตก็หมดความสุข


    การเชื่อกฎแห่งกรรมเพียงประการเดียวทำให้คนเราตั้งหน้าตั้งตาทำแต่ความดี ชีวิตก็ย่อมจะประสบความสุขทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆ ไป


    บางคนอาจจะสงสัยว่า ก็เราไม่เคยทำความชั่วและได้ทำแต่ความดีมาโดยตลอด แต่ทำไมจึงได้รับความเดือดร้อนต่างๆ อยู่เป็นประจำ ? อย่าได้สงสัยให้เสียกำลังใจในการทำความดีเลย นั่นเป็นผลของความชั่วที่เราได้ทำไว้ในอดีตกำลังให้ผลอยู่ จงยินดีรับและทำความดีเรื่อยไปในวันหนึ่งมันก็ย่อมหมด และกรรมดีก็ย่อมจะให้ผลเราบ้างคราวนี้เราก็ย่อมจะได้รับผลของความดี คือความสุขอื้อซ่าไปเลยเชียวละ


    ก็คิดดูหรือเอาอะไรตรองดูเถอะ ! ขนาดในชาตินี้เราไม่ทำชั่วเรายังเดือดร้อนถึงเพียงนี้ แล้วถ้าเราขืนไปทำชั่วต่อเข้าอีกนอกจากในชาตินี้เราจะเดือดร้อนแล้ว ในชาติต่อไปเราก็ยิ่งจะเดือดร้อนใหญ่


    อย่าสงสัยเลย กรรมกับการให้ผลของกรรม ย่อมลงตัวกันเสมอ เช่น เราทำบุญเราก็ย่อมสบายใจ เราทำบาป เช่น ฆ่าเขา เราก็ย่อมจะทุกข์ใจกลัวผลกรรมจะตามสนองก็เห็นกันอยู่แล้ว ยังจะสงสัยอะไรกันอีกเล่า ? เราไหว้เขาเขาก็ไหว้เรา เราด่าเขา เขาก็ด่าตอบ ก็เห็นเหตุและผลกันอยู่ทนโท่แล้วนี่นาจะมัวชักช้าอยู่ไย
    ?

    ที่คนส่วนมาก มักจะเข้าใจการให้ผลของกรรมผิดก็โดยการเอาการให้ผลกรรมฝ่ายรูปหรือวัตถุไปรวมกับการให้ผลกรรมฝ่ายนามหรือจิตใจไปเสีย คือเข้าใจเพี้ยนไปว่าคนทำบุญให้ทานจะต้องร่ำรวยทันตาเห็น เพราะทางพระสอนว่า คนให้ทานเกิดชาติใดจะร่ำรวยมีเงินทองมากมายเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เป็นต้น


    แต่แล้วเหตุไฉนคนยิ่งทำบุญมาก ก็ยิ่งยากจนลง ? และคนเข้าวัดส่วนมากก็ล้วนแต่เป็นคนจนเล่า ? หรือว่าพระท่านจะหลอกให้คนทำบุญท่านจะได้ร่ำรวย กินดีอยู่สบาย ? ขอชี้แจงเรื่องผลของบุญหรือผลของกรรมประเภทรูปและนามดังนี้


    ผลบุญหรือกรรมประเภทรูป (วัตถุ) นี้ค่อนข้างจะพิสูจน์ยาก เพราะรู้สึกว่า ผลของกรรมหรือบุญฝ่ายนี้ค่อนข้างจะเดินทางช้าไม่ค่อยจะทันใจคนที่คิดมากเลย


    แต่ก็ขอให้มั่นใจเถอะว่าเรื่องของการให้ผลของกรรมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบุญหรือบาปก็ตาม ย่อมจะลงตัวกันเสมอจะมีตัวแปรให้เสียคิวไปบ้าง ก็ย่อมจะไม่พ้นวงจรของกรรมอีกเช่นกัน


    ที่เราเห็นว่า คนรวยเข้าวัดทำบุญน้อย ก็เกิดจากเหตุ ๒ ประการ คือหาเวลาว่างยาก กับประมาทมัวเมาในความมีทรัพย์ ตรงข้ามกับคนจน ซึ่งมีเวลาว่างมาก (ลูกจึงมาก) และมักจะเห็นโทษของความจน จึงตั้งหน้าแต่ทำบุญหวังว่าชาติหน้าจะได้ร่ำรวยกับเขาบ้าง


    ส่วนผลบุญหรือกรรมประเภทนาม (จิตใจ)นี้ เราสามารถเห็นได้ทันทีทันใดทั้งที่นี่และเดี๋ยวนี้เลยว่า คนทำบุญหรือทำความดีจิตใจย่อมจะสดชื่นและแจ่มใสในทันที หรือแม้เพียงแต่คิดเท่านั้น บุญก็เกิดแล้ว


    ยกเว้นแต่คนที่ "มือถือสาก ปากถือศีล" หรือ "ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ" หรือ "ทำบุญเอาหน้า ภาวนาตอแหล" เท่านั้นแหละที่การกระทำมักจะสวนทางกับความคิดอยู่ตลอดเวลา


    การเชื่อกฎแห่งกรรมอย่างถูกต้องจะช่วยตัดหรือปัดความผิดไปให้คนอื่นจนหมดสิ้นทำให้เรายอมรับความจริงอันเกิดขึ้นจากผลกรรมว่า เป็นการกระทำของเราเองเราทำไว้ด้วยตัวเราเอง ความทุกข์อันเกิดจากความคั่งแค้น ว่าคนอื่นมาทำให้เรานั้นก็เป็นอันว่าหมดไป


    เพราะว่าโดยแท้จริงแล้ว เราทำของเราเอาไว้เองทั้งนั้นแล้วเราจะไปตีโพยตีพายเอากับใคร ? ยิ่งเอะอะมะเทิ่งมากไปก็จะยิ่งขายหน้าท่านผู้รู้เขาเปล่าๆ เสียภูมิของบัณฑิตหมด


    บางคนอาจจะยังปากแข็งไม่ยอมเชื่อ ใช่ ! นั่นแหละ ? เราได้ไปทำกับเขาเอาไว้ก่อน ชาติก่อนๆ โน้น ! ชาติไหนก็ไม่รู้แต่ว่าเราต้องไปทำเขาไว้ก่อนแน่ อย่าได้ไปโต้ตอบเขาเลย มันจะได้หายหรือเจ๊ากันไปขืนไปตอบโต้เขาก็จะทำให้ผลกรรมใหม่นี้มันก็จะติดตามไปชาติหน้าอีกไม่รู้จักหมดกรรมหมดเวรกันสักที


    ก็เหมือนเรื่องสมเด็จ (โต) ท่านตัดสินคำฟ้องที่ว่ามีพระสองรูปไปบิณฑบาตทางเรือ องค์หนึ่งพายหัว องค์หนึ่งพายท้ายแต่แล้วเหตุใดไม่ทราบ องค์พายท้ายเกิดเอาพายไปไปตีหัวองค์พายหัวเรือเข้าท่านก็ไปฟ้องสมเด็จฯ สมเด็จฯ ท่านก็ตัดสินว่า "ก็คุณไปตีเขาก่อนนี่ เขาจึงตีเอา"


    พระรูปพายหัวเรือก็แย้งว่า "กระผมไม่ได้ตีเขา เขาตีผมข้างเดียว"

    สมเด็จฯ ท่านก็ยังยืนยันอย่างนั้นจนต้องไปฟ้องพระผู้ใหญ่ที่ปกครองเหนือกว่า สมเด็จ (โต) ท่านก็จึงได้เฉลยว่า


    "
    ถ้าพระองค์นี้ไม่ไปตีเขาไว้ในชาติก่อนแล้วเหตุใดเขาจึงได้มาถูกตีในชาตินี้เล่า
    ?"

    เรื่องนี้ก็ยุติกันไป เพราะสมเด็จฯท่านเล่นยกไปให้กรรมเก่าในชาติก่อน มันก็เอวังกันเท่านั้นเอง


    เอาเป็นว่าการที่เราได้รับความทุกข์ ความเดือดร้อน ความยากจน ความไม่สบายกายความไม่สบายใจทั้งหมดเหล่านั้นล้วนเป็นผลมาจากกรรมชั่วของเราในอดีตโน้นกำลังให้ผลอยู่


    ส่วนว่าเราได้รับความสุข ความสบาย ความร่ำรวย....นั่นก็เป็นผลของกรรมฝ่ายดี ทั้งในอดีตและในปัจจุบันกำลังให้ผลอยู่ผสมผสานกันจนแยกไม่ออก แต่ก็เห็นได้ง่ายๆ ว่า แม้ว่าคนนั้นจะมีบุญมากปานใด ? ก็จะส่งให้มาเกิดในตระกูลที่ร่ำรวยเท่านั้น แต่ถ้าโง่และขี้เกียจในชาตินี้มันก็ไม่พ้นความยากจนไปได้


    เป็นอันว่า การเชื่อกฎแห่งกรรมนั้น มีแต่ผลดีคือช่วยเป็นกำลังใจ ให้ทำความดียิ่งๆ ขึ้นไป และความดีนั้นย่อมมีผลเป็นความสุขผู้ทำความดีก็ย่อมจะมีความสุขในปัจจุบัน และแม้สิ้นชีพไปแล้วก็ย่อมจะไปเกิดในสุคติอย่างไม่ต้องสงสัยเลย.
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  2. #2
    authentic_only's Avatar
    authentic_only is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    2,832

    Thumbs up

    ขอบคุณค่ะคุณ hut2211
    มีเรื่องใหม่เปล่าคะ ชอบอ่านเรื่องเล่าค่ะ
    รักในหลวง และ ครอบครัว...

  3. #3
    hut2211's Avatar
    hut2211 is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,986

    Talking ช้อนยาว 1 เมตร

    มีชาวเดนมาร์คคนหนึ่งนอนหลับอยู่ที่บ้านในเวลากลางคืน มีนางฟ้าลงมาหาเขา ชวนให้ไปเที่ยวสวรรค์กับนรก เขาก็ตกลงไปด้วย

    นางฟ้าพาไปที่ที่หนึ่ง แล้วบอกว่า "ถึงนรกแล้ว" ที่นั้นเป็นห้องใหญ่ ๆ มีโต๊ะยาวๆ บนโต๊ะมีอาหารที่ประณีต อร่อยมีคุณค่าทุกประเภท มีคนนั่งอยู่หลายคนนางฟ้าก็บอกว่า "นี่สัตว์นรก"

    คนเหล่านั้นนั่งมองอาหารที่น่ากินที่สุดในโลก แต่ตัวเขาผอมเหลืองน่าสงสาร

    นางฟ้าบอกว่าที่นี่อนุญาตให้กินอาหารดีๆ ได้ แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามใช้มือหยิบ ต้องใช้ช้อนที่ยาวหนึ่งเมตรตักอาการกินเท่านั้น

    เวลาจะใช้ช้อนตักอาหารเข้าปากตัวเอง คนที่นรกก็ตักไม่ถึงสักที อาหารที่อร่อยหกลงบนพื้นเกือบหมด

    เขาเลยมีความวุ่นวายเดือดร้อนมาก พยายามตักอาหารเท่าไรก็ไม่ถึงปาก จึงผอมโซเพราะอดอาหาร ทั้งที่อยู่ใกล้ชิดอาหารที่อร่อยมีคุณค่าทางโภชนาการ แต่ไม่สามารถเอาเข้ามาถึงในปากของตนเองได้

    นางฟ้าพาไปอีกห้องหนึ่งแล้ว บอกว่า "ถึงสวรรค์แล้ว" ห้องที่สองนี้มีลักษณะเช่นเดียวกับห้องแรกทุกประการ มีโต๊ะอาหารยาว ๆ อาหารประณีตหลาย ๆ อย่างเหมือนกันกับห้องนรก มีเก้าอี้รอบ มีคนนั่งอยู่หลายคน นางฟ้าบอกว่า "นี่เทวดาบนสวรรค์"

    แต่แปลกที่คนบนสวรรค์นั้นยิ้มแย้มแจ่มใสอ้วนท้วนสมบูรณ์สบาย ดูว่าเขากินอาหาร อย่างไร ทั้งๆที่เขาก็ต้องใช้ช้อนยาวหนึ่งเมตรเหมือนกับที่นรก

    "เอ...ทำไมมันไม่เหมือนที่นรก ? ทำไมคนที่นี่สนุกสนานแจ่มใสร่าเริง แข็งแรง"

    พอดูดี ๆ อ้อ! เห็นวิธีของชาวสวรรค์ คือคนข้างหนึ่งของโต๊ะ เขาตักอาหารด้วยช้อนยาว ๆ เอาไปป้อนใส่ปากของคนตรงข้าม คนอีกข้างก็ตักอาหารมาใส่ปากของคนข้างนี้ ก็เลยได้กินกันทุกคน อยู่อย่างสุขสบาย

    สรุปว่า ที่นรกนั้น คนคิดแต่จะได้อย่างเดียว คิดแต่เรื่องความสุขของตัวเอง คิดแต่ว่าเราจะได้อาหาร ได้สิ่งที่เราชอบ โดยไม่คิดถึงคนอื่น

    แต่ที่สวรรค์นั้น มีการช่วยเหลือกัน มีความรักสามัคคีกัน คำนึงถึงความสุขของคนอื่นด้วย จึงก็ได้รับความสุขทั่วถึงกันทุกคน

    ตื่นขึ้นมาแต่ละวัน อย่าถามว่าจะได้อะไรจากสังคม แต่จงถามให้มากว่า จะให้อะไรกับสังคม
    บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย......
    อย่าเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มี แต่จงภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่...
    โกงเค้าชาตินี้ 1 ต้องใช้เค้าชาติหน้าเป็น พัน ทำทำไม?
    ศาสนาไม่ได้เสื่อม แต่คนเสื่อมจากศาสนา

    ธรรมนิยายธรรมะผู้สละโลก
    http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee/web/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81


  4. #4
    ratkatu's Avatar
    ratkatu is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    173
    ชอบมากๆค่ะ ช้อนยาว 1 เมตร เห็นได้ถึงการเอื้อเฟื้อแบ่งปันกันเลยค่ะ
    AcHTuNg BiSSiGeR HuNd!!!!!

  5. #5
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    94
    อ่านแล้วมีกำลังใจมาค่ะ มีแรงทำดีต่อปายย ขอบคุณนะค้า
    ห่างๆกันบ้าง (ก็น่าจะ) ดี เสียตังค์ตะ-หลอด เร๊ยยยยยยย (^^)'

  6. #6
    Meesook's Avatar
    Meesook is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    454
    Quote Originally Posted by hut2211 View Post
    สรุปว่า ที่นรกนั้น คนคิดแต่จะได้อย่างเดียว คิดแต่เรื่องความสุขของตัวเอง คิดแต่ว่าเราจะได้อาหาร ได้สิ่งที่เราชอบ โดยไม่คิดถึงคนอื่น

    แต่ที่สวรรค์นั้น มีการช่วยเหลือกัน มีความรักสามัคคีกัน คำนึงถึงความสุขของคนอื่นด้วย จึงก็ได้รับความสุขทั่วถึงกันทุกคน

    ตื่นขึ้นมาแต่ละวัน อย่าถามว่าจะได้อะไรจากสังคม แต่จงถามให้มากว่า จะให้อะไรกับสังคม
    ชอบ... และเห็นด้วยกับบทสรุปที่สุดเลยค่ะ

    คนที่นึกถึงแต่ตัวเอง ก็เหมือนตกนรก และทุกข์มาก... เพราะเอาแต่โทษคนอื่น และเอาแต่สงสารตัวเอง แต่หากมองให้กว้าง กว้างมากกว่าตัวเอง ก็คงจะทุกข์น้อยลงเยอะค่ะ
    .
    ...กรรมอยู่ที่เจตนา... ทำด้วยความตั้งใจดี แม้คิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ไม่หวั่นไหว ไม่ต้องกลัวอะไร... ไม่ต้องดิ้นรนไปเรียกร้องอะไรด้วย...คนที่จิตใจพัฒนาแล้ว ย่อมแยกแยะได้ และในที่สุดคนพาลที่เจตนาไม่ดีก็ย่อมแพ้ภัยตัวเอง...

    วิธีตั้งกระทู้ตรวจสอบที่ได้ผล เพื่อคำตอบที่รวดเร็ว และมั่นใจ
    วิธีทำให้อ่านความเห็นได้เยอะๆ ต่อหนึ่งหน้า กระทู้นึงจะได้ไม่ต้องยาวเป็นยี่สิบหน้า อ่านได้ในกระทู้นี้ค่ะ http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=51805


  7. #7
    noo_pizza's Avatar
    noo_pizza is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1,683
    ช้อนยาว 1 เมตร อ่านแล้วรู้สึกดีจังคะ
    __________________________

    "ทำเสียงอย่างนี้ ซื้อมาอีกใบแล้วสิ"

    #### รู้ทันอีกแล้ว เซ็ง ####

  8. #8
    barumbum is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    1
    ชอบมากค่ะ

    ขอบคุณมากๆเลยนะค่ะ

  9. #9
    N a m F o n's Avatar
    N a m F o n is offline Trusted Member
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    0
    เป็นคนนึงที่เชื่อเรื่อง "กฏแห่งกรรม" ค่ะ
    และชอบดูรายการ "กรรมลิขิต" ช่อง 5 มากๆ
    ♥ชีวิตคือการเรียนรู้..สู้ต่อไป อย่าท้อที่จะทำดี♥
    My Blog:- http://ceciliamalee.bloggang.com

  10. #10
    Join Date
    Apr 2010
    Posts
    35
    ข้อคิดดีมากเลย
    อ่านแล้วแอบสะอึ้ก 555
    ~romper stomper~

    SO MUCH LOVE YOU TAKE FROM ME

Similar Threads

  1. Replies: 1
    Last Post: 05-19-2021, 02:42 PM
  2. Replies: 1
    Last Post: 05-05-2021, 01:58 PM
  3. Replies: 2
    Last Post: 05-04-2021, 02:04 PM
  4. Replies: 1
    Last Post: 03-29-2021, 04:38 PM
  5. Replies: 1
    Last Post: 03-28-2021, 10:35 PM

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •