กฎแห่งกรรม คือ กฎแห่งการกระทำ หมายถึงการกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา หรือความตั้งใจจงใจ ที่เราทำไว้เอง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน แล้วเราก็รับผลแห่งกรรมนั้น เรียกว่า"กฎแห่งกรรม"
เรื่องของกรรม เป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนมากลำพังปุถุชนคนธรรมดา ไม่อาจที่จะรู้ให้ตลอดสายได้ อย่าว่าแต่กรรมในอดีตที่ข้ามภพข้ามชาติหลายชาติเลย แม้กรรมในปัจจุบันเราก็ยังรู้ได้ยาก เช่นบางคนทำแต่ความดีมาตลอด แต่ก็ได้รับความทุกข์ หรือความเดือดร้อนต่างๆ เป็นต้นบางคนทำแต่ความชั่ว แต่ก็ได้รับยกย่อง มีเกียรติ เป็นต้น
การไม่เชื่อกรรมหรือกฎแห่งกรรม มีผลเสียมาก ที่บางคนท้อใจไม่อยากทำดีก็เพราะไม่เข้าใจกฎแห่งกรรมอย่างถูกต้อง เมื่อไม่เข้าใจก็ไม่อยากทำความดีเมื่อไม่ทำความดี ชีวิตก็หมดความสุข
การเชื่อกฎแห่งกรรมเพียงประการเดียวทำให้คนเราตั้งหน้าตั้งตาทำแต่ความดี ชีวิตก็ย่อมจะประสบความสุขทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆ ไป
บางคนอาจจะสงสัยว่า ก็เราไม่เคยทำความชั่วและได้ทำแต่ความดีมาโดยตลอด แต่ทำไมจึงได้รับความเดือดร้อนต่างๆ อยู่เป็นประจำ ? อย่าได้สงสัยให้เสียกำลังใจในการทำความดีเลย นั่นเป็นผลของความชั่วที่เราได้ทำไว้ในอดีตกำลังให้ผลอยู่ จงยินดีรับและทำความดีเรื่อยไปในวันหนึ่งมันก็ย่อมหมด และกรรมดีก็ย่อมจะให้ผลเราบ้างคราวนี้เราก็ย่อมจะได้รับผลของความดี คือความสุขอื้อซ่าไปเลยเชียวละ
ก็คิดดูหรือเอาอะไรตรองดูเถอะ ! ขนาดในชาตินี้เราไม่ทำชั่วเรายังเดือดร้อนถึงเพียงนี้ แล้วถ้าเราขืนไปทำชั่วต่อเข้าอีกนอกจากในชาตินี้เราจะเดือดร้อนแล้ว ในชาติต่อไปเราก็ยิ่งจะเดือดร้อนใหญ่
อย่าสงสัยเลย กรรมกับการให้ผลของกรรม ย่อมลงตัวกันเสมอ เช่น เราทำบุญเราก็ย่อมสบายใจ เราทำบาป เช่น ฆ่าเขา เราก็ย่อมจะทุกข์ใจกลัวผลกรรมจะตามสนองก็เห็นกันอยู่แล้ว ยังจะสงสัยอะไรกันอีกเล่า ? เราไหว้เขาเขาก็ไหว้เรา เราด่าเขา เขาก็ด่าตอบ ก็เห็นเหตุและผลกันอยู่ทนโท่แล้วนี่นาจะมัวชักช้าอยู่ไย ?
ที่คนส่วนมาก มักจะเข้าใจการให้ผลของกรรมผิดก็โดยการเอาการให้ผลกรรมฝ่ายรูปหรือวัตถุไปรวมกับการให้ผลกรรมฝ่ายนามหรือจิตใจไปเสีย คือเข้าใจเพี้ยนไปว่าคนทำบุญให้ทานจะต้องร่ำรวยทันตาเห็น เพราะทางพระสอนว่า คนให้ทานเกิดชาติใดจะร่ำรวยมีเงินทองมากมายเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เป็นต้น
แต่แล้วเหตุไฉนคนยิ่งทำบุญมาก ก็ยิ่งยากจนลง ? และคนเข้าวัดส่วนมากก็ล้วนแต่เป็นคนจนเล่า ? หรือว่าพระท่านจะหลอกให้คนทำบุญท่านจะได้ร่ำรวย กินดีอยู่สบาย ? ขอชี้แจงเรื่องผลของบุญหรือผลของกรรมประเภทรูปและนามดังนี้
ผลบุญหรือกรรมประเภทรูป (วัตถุ) นี้ค่อนข้างจะพิสูจน์ยาก เพราะรู้สึกว่า ผลของกรรมหรือบุญฝ่ายนี้ค่อนข้างจะเดินทางช้าไม่ค่อยจะทันใจคนที่คิดมากเลย
แต่ก็ขอให้มั่นใจเถอะว่าเรื่องของการให้ผลของกรรมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบุญหรือบาปก็ตาม ย่อมจะลงตัวกันเสมอจะมีตัวแปรให้เสียคิวไปบ้าง ก็ย่อมจะไม่พ้นวงจรของกรรมอีกเช่นกัน
ที่เราเห็นว่า คนรวยเข้าวัดทำบุญน้อย ก็เกิดจากเหตุ ๒ ประการ คือหาเวลาว่างยาก กับประมาทมัวเมาในความมีทรัพย์ ตรงข้ามกับคนจน ซึ่งมีเวลาว่างมาก (ลูกจึงมาก) และมักจะเห็นโทษของความจน จึงตั้งหน้าแต่ทำบุญหวังว่าชาติหน้าจะได้ร่ำรวยกับเขาบ้าง
ส่วนผลบุญหรือกรรมประเภทนาม (จิตใจ)นี้ เราสามารถเห็นได้ทันทีทันใดทั้งที่นี่และเดี๋ยวนี้เลยว่า คนทำบุญหรือทำความดีจิตใจย่อมจะสดชื่นและแจ่มใสในทันที หรือแม้เพียงแต่คิดเท่านั้น บุญก็เกิดแล้ว
ยกเว้นแต่คนที่ "มือถือสาก ปากถือศีล" หรือ "ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ" หรือ "ทำบุญเอาหน้า ภาวนาตอแหล" เท่านั้นแหละที่การกระทำมักจะสวนทางกับความคิดอยู่ตลอดเวลา
การเชื่อกฎแห่งกรรมอย่างถูกต้องจะช่วยตัดหรือปัดความผิดไปให้คนอื่นจนหมดสิ้นทำให้เรายอมรับความจริงอันเกิดขึ้นจากผลกรรมว่า เป็นการกระทำของเราเองเราทำไว้ด้วยตัวเราเอง ความทุกข์อันเกิดจากความคั่งแค้น ว่าคนอื่นมาทำให้เรานั้นก็เป็นอันว่าหมดไป
เพราะว่าโดยแท้จริงแล้ว เราทำของเราเอาไว้เองทั้งนั้นแล้วเราจะไปตีโพยตีพายเอากับใคร ? ยิ่งเอะอะมะเทิ่งมากไปก็จะยิ่งขายหน้าท่านผู้รู้เขาเปล่าๆ เสียภูมิของบัณฑิตหมด
บางคนอาจจะยังปากแข็งไม่ยอมเชื่อ ใช่ ! นั่นแหละ ? เราได้ไปทำกับเขาเอาไว้ก่อน ชาติก่อนๆ โน้น ! ชาติไหนก็ไม่รู้แต่ว่าเราต้องไปทำเขาไว้ก่อนแน่ อย่าได้ไปโต้ตอบเขาเลย มันจะได้หายหรือเจ๊ากันไปขืนไปตอบโต้เขาก็จะทำให้ผลกรรมใหม่นี้มันก็จะติดตามไปชาติหน้าอีกไม่รู้จักหมดกรรมหมดเวรกันสักที
ก็เหมือนเรื่องสมเด็จ (โต) ท่านตัดสินคำฟ้องที่ว่ามีพระสองรูปไปบิณฑบาตทางเรือ องค์หนึ่งพายหัว องค์หนึ่งพายท้ายแต่แล้วเหตุใดไม่ทราบ องค์พายท้ายเกิดเอาพายไปไปตีหัวองค์พายหัวเรือเข้าท่านก็ไปฟ้องสมเด็จฯ สมเด็จฯ ท่านก็ตัดสินว่า "ก็คุณไปตีเขาก่อนนี่ เขาจึงตีเอา"
พระรูปพายหัวเรือก็แย้งว่า "กระผมไม่ได้ตีเขา เขาตีผมข้างเดียว"
สมเด็จฯ ท่านก็ยังยืนยันอย่างนั้นจนต้องไปฟ้องพระผู้ใหญ่ที่ปกครองเหนือกว่า สมเด็จ (โต) ท่านก็จึงได้เฉลยว่า
"ถ้าพระองค์นี้ไม่ไปตีเขาไว้ในชาติก่อนแล้วเหตุใดเขาจึงได้มาถูกตีในชาตินี้เล่า ?"
เรื่องนี้ก็ยุติกันไป เพราะสมเด็จฯท่านเล่นยกไปให้กรรมเก่าในชาติก่อน มันก็เอวังกันเท่านั้นเอง
เอาเป็นว่าการที่เราได้รับความทุกข์ ความเดือดร้อน ความยากจน ความไม่สบายกายความไม่สบายใจทั้งหมดเหล่านั้นล้วนเป็นผลมาจากกรรมชั่วของเราในอดีตโน้นกำลังให้ผลอยู่
ส่วนว่าเราได้รับความสุข ความสบาย ความร่ำรวย....นั่นก็เป็นผลของกรรมฝ่ายดี ทั้งในอดีตและในปัจจุบันกำลังให้ผลอยู่ผสมผสานกันจนแยกไม่ออก แต่ก็เห็นได้ง่ายๆ ว่า แม้ว่าคนนั้นจะมีบุญมากปานใด ? ก็จะส่งให้มาเกิดในตระกูลที่ร่ำรวยเท่านั้น แต่ถ้าโง่และขี้เกียจในชาตินี้มันก็ไม่พ้นความยากจนไปได้
เป็นอันว่า การเชื่อกฎแห่งกรรมนั้น มีแต่ผลดีคือช่วยเป็นกำลังใจ ให้ทำความดียิ่งๆ ขึ้นไป และความดีนั้นย่อมมีผลเป็นความสุขผู้ทำความดีก็ย่อมจะมีความสุขในปัจจุบัน และแม้สิ้นชีพไปแล้วก็ย่อมจะไปเกิดในสุคติอย่างไม่ต้องสงสัยเลย.
 Citizen Member /
 Citizen Member /  Trusted Member
 Trusted Member เพื่ออ่านคู่มือ ของเครื่องมือใดๆ ที่มีเครื่องหมายนี้
 เพื่ออ่านคู่มือ ของเครื่องมือใดๆ ที่มีเครื่องหมายนี้ 
 Previous
		Previous
	 
	 Downtown
Downtown 
		 
						
		 
						
		 
		 
						
					 hut2211
hut2211 
					
					 "กฎแห่งกรรม"
 "กฎแห่งกรรม"
		

 
                            
                            
                                  
				
				
				
					 Reply With Quote
  Reply With Quote 
						
					 
 
		 
				 
						
					 
						
					 
						
					 Originally Posted by hut2211
 Originally Posted by hut2211
					
 
						
					
 
						
					 
						
					